ภท.เดินหน้าแก้กม.
ให้ปลูกกัญชา6ต้น
หลังรับฟังภาคปชช.
ชง2ร่างเข้าสภา18กย.
“ภูมิใจไทย” ประชุมรับฟังความคิดเห็นภาคปชช.แก้ไขกฎหมายกัญชาเสรีครั้งสุดท้ายให้ปลูกกัญชา 6 ต้น ก่อนส่ง2 ร่าง พ.ร.บ.เข้าสภาฯก่อนปิดสมัยประชุม
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่พรรคภูมิใจไทย จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชน และผู้เกี่ยวข้องกับกฎหมายกัญชาในการแก้ไขกฎหมายกัญชาเสรีครั้งที่ 4 โดยมีนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน
โดยนายสรอรรถกล่าวเปิดงานว่าถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในการหารือกับตัวแทนภาคประชาชนกับ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ... พ.ศ. ... และร่างพ.ร.บ.สถาบันยาเสพติดแห่งประเทศไทย พ.ศ. เพื่อให้ทุกคนแสดงความเห็นให้ตกผลึกและตรงตามเจตนารมณ์ของทุกคน ก่อนนำเสนอทั้ง2ร่าง พ.ร.บ.เข้าสู่สภาฯก่อนปิดสมัยประชุมสภาในวันที่18กันยายนนี้ การผลักดันนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทยนั้นเราเข้าใจดีว่าภายใต้กฎหมาย กฎกติกาที่เป็นอุปสรรค์ในการทำงานเหมือนกัน พรรคมีความพยายามผลักดันเรื่องนี้มาโดยตลอด ต้องการให้นโยบายที่พรรคได้สัญญาให้มีผลเป็นรูปธรรม
โดยนายศุภชัย ใจสมุทร สส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเราไม่ได้อยู่นิ่ง แต่ต้องทำและศึกษาด้วยความระมัดระวังอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และเป็นที่ยอมรับในกติกาโลก โดยตั้งแต่ นายอนุทิน ดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ได้พยายามขยับเรื่องยากัญชาอย่างเต็มที่ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากข้าราชการ ทำให้วันนี้ประชาชนสามารถใช้ยาจากกัญชาได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากหน่วยงานรัฐมองว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ดังนั้นการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว จึงต้องเริ่มที่การแก้ไขกฎหมายโดยมีการร่างกฎหมาย 2 ฉบับขึ้นมาเพื่อเปิดทางให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาทั้งการปลูกและการใช้ทางการแพทย์
นายศุภชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับที่7ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาออกมานั้นมีการคลายเรื่องการใช้ประโยชน์จากกัญชงกัญชาไว้มากขึ้นแต่ถึงแม้จะมีการคลายล็อกไปเยอะ ในการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ แต่พรรคภูมิใจไทยก็ยังไม่สบายใจเพราะได้สัญญากับประชาชนไว้ว่าจะให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ 6 ต้น จึงต่อยอดตรงนี้ ในเรื่องการปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้น ซึ่งตนได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เพิ่มเติมในเรื่องที่ประชาชนคนไทยสามารถปลูกเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ผลิตและจำหน่าย ได้ไม่เกิน 6 ต้นต่อครอบครัวไว้ ส่วนผู้ที่เป็นห่วงเรื่องการควบคุมนั้น ตนได้เสนอร่าง พ.ร.บ.สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรใหม่เพื่อเข้าควบคุมกำกับ วิจัยพัฒนา และอนุญาตเกี่ยวกับพืชยาเสพติด ซึ่งอนาคตสถาบันดังกล่าว อาจจะสามารถอนุญาตให้ปลูกฝิ่น เพื่อใช้ผลิตมอร์ฟีนเพื่อใช้ทางการแพทย์ได้ หากทำได้ ประเทศไทยก็จะมีพืชเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น การรับฟังความคิดเห็นวันนี้ จะนำไปพิจารณาร่างกฎหมาย2ฉบับ ก่อนจะนำเสนอต่อสภาฯในสมัยประชุมนี้ พร้อมกฎหมายอื่นๆรวมกว่า19ฉบับ
นายบัณฑูร นิยมาภา หรือ ลุงตู้ ปราชญ์ชาวบ้านด้านกัญชา กล่าวว่า หลังองค์กรอนามัยโลก ปลดล็อค การแยกสารซีบีดีออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว แนวทางของโลกจะเปลี่ยนไป ดังนั้น เราไม่ควรมองเรื่องยาอย่างเดียว แต่ควรมองไปถึงเรื่องอาหารด้วย โดยใช้สารซีบีดีเป็นหลัก ซึ่งจะเห็นตัวอย่างจากต่างประเทศที่นำไปใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เอาเมล็ดไปทำน้ำมัน รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากเส้นใย รวมไปถึงอาหารสัตย์ เป็นต้น แต่หากเราต้องการให้เป็นยาต้องตั้งเป้าให้กัญชาไทยไปกัญชาโลก ได้มาตรฐานโลก ไม่ใช่แค่สินค้าโอท็อป หากเราทำให้ถึงมาตรฐานโลกก็จะสามารถเข้าถึงตลาดส่วนที่เหลือได้ นอกจากเรื่องยาเพียงอย่างเดียว
“ปัญหาคือต้องการให้ไปซื้อจากใต้ดินหรือไม่ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านที่พบมีนายทุนไปกว้านซื้อจนขาดตลาด วิธีแก้คือขอปลูกเอง 6 ต้น ที่พอเพียงสำหรับเรา จึงขอให้ออกกฎหมายใหม่คือยาเสพติดให้คุณ เพราะกัญชาถูกใช้มาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว” นายบัณฑูร กล่าว
ด้าน นพ.สมนึก ศิริพานทอง กรรมการสมาคมเซลล์บำบัดไทยกล่าวว่าถ้าประเทศไทยจะสร้างนวต กรรมที่ผลักดันกัญชาเป็นยานั้น ต้องสร้างมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่การปลูกกัญชา ที่บ้านต้องการรับรองสายพันธุ์ที่มีสารทีเอชซีไม่สูงเพราะหากค่าซีพีดีสูง ต้องนำเข้ากระบวนการทำยาเท่านั้น เพราะการรับสารทีเอชซีปริมาณสูง จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้และสารในกัญชาที่ช่วยรักษาโรค นอกจากสารทีเอชซี สารซีบีดีที่มีคุณสมบัติทางการแพทย์ ต่างกันเฉพาะโรค บางโรครับสารทีเอชซีแล้วดี บางโรครับสารซีบีดีแล้วดี เป็นต้น แม้กฎหมายขณะนี้จะพร้อมแล้ว แต่ต้องสร้างนวตกรรมให้ประเทศไทยสามารถผลิตเป็นยาที่มีมาตรฐานแล้วนำออกไปขายต่างประเทศ ไม่ใช่ปลูกกัญชากันแบบไม่มีความรู้ แต่ควรมีการต่อยอดให้ได้มาตรฐานและมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี