จากราคาข้าวเหนียวที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึงกิโลกรัมละ 20 บาท ทำให้ชาวนาที่เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางไว้กิน ต่างขนข้าวไปขายให้กับโรงสีเป็นจำนวนมาก ขณะที่ชาวนาในจังหวัดกาฬสินธุ์หลายคน ได้แต่บ่นโอดครวญด้วยความเสียดาย เพราะไม่มีข้าวเปลือกขาย ทำได้แค่เดินสำรวจแปลงนาที่เพิ่งฟื้นตัวจากภาวะฝนทิ้งช่วง และหากราคารับซื้อข้าวสูงต่อไปจนถึงช่วงฤดูเก็บเกี่ยว จะนำไปขายใช้หนี้ ธ.ก.ส.
29 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลพวงจากราคาข้าวเปลือกที่ปรับตัวขึ้นสูงถึงกิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พบว่านอกจากจะทำให้ชาวนาที่เก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางเพื่อรับประทานในครัวเรือน ต่างพากันนำข้าวเปลือกไปขายตามโรงสีและแหล่งรับซื้อทั่วไปอย่างคึกคัก มีรายได้เขาครัวเรือนในช่วงนี้เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังมีชาวนาอีกหลายราย ที่พลาดโอกาสนี้ เนื่องจากไม่มีข้าวเปลือกไปขาย เพราะขายไปหมดแล้วเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
นายประภาษ ภูวงกต อายุ 66 ปีบ้านเลขที่ 82 ชาวนาบ้านดงเมือง หมู่ 10 ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีพื้นที่ทำนา 18 ไร่ โดยปลูกข้าวเหนียวทั้งนาดำและนาหว่าน อาศัยน้ำฝนและน้ำจากคลองชลประทานเขื่อนลำปาว ทุกปีได้ผลผลิตไร่ละประมาณ 250 กก.ส่วนหนึ่งเก็บไว้กินในครัวเรือน ส่วนหนึ่งนำไปขายได้ราคากิโลกรัมละ 7-8 บาท มีรายได้ประมาณ 20,000 บาท ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ตลอดมาทุกๆ ปีที่ประกอบอาชีพทำนาตลอดช่วงชีวิต เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ราคาข้าวเหนียวสูงถึงกิโลกรัมละ 20 บาทในช่วงนี้
นายประภาษ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเมื่อราคาข้าวเหนียวสูงเป็นประวัติการณ์ถึงกิโลกรัมละ 20 บาท ก็รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากที่ไม่มีข้าวเปลือกไปขายเหมือนเพื่อนบ้านที่มีข้าวเปลือกไปขาย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสทองของชาวนาที่มีข้าวเปลือกไปขาย เป็นเรื่องดีที่จะมีรายได้ให้กับคนที่มีข้าวขาย แต่ในส่วนคนที่ซื้อข้าวกินก็อาจจะได้รับความเดือดร้อนจากภาวะที่ข้าวสารจะต้องปรับราคาขึ้นเป็นเงาตามตัว สำหรับตนเหลือข้าวเปลือกเหนียวในยุ้งฉางประมาณ 200 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งจะเก็บไว้กินในครัวเรือนพอประคับประคองถึงฤดูเก็บเกี่ยวราวปลายเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
“เมื่อไม่มีข้าวเปลือกไปขายเหมือนเพื่อนบ้านบ้านตนก็ได้แต่รู้สึกเสียดาย เพราะเคยขายได้ราคาต่ำเพียงกิโลกรัมละ 7-8 บาทเท่านั้น พอเห็นเพื่อนบ้านขายได้ราคาสูงกิโลกรัมละ 20 บาทดังกล่าวก็รู้สึกดีใจด้วย ส่วนตนทุกวันนี้ก็ได้แต่เดินสำรวจแปลงนาข้าวที่เคยเหี่ยวเฉาเพราะภาวะฝนทิ้งช่วง และน้ำชลประทานไม่เพียงพอ พอมีฝนตกลงมาก็เพิ่งจะฟื้นตัว แต่ผลผลิตคงจะได้น้อยลงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามในส่วนของราคาข้าวก็อยากให้ยืนราคานี้ไปถึงช่วงเก็บเกี่ยว และหากได้ราคากิโลกรัมละ 20 บาท อย่างทุกวันนี้ จะแบ่งเก็บไว้กินนิดหน่อยพอคุ้มปี และส่วนใหญ่จะนำไปขาย เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส.” นายประภาษกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี