2 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.อมรา สง่าเนตร วัย 74 ปี เจ้าของบ้าน ว่าถูกคนร้ายแอบย่องเข้ามาขโมยทรัพย์สิน เป็นเครื่องเพชร สร้อยคอทองคำ แหวน และเงินสด ภายในห้องนอนของตนเองในบ้าน รวมมูลค่าทรัพย์สิน 21 รายการ คิดเป็นเงินมากกว่า 2 ล้านบาท และได้เข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจในท้องที่แต่เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเพื่อวอนสังคมช่วยแจ้งเบาะแสจับตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี พร้อมทั้งตั้งรางวัลนำจับไว้จำนวน  2 แสนบาท หากสามารถจับตัวคนร้ายดำเนินคดีได้ ส่วนร้านเพชร ร้านทอง แจ้งเบาะแสได้ของคืนให้รางวัลมูลค่า 10 เปอร์เซ็นต์จากของที่มีได้คืน

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านดังดงกล่าว อยู่ภายในหมู่บ้านเทพพาณิชย์ หมู่ที่ 2 ตำบลโพไร่หวาน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี พบเป็นบ้านชั้นเดียวประเภทบ้านจัดสรร โดยคุณป้าอมรา ได้พาผู้สื่อข่าวชี้จุดที่คนร้ายแอบย่องเข้ามากลางวันแสกๆ บุกงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน

จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายปีนเข้ามาทางด้านหลังของบ้านและบุกเข้ามาทางประตูหลังบ้าน จากนั้นได้ใช้สิ่วหรือของมีคม ตอกงัดที่ประตูลูกบิดห้องนอนของป้าอมรา เข้าไปรื้อค้นภายในห้องนอน และใช้ของแข็งงัดลิ้นชักที่อยู่บริเวณข้างที่นอน ซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องประดับสร้อยคอทองคำ เครื่องเพชร แหวน และเงินสด ที่ใส่ไว้ในกล่องเครื่องประดับ หายไปทั้งหมด ส่วนที่พื้นคนร้ายได้ทำธนบัตรฉบับละ 500 บาท หล่นที่พื้นใต้โต๊ะ จำนวน 2 ใบ มูลค่า 1,000 บาท ซึ่งหลังเกิดเหตุ ป้าอมรา ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มาทำการเก็บรอยนิ้วมือแฝงตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน โดยเฉพาะที่ประตูบริเวณที่ถูกงัดและที่เก๊ะลิ้นชักใส่เครื่องประดับที่ถูกโจรกรรมไปทั้งหมด 

ขณะที่จากการสอบถาม คุณป้าอมรา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุออกจากบ้านเพื่อไปพบแพทย์ตามกำหนด เวลาประมาณ 06.10 น. โดยล็อคประตูทุกบาน โดยเฉพาะห้องที่นอนของตนเอง แต่เหลือเพียงประตูหลังด้านข้างซึ่งติดกับครัว เพราะคิดว่าอยู่มากว่า 10 ปี ไม่เคยเกิดเหตุ อีกทั้งข้างบ้านยังมีคนอาศัยอยู่ด้วย เมื่อกลับมาบ้านเวลา 20.00 น. พบประตูห้องนอนถูกงัด มีเศษไม้ล่วงหล่นที่พื้น เดิมทีครั้งแรกคิดว่าเป็นเศษแมลงที่แมวไปจับมากิน แต่เมื่อเปิดไฟในบ้านพบว่าที่ประตูถูกของแข็งตอกงัดเป็นเศษชิ้นตกอยู่ที่พื้นจำนวนหลายชิ้น ตนจึงได้เปิดประตูเข้าไปดูภายในห้องนอน พบว่าที่บริเวณโต๊ะข้างเตียงนอนถูกงัดลิ้นชักที่ตนเองใช้สำหรับเก็บทรัพย์สิน อาทิ สร้อยคอทองคำ 99% เป็นทองสวิชฯ สั่งทำพิเศษจาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี น้ำหนัก 8 บาทเศษ, สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 2 เส้น, แหวนเพชรวงใหญ่  ล้อมเพชรเม็ด 71 สตางค์, แหวนหยกล้อมเพชร, จี้หยกเป็นรูปน้ำหยดล้อมด้วยเพชร 6 เม็ด, ต่างหูหยกหยดน้ำประดับเพชร, เครื่องทัพทิม ทับทิมกินบ่เซี่ยง ลายปลาคราฟ 1 คู่, แหวนทัพทิมล้อมเพชร 1 วง และยังมีเครื่องประดับเพชรอีกหลายรายการ รวมมูลค่าแล้ว มากกว่า 2 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเงินสด อีกจำนวน 30,000 บาทเศษ บาท ซึ่งเป็นเงินที่เบิกมาเมื่อจ่ายหนี้สิน และธนบัตรของรัชกาลที่ 9 ฉบับละ 500 และ 100 บาท รวมมูลค่ากว่า 20,000 บาทที่เก็บหายไป

ทั้งนี้ คุณป้าอมรา กล่าวว่า คนร้ายอาศัยจังหวะที่ตนเองไม่อยู่บ้านช่วงเช้าเข้าไปก่อเหตุ จากการบอกเล่าของคนข้างบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า คนร้ายรูปร่างท้วม สวมเสื้อยืดสีฟ้า สวมหมวกลักษณะแม่ค้าขายของสวมปิดใบหน้า โดยปีนเข้าทางรั้วหลังบ้านที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นรั้วไม่สูงมากด้านหลังมีกองอิฐกองไว้ เข้ามาทางประดูหลังที่ไม่ได้ปิดไว้ จากนั้นได้เข้าไปงัดประตูห้องนอนและเข้ามากวาดเอาทรัพย์สินไป ซึ่งหลังจากที่ตนเองไปแจ้งความแล้ว ตนก็พยายามหาเบาะแสะจนได้ เบาะแสะที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีพฤติกรรมต้องสงสัย แต่ทั้งนี้ต้องรอผลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง 

สำหรับผู้ที่ทราบเบาะแสหรือพบเห็นทรัพย์สินของตนเองที่นำไปขายตามร้านเพชรหรือร้านทองต่างๆ เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดมีโค๊ชตอกกำกับไว้ และเป็นสิ่งที่สั่งทำมาจึงไม่เหมือนที่มีขายอยู่ตามท้องตลอด จึงอยากฝากร้านทองหรือร้านเพชร หากมีผู้ต้องสงสัยนำสิ่งของดังกล่าวไปขาย ถ้าทางร้านเห็นสงสัยสามารถแจ้งเบาะแสมายังที่ตนเองได้ โทร 062-5979646 หรือแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ตนมีรางวัลนำจับหากได้ของคืน มูลค่า 10% ส่วนผู้ที่แจ้งเบาะแสะและนำจับได้มีเงินรางวัลให้มูลค่า 200,000 บาท เพราะเป็นสิ่งของที่ตนรักและเก็บมาทั้งชีวิต จึงอยากได้ของเหล่านี้คืน

คุณป้าอมรา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนทำความดีเพื่อสังคมมาโดยตลอด ล่าสุดได้นำเงินร่วมทูลเกล้าถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเข้าสภากาชาด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมาที่จังหวัดราชบุรี นอกจากนี้ตนยังร่วมกับสโมสรต่างๆ และกลุ่มจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคม ไม่คิดที่จะเบียดเบียนผู้อื่น แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ที่ตนเองได้เจอถือว่าเป็นการคาดแคล้วไม่เกิดการถูกทำร้ายร่างกายหรือทำให้สูญเสียชีวิต เพราะคาดจากคนร้ายเพียงไม่กี่ชั่วโมง หากตนอยู่บ้านคงจะถูกทำร้าย แต่ทั้งนี้สิ่งของที่หายไปตนอยากได้คืน ซึ่งอยากฝากถึงคนร้ายหากกลับใจสามารถนำมาคืนได้ หรือนำไปส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อโทษหนักจะได้กลายเป็นเบา เพราะเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามนำตัวมาดำเนินคดี