แม็คโครรุกคืบ!จัดงานตลาดนัดโชห่วยครั้งที่ 11 ที่ขอนแก่น ชูแนวคิด “ครัวชุมชน” เน้นอาหารแช่แข็งสร้างกำไรงาม-ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน วางเป้าหมาย 4-5 ปี เพิ่มจำนวนร้านค้าจาก 2 พัน เป็น 2.5 หมื่นร้านค้า
จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 แล้ว สำหรับงาน ตลาดนัดโชห่วย โดย บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ที่มีขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2551 ส่วนในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) ระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม ถือเป็นกิจกรรมใหญ่ประจำปีที่ต่อยอดมาจากโครงการแม็คโคร มิตรแท้โชห่วย เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ และรวบรวมเคล็ดลับ การบริหารจัดการร้าน ตลอดจน สินค้าราคาพิเศษสำหรับการทำธุรกิจร้านโชห่วย มารวบรวมไว้อย่างครบครันในงานเดียว ภายใต้แนวคิด มุ่งมั่น สร้างสรรค์ โชห่วยไทยสู่ความยั่งยืน เพื่อช่วยเตรียมความพร้อม และพัฒนาศักยภาพโชห่วยไทยให้มีความแข็งแกร่ง เป็นศูนย์กลางของชุมชน พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอยู่รอด อยู่รวยอย่างมั่นคงและยั่งยืน
งานตลาดนัดโชห่วย ครั้งที่ 11 ได้แบ่งพื้นที่จัดงานออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 “มิตรแท้ชุมชน...ร้านต้นแบบแห่งความยั่งยืน” โซนที่ 2 สินค้าราคาพิเศษจาก MakroClick แอพพลิเคชั่นสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ โซนที่ 3 การจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของแม็คโคร โซนที่ 4 สินค้ายกแพ็กราคาพิเศษ โซนที่ 5 ตลาดนัดโชห่วย ที่มีบูธสินค้าราคาพิเศษจากพันธมิตรของแม็คโคร โซนที่ 6 เวทีกลาง พบกิจกรรมมากมาย ทั้งการมอบรางวัล, การเสวนาสาระความรู้จากกูรูชื่อดัง, การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ แชร์ประสบการณ์ และกิจกรรมบันเทิงจากศิลปินดาราชื่อดัง และโซนที่ 7 ขอนแก่นมาร์เก็ต รวบรวมอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิดและมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองให้ชมตลอดวัน
สำหรับไฮไลท์สำคัญของปีนี้คือ “ครัวชุมชน” (Community Freezer) ที่นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษของการนำสินค้า “พร้อมทาน” และ “พร้อมปรุง” มาจำหน่ายที่ร้าน ซึ่งเกิดจากแนวคิดที่พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ต้องการความสะดวกในการรับประทานอาหาร และความรวดเร็วในการประกอบอาหาร จึงตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า “กลุ่มอาหารแช่แข็ง” เพิ่มมากขึ้น โดยแม็คโคร ได้เล็งเห็นว่า “ร้านโชห่วย ร้านมินิมาร์ท” ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายใช้สอยของคนในชุมชนควรที่จะนำสินค้า “กลุ่มอาหารแช่แข็ง” มาขายในร้านเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในชุมชน สามารถสร้างกำไรได้สูง อีกทั้งยังสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการในร้านเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทำให้ร้านมียอดขายและผลกำไรเพิ่มขึ้นจนเกิดเป็นธุรกิจภายในชุมชนให้ทุกครอบครัวได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า และชุมชนสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน
โดย นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้โครงการครัวชุมชนมีประมาณ 2,100 ร้านค้าโดยเรามีแนวคิดที่จะทำร้านโชห่วยให้เป็นศูนย์กลางของคนในชุมชน ที่ทำให้คนในชุมชนไม่ต้องเดินทางไปซื้อของสดไกลๆ เพียงแค่มาซื้อของสดแช่แข็งจากร้านโชห่วยครัวชุมชนก็สามารถนำไปปรุงอาหารในครัวเรือนได้ทันที โดยกลุ่มอาหารแช่แข็งนั้นเป็นอาหารที่สามารถทำกำไรได้สูงและกำลังเป็นที่ต้องการของชุมชน ซึ่งตรงข้ามกับของแห้งที่กำไรน้อยและมีการแข่งขันสูง ดังนั้นกลุ่มอาหารแช่แข็งจะช่วยทำให้ร้านโชห่วยได้กำไร ยอดขาย และลูกค้าในร้านเพิ่มขึ้น สำหรับการลงทุนใช้เงินลงทุนเพียง 9,990 บาท ก็สามารถซื้อตู้แช่เพื่อเริ่มต้นกิจการได้เลย
“เมื่อร้านโชห่วยเปรียบเสมือนร้านศูนย์กลางของชุมชนแล้ว ก็เริ่มที่จะมีกลุ่มชาวบ้านนำผักสดมาฝากวางขายที่ร้าน ทำให้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทาง” นางศิริพร กล่าว
นางศิริพร ยังแสดงความมั่นใจว่าจากนี้โครงการครัวชุมชนจะไปได้อีกไกลและเข้มแข็งขึ้น ซึ่งในอนาคตเราวางเป้าหมายในอีก 4-5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มโครงการครัวชุมชนให้ได้ 25,000 ร้านค้า นอกจากนี้เรากำลังทำการทดลองการส่งของให้กับร้านโชห่วยเองเพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยในร้านค้า เราจะทำให้คนรุ่นใหม่ๆ มาต่อยอดและเห็นคุณค่าร้านโชห่วย เชื่อว่าโครงการครัวชุมชน การทดลองส่งสินค้าในลูกค้าและการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะทำให้ร้านโชห่วยสามารถอยู่ต่อไปได้อย่างแข็งแรง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี