พระสมุทรเจดีย์ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของชาวสมุทรปราการ อีกทั้งยังเป็นโบราณสถานที่สำคัญของประเทศ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงดำริให้สร้างขึ้นและพระราชทานนามว่า พระสมุทรเจดีย์แต่สร้างเสร็จเรียบร้อยในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ราษฎรจะเรียกกันว่า พระเจดีย์กลางน้ำ เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากพระบรมมหาราชวัง พระปิฎกธรรม พระปางห้ามสมุทรและพระชัยวัฒน์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้นได้จัดงานสมโภชเป็นที่ยิ่งใหญ่ และเป็นประเพณีสืบมาจนปัจจุบันนี้
โดยงานจะเริ่มในวันแรม 2 ค่ำ เดือน 11 จะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชายหญิงพร้อมใจกันไปช่วยเย็บผ้าแดงผืนใหญ่สำหรับห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ ใช้เวลาอย่างช้า 1 เดือนครึ่งแล้วเสร็จ ซึ่งในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 11 คณะกรรมการจะเชิญขึ้นตั้งบนบุษบกโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะแห่ไปรอบเมือง มีขบวนแห่ของสถานศึกษา หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วมขบวน และอัญเชิญผ้าแดงลงสู่เรือแห่แหนไปตามลำน้ำเจ้าพระยาไปถึงอำเภอพระประแดงแล้วอัญเชิญขึ้นรถแห่รอบตัวเมืองพระประแดงเพื่อให้ชาวพระประแดงได้ร่วมอนุโมทนาแล้วอัญเชิญลงเรือกลับมายังพระสมุทรเจดีย์มาทำพิธีทักษิณาวัตรรอบองค์พระสมุทรเจดีย์แล้วจึงนำผ้าแดงขึ้นห่ม
แต่เดิมเรือสามารถแล่นได้รอบองค์พระสมุทรเจดีย์ ก็จะมีการละเล่นร้องเพลงเรือของสาวหนุ่มเป็นที่ครึกครื้น เรือเดินไม่ได้จึงลดความครึกครื้นลงไป เมื่องานแห่ผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ผ่านพ้นไปแล้วจะเป็นการสมโภชมีมหรสพ การออกร้านตลอดระยะเวลา 7 วัน 7 คืน แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้ก่อนที่จะกลับบ้านคือ การปิดทองและการไปนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์นั่นเอง สำหรับในคืนวันแรม 7 ค่ำ นั้นจะมีงานตลอดรุ่ง ในเวลาเช้าของวันแรม 8 ค่ำ จะมีการแข่งเรือพายเป็นที่สนุกสนาน
นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางมาร่วมกิจกรรมเย็บผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งทางชาวบ้านตำบลปากคลองบางปลากดได้ร่วมกันจัดทำกิจกรรมนี้ขึ้น โดยมีนายยงยุทธ พึ่งชื่น นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ พร้อมคณะสมาชิกสภา กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม
สำหรับผ้าแดงห่มองค์พระสมุทรเจดีย์นั้นเมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา เมื่อก่อนถึงวันเทศกาลออกพรรษาประมาณ 1 เดือนชาวบ้านในตำบลปากคลองบางปลากดและพื้นที่ใกล้เคียงจะเดินทางด้วยเรือและเดินเท้ามารวมตัวบริเวณศาลากลางหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลปากคลองบางปลากดเพื่อร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเย็บผ้าแดงห่มองค์พระสมุทรเจดีย์จนแล้วเสร็จ กระทั่งมาถึงในยุคที่มีจักรเย็บผ้าเข้ามาสู่ชุมชนเมืองการร่วมกันเย็บผ้านั้นได้เลิกทำไป ก่อนที่จะว่าจ้างร้านหรือบ้านที่มีจักรเย็บผ้าเป็นผู้รับเหมาเย็บทั้งหมดซึ่งการเย็บแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 7 วันจึงแล้วเสร็จ ซึ่งทางเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์และชาวบ้านตำบลปากคลองบางปลากดได้ร่วมกันหารือในการพลิกฟื้นประเพณีเย็บผ้าแดงขึ้นมาใหม่หลังที่ห่างหายไปจากผืนแผ่นดินสมุทรปราการกว่า 100 ปี โดยชาวบ้านต่างยินดีออกมาร่วมกันเย็บผ้าแดงห่มองค์พระสมุทรเจดีย์กว่า 100 ชีวิต
นายยงยุทธ พึ่งชื่น นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ กล่าวว่า ความเป็นมาของผ้าแดงห่มองค์พระสมุทรเจดีย์นั้นงานองค์พระสมุทรเจดีย์จะเริ่มตั้งแต่แรม 5 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปีซึ่งเป็นงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งในปีนี้ทางเทศบาลได้ร่วมกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านตำบลปากคลองบางปลากดจัดกิจกรรมเย็บผ้าแดงเพื่อนำขึ้นไปห่มยังองค์พระสมุทรเจดีย์ซึ่งโดยทุกๆ ปี จะใช้จักรเย็บผ้าเย็บปีนี้จึงอยากจะพลิกฟื้นประเพณีเย็บผ้าแดงขึ้นอีกครั้งหลังหายไปจากจังหวัดสมุทรปราการกว่า 100 ปี จึงอยากจะเชิญชวนประชาชนที่สนใจหรืออยากจะร่วมกิจกรรมนี้ซึ่งจะมีเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น สามารถที่จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมได้โดยติดต่อผ่านทางเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งในปีนี้งานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์จะเริ่มขึ้นในวันที่ 17-28 ต.ค.2562 นี้
ชาวบ้านที่เดินมาร่วมกิจกรรมได้กล่าวว่า ตนเกิดมาตั้งแต่ปี 2508 ไม่เคยเห็นและร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เลยมีพียงแค่เล่าสู่กันฟังเท่านั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ร่วมกิจกรรมแบบนี้เลยเป็นครั้งแรกในชีวิตรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พร้อมอธิษฐานขอให้ตนและประชาชนในประเทศมีความสุขความเจริญรุ่งเรืองต่อไป
กัลยกฤษย์ ธนาวัฒน์ชัยกุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี