“สมเด็จพระสังฆราช” ทรงเป็นประธาน งานบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ ยุคที่ 2 เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ เป็นปีที่ 82
25 สิงหาคม 2562 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงเป็นประธานในการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ งานบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ ยุคที่ 2 เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ เป็นปีที่ 82
อีกทั้งอุทิศถวาย สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เจ้าอาวาสยุคที่ 4 พระราชอุปัธยาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสยุคที่ 1, สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (จินฺตากรเถร) เจ้าอาวาสยุคที่ 5 และพระศาสนโศภน (ภาณกเถร) เจ้าอาวาสยุคที่ 3 ด้วย
การนี้ โปรดให้เชิญพระพุทธรูปประจำวันประสูติและประจำวันเกิด คู่กับพระสถูปพระอัฐิ และอัฐิ อดีตเจ้าอาวาสทุกยุคออกประดิษฐาน
พระเปรียญถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระสงฆ์จตุรวรรคสวดคาถาธรรมบรรยาย พระสงฆ์ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์ รับพระราชทานฉัน พร้อมกับพระสงฆ์อีก 250 รูปรับพระราชทานฉัน จากนั้น พระสงฆ์ 50 รูปสวดมาติกา สดับปกรณ์พระอัฐิ-บังสุกุลอัฐิอดีตเจ้าอาวาส
เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ประสูติเมื่อวันศุกร์ ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2502 เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ (ต้นราชสกุลชมพูนุท) กับหม่อมปุ่น มีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าภุชงค์ ทรงศึกษาอักขรสมัยเบื้องต้นกับเจ้าจอมมารดาสัมฤทธิ์ ในรัชกาลที่ 3 ผู้เป็นอัยยิกา แล้วเสด็จไปทรงศึกษาที่โรงเรียนแรฟเฟิลส์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเสด็จกลับมาแล้ว ทรงบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
ครั้น พ.ศ.2422 ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ประทับ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงพระฉายาว่า สิริวฑฺฒโน
ทรงศึกษาภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต และพระปริยัติธรรมจนแตกฉาน ทรงพระปรีชาญาณพิเศษในทางรจนาหนังสือทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ทรงพระนิพนธ์ตำราและหนังสือสำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น คัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา หรือพจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทย มหานิบาตชาดก นิทานต้นบัญญัติ สามเณรสิกขา เป็นต้น พระนิพนธ์เหล่านี้ยังใช้เป็นคู่มือในการศึกษาภาษาบาลี และการศึกษาพระพุทธศาสนาของพระภิกษุสามเณรมาจนถึงปัจจุบัน
ทรงเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย และทรงริเริ่มให้จัดหลักสูตรธรรมศึกษา เป็นหลักสูตรการเรียนพระพุทธศาสนาสำหรับฆราวาส ควบคู่ไปกับหลักสูตรนักธรรมของบรรพชิต
พระกรณียกิจพิเศษได้แก่ การเป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงผนวช
เมื่อเจ้าประคุณ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสยุคที่ 1 สิ้นพระชนม์ ใน พ.ศ.2444 จึงได้ทรงเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา เป็นเจ้าอาวาสยุคที่ 2
เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงบริบูรณ์ด้วยพระศีลาจารวัตรเนกขัมมปฏิปทาไม่บกพร่อง มีพระอัธยาศัยเยือกเย็นสุภาพ ไม่เคยมีผู้ใดเคยเห็นพระอาการกริ้วโกรธหรือมีรับสั่งผรุสวาทรุนแรงแม้แต่ครั้งเดียว ทรงพระสุขุมคัมภีรภาพในการบริหารกิจการพระศาสนา ด้วยความมั่นคงในหลักการตามพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ
นอกจากนั้นยังทรงอุปการกิจสาธารณูปการไว้เป็นอันมาก เช่น ทรงอุปถัมภ์โรงเรียนวัดราชบพิธสืบต่อจากเจ้าอาวาสยุคที่ 1, ทรงอุปถัมภ์การสร้างวัดมะขามใต้ (วัดชินวราราม) สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย จังหวัดปทุมธานี, ทรงสร้างโรงเรียนวัดชินวราราม (เจริญผลวิทยาเวศม์) จังหวัดปทุมธานี เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ จึงทรงงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนาและในพระอิสริยยศทางราชตระกูลตลอดมานับแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นที่ทรงพระราชศรัทธายิ่งของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลอดจนคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ.2464
เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สิ้นพระชนม์เมื่อวันพุธ ที่ 25 สิงหาคม 2480 สิริพระชนมายุ 77 พรรษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี