ตำรวจรู้ตัวแก๊งคนร้าย บุกปล้นร้านทอง กลางตลาดนาทวี จ.สงขลา85 ล้านบาท คาดมีผู้ร่วมก่อเหตุ 15-20 คน หลายคนมีหมายจับคดีความมั่นคง ลงมือคล้ายเหตุเมื่อ 2-3 ปี ยังไม่โยงป่วนชายแดนใต้ เร่งเช็คข้อมูล“นายกฯ”สั่งเร่งสอบ “กลาโหม” ยัน รบ.ไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง-ละเมิดสิทธิ์ ขณะปชช.ครึ่งหมื่นให้กำลังใจครอบครัวญาติอัลดุลเลาะโดยญาติเดินหน้าขอความเป็นธรรม
ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกปล้นร้านทอง“ห้างทองสุธาดา”กลางตลาดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ตอนกลางวันของวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อตรวจสอบทรัพย์สินอย่างละเอียดแล้ว พบว่าคนร้ายได้ทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 3,400 บาท เครื่องเพชรและทองคำแท่ง รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 85 ล้านบาท ไปนั้น
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกปล้นร้านทองชื่อห้างทองสุธาดา ตั้งอยู่เลขที่178-180 ถนนต่างตานุสรณ์ อ.นาทวี จ.สงขลาว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนสามารถพิสูจน์ทราบกลุ่มคนร้ายผู้ก่อเหตุปล้นร้านทองในพื้นที่ อ.นาทวี ได้แล้ว พบว่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุประมาณมี15-20 คน แบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน เป็นทีมในการก่อเหตุครั้งนี้ โดยพบว่า บางคนมีหมายจับคดีความมั่นคง และหมายจับคดีอาชญากรรม หมายจับติดตัวอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุบางคนยังไม่เคยมีประวัติก่อเหตุ ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด
รองโฆษก ตร.กล่าวว่าสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังยังพบว่าคล้ายเหตุการณ์ปล้นเต๊นท์รถ ใน อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วง 2-3 ปีก่อนแต่ยังไม่ชี้ชัดว่า เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน
ส่วนทองแท่ง ทองรูปพรรณและอัญมณี ที่คนร้ายปล้นไปนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ยังอยู่ในประเทศหรือถูกเคลื่อนย้ายไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
รวมทั้ง เร่งตรวจสอบว่าเหตุการณ์นี้เชื่อมโยงกับเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยหรือไม่ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ทรัพย์สินที่ได้ไป จะถูกนำไปใช้เป็นทุนในการดำเนินกิจการของกลุ่มก่อความไม่สงบ จึงยังไม่มีการตัดประเด็นใดในการสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้ ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งการให้ทุกพื้นที่ ไม่เฉพาะ ในพื้นที่ อ.นาทวี ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษ เพิ่มมาตรการและวงรอบสายตรวจให้เข้มข้นขึ้น ไม่ให้คนร้ายก่อเหตุได้อีกคดีที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำมาเป็นบทเรียน เพื่อปรับยุทธวิธีการสืบสวนต่อไป
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงนี้และเกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นร้านทองมูลค่า85ล้านบาทว่า จากสถานการณ์ที่มีการปล้นอะไรต่างๆวันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)สืบสวนสอบสวนเพราะมีกรณีอย่างนี้ในช่วงที่ผ่านมา
“หลายกรณีเหมือนกันก็ต้องดูว่ามันยึดโยงเกี่ยวพันอะไรกันหรือไม่ เงินดังกล่าวเอาไปใช้ที่ไหนอย่างไร หรือ เป็นแค่การกระทำความผิดทางอาญาอย่างเดียว กำลังสอบกันอยู่นะจ๊ะ ขอให้ใจเย็นๆทุกเรื่องอยู่ในการสอบสวนทั้งสิ้นเพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ทำ หรือหาหลักฐาน ไม่หาวัตถุพยาน หรือพยานบุคคล ท้ายสุดมันก็ดำเนินคดีไม่ได้สักที จึงต้องเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม”พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและมีความรอบคอบในการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังมีการก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ละเลยกระบวนการยุติธรรม ยึดหลักกฎหมาย โดยไม่ให้ก้าวล่วงสิทธิมนุษยชน
ส่วนกรณีฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสดกรณีนายอับดุลเลาะห์ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตามกฎอัยการศึกไปยังศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานีเมื่อวันที่ 20 ก.ค.และหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 25 ส.ค.พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับเอาไว้ว่าให้ดูตามข้อเท็จจริงและให้ความยุติธรรมอย่างทั่วถึงโดยใช้ข้อกฎหมายเป็นหลัก หากมีการทำร้ายร่างกาย จึงถือเป็นเรื่องกฎหมายที่ผิดทางอาญาและวินัย พร้อมทั้งให้สอบสวนตามความเป็นจริงโดยให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายทั้งญาติผู้เสียชีวิตและทหาร
“รัฐบาลไม่มีนโยบายให้กระทำการรุนแรงกับผู้ต้องสงสัย หรือการก้าวล่วงสิทธิมนุษยชนหรือดำเนินการนอกกรอบกฎหมาย ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐไปกระทำในลักษณะดังกล่าวในห้วงที่รัฐมีนโยบายในเรื่องการธำรงความยุติธรรมในพื้นที่เจ้าหน้าที่ดังกล่าวก็ต้องรับผิดทั้งทางวินัยและอาญาแต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องดูตามข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อให้ญาติของผู้เสียชีวิตได้รับข้อมูลตามความเป็นจริง”พล.ท.คงชีพกล่าว
เมื่อถามว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติเสนอยกเครื่องระบบควบคุมผู้ต้องหา3จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากขึ้นหรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่าสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ต้องถามไปถึงความรับผิดชอบของนักการเมืองที่อยู่ในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยว่าได้รับผิดชอบอะไรกับปัญหาที่เกิดขึ้นบ้าง ทุกครั้งที่เกิดปัญหานักการเมืองในพื้นที่ก็ยังคงอยู่ในพื้นที่และได้รับการเลือกมา
“วันนี้ ก็ต้องถามว่าความรับผิดชอบของนักการเมืองในพื้นที่กับปัญหาที่เกิดขึ้นมานานจะแก้ปัญหาอย่างไรโดยเฉพาะการใช้ความรุนแรงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการกดขี่ รวมถึงปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ผลประโยชน์ทับซ้อน จึงต้องถามกลับไปที่นักการเมืองในพื้นที่ด้วยว่า มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างไร แล้วใครได้ประโยชน์เพื่อให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขร่วมกันกับทุกภาคส่วน ไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐแต่ต้องรวมถึงภาคประชาชนฝ่ายการเมือง”พล.ท.คงชีพกล่าว ส่วนการปล้นร้านทองที่ อ.นาทวี จ.สงขลาจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น ขอให้รอกระบวนการตรวจสอบของตำรวจก่อน
ผู้สื่อรายงานบรรยากาศที่บ้านไม้ยกพื้นขนาดเล็กในพื้นที่ ม.3 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บ้านทวด ของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ที่ถูกนำร่างไร้วิญญาณนำกลับจาก รพ.มหาวิทยาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่เก็บไว้เพียง 6 ชั่วโมง ก่อนที่ญาตินำเรือนร่างอาบน้ำศพทำความสะอาด เพื่อนำศพไปห่อด้วยผ้าขาว3ชั้นตามหลักศาสนาแล้ว นำไว้บนเปลหามศพออกจากบ้านนำขึ้นรถยนต์กระบะส่งไปมัสยิดมิฟตาฮูลยันนะห์ บ้านฮูแตปาเซ ม.1 ต.ตะบิ้ง ท่ามกลางประชาชนครึ่งหมื่น ร่วมรอละหมาดที่มัสยิด
ทั้งนี้ ได้มีเพื่อนบ้านญาติพี่น้องตัวแทนจากองค์กรต่างๆผู้นำศาสนาเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจให้แก่ครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่ที่พิการใบ้ตั้งแต่เกิด ที่ไม่สามารถจะระบายความรู้สึกที่อึดอั้นอยู่ในอก ความในใจให้ได้ยินก็ได้แต่ร้องให้จนตาบวม แต่กลับไม่พบเห็นหน่วยงานภาครัฐเลย มีเพียงทหารพรานในพื้นที่คอยอำนวยความสะดวกทางจารจร ขณะที่เพื่อนบ้าน ต่างวิตกกังวลความปลอดภัย
หลังจากนี้ญาติจะไปรีบแจ้งความเพิ่ม จากที่ก่อนหน้านี้ได้ลงบันทึกประจำวันในระหว่างที่นายอับดุลเลาะเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี พร้อมต้องทวงถามความคืบหน้าจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้ยื่นหนังสือของความเป็นธรรมให้อับดุลเลาะและครอบครัว เนื่องจากจนถึงขนาดนี้ยังไม่ได้คำตอบใดๆเลย รวมทั้งคำตอบจากนายกรัฐมนตรี หลังจากภรรยาอับดุลเลาะได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายกฯในระหว่างลงพื้นที่ จ.ยะลา ครั้งล่าสุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี