เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ เปิดเผย ว่า ล่าสุดมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนจากอิทธิพลพายุโพดุล รวม 38 แห่ง ได้น้ำ 2,500 ล้าน ลบ.ม.เช่น ภาคเหนือ 849 ล้าน ลบ.ม. , ภาคกลาง 57 ล้าน ลบ.ม. , ภาคอีสาน 706 ล้าน ลบ.ม. , ภาคตะวันออก 52 ล้าน ลบ.ม. , ภาคตะวันตก 695 ล้าน ลบ.ม.และภาคใต้ 140 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเขื่อนแม่มอก มีน้ำเพิ่มขึ้นจนพ้นวิกฤต พร้อมกับเฝ้าระวังเขื่อนน้ำมาก คือ เขื่อนศรีนครินทร์ และหนองหาร จ.อุดรธานี ทั้งนี้ คาดว่าระยะ 1 - 3 วันนี้ ได้น้ำไหลเข้าแหล่งน้ำอีก 2 พันล้าน ลบ.ม.
ขณะที่เขื่อนขนาดกลาง มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 744 ล้าน ลบ.ม.ทำให้เขื่อน 141 แห่ง พ้นวิกฤต และมีน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 30 - 60% จำนวน 29 แห่ง แต่มีแหล่งน้ำ อีก 13 แห่ง ที่ยังมีน้ำไหลเข้าน้อยและอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนลำนางรอง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำแซะ คลองสียัด เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนกระเสียว บึงบอระเพ็ด และเขื่อนทับเสลา ส่วนปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนขนาดใหญ่ลุ่มเจ้าพระยา มีน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้น ได้ให้เขื่อนทางภาคเหนือปรับลดการระบายน้ำลง เพื่อควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 500 ล้าน ลบ.ม./วินาที ลดผลกระทบกับพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ จ.อ่างทอง อยุธยาได้ โดยกรมชลประทาน ได้ปรับระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ที่ 397 ลบ.ม./วินาที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี