เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2562 ที่โรงแรมเมอร์เคียว ไอบิส กรุงเทพ สยาม สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ร่วมกับสถาบันนโยบายศึกษา จัดเสวนาเรื่อง "การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมือง" โดย นางทิพย์พาพร ตันติสุนทร ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายศึกษา กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นยุคดิจิทัลซึ่งมีการล่วงละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลโดยง่าย ทำให้บุคคลสูญเสียความเป็นส่วนตัวและอาจส่งผลกระทบถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้
แม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยจะมีการออกกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม ดังนั้น เพื่อนำไปสู่การพิจารณาบริบทในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างรอบด้าน รวมทั้งความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและประชาชน สถาบันนโยบายศึกษาจึงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจัดให้มีการเสวนาเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ขึ้น
ขณะที่ นายโสพล จริงจิตร เลขาธิการ กสม. กล่าวว่า ในยุคไร้พรมแดนที่ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้พลเมืองในประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ที่ใดสามารถรับรู้สัมพันธ์หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง เนื่องจากการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตเป็นโครงข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมดินแดนของทุกประเทศ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการติดต่อสื่อสารจะรวดเร็ว แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งก็คือการสูญเสียสิทธิความเป็นส่วนตัว กล่าวคือข้อมูลส่วนบุคคลจะปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลจากการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ
อาทิ การทะเบียนราษฎร การใช้บริการทางการแพทย์ การจดทะเบียนประกอบธุรกิจ การขอใช้ไฟฟ้า-น้ำประปา การขออนุญาตก่อสร้างอาคาร เป็นต้น ส่วนภาคธุรกิจเอกชน การเข้าไปผูกนิติสัมพันธ์ในกิจการพาณิชย์และการดำเนินการทางแพ่ง เช่น การขอสินเชื่อกับธนาคาร การเช่าซื้อสังหาริมทรัพย์ การติดต่อค้าขายหรือการประกอบธุรกิจ
ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลมักถูกจัดเก็บไว้ในระบบอินเตอร์เน็ตทั้งในโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นหรือไฟล์ดิจิทัลรูปแบบต่างๆ แม้กระทั่งข้อมูลส่วนบุคคลในสื่อสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Google YouTube Facebook WhatsApp Instagram Line ที่ไม่สามารถลบออกจากระบบโดยง่าย จึงมีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปกระทำการซ้ำโดยไม่ได้รับการยินยอมจากบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลและส่งผลให้เกิดความเสียหายบ่อยครั้ง
"ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้มีการเก็บรวบรวม การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ส่งผลให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทิ้งค้างไว้ในระบบเป็นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเพียงพอ ทำให้มีการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวจากข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น การนำหมายเลขโทรศัพท์ บัญชีเงินฝาก สำเนาทะเบียนบ้านหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนไปสวมรอยก่อคดีฉ้อโกงหรือนำไปใช้ในการหลอกลวงสร้างความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน" นายโสพล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี