nn สาเหตุที่บริเวณซอย 18-20 ถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหมมีการร้องทุกข์ร้องเรียนมาตลอด สืบเนื่องจากผู้ประกอบร้านค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง มักนำเอาสินค้าของตัวเองไปวางกองบนฟุตปาธแทบทุกวัน โดยที่ทางเขตสายไหมเองก็ยัง “เอาหูไปนาเอาตาไปไร่”นิ่งเฉยไม่สั่งการแก้ไขปัญหาให้หมดสิ้นไป หรือสาเหตุที่เขตนิ่งเฉยเพราะใกล้การโยกย้าย หรือเพราะ ผอ.เขต ใกล้วันเกษียณ หรือเพราะเขตยังไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่ประชาชนเขาผ่านไปผ่านมาเจอะเจอเดือดร้อน เพราะต้องหลีกหลบวัสดุอุปกรณ์สินค้าของร้านค้าที่นำไปวางขวางทางเดินอยู่ หรือกรณีที่เขตไม่ได้สนใจไยดีกับสิ่งดังกล่าวเนื่องจากประชาชนผู้สัญจรไป-มาบนฟุตปาธตรงนั้นมีจำนวนน้อย
nn อย่างไรก็ตาม การเอาสินค้าวัสดุอุปกรณ์ใดๆ ไปวางกองอยู่บนฟุตปาธ หรือความมักง่ายเอาแต่ได้ของการขับขี่มอเตอร์ไซค์บนฟุตปาธ รวมไปถึงการทำความสกปรกให้กับฟุตปาธ แม้ฟุตปาธบริเวณนั้นจะมีประชาชนใช้สอยน้อย ผู้ที่กระทำย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2560
nn มาตรา 17ห้ามขับขี่ จอดรถบนฟุตปาธ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 5,000 บาท มาตรา 19ห้ามตั้งวางสิ่งของใดๆ ฝ่าฝืนปรับ 10,000 มาตรา 20 ห้ามจำหน่ายสินค้าบนถนนหรือที่สาธารณะ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2,000 มาตรา 39ห้ามติดตั้ง ตาก วาง สิ่งของใดๆ ที่สาธารณะ ฝ่าฝืนปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท กฎหมายไม่มีการยกเว้นได้ อนิจจาเป็นเรื่องแปลกพิสดารพันลึกเหตุเกิดใกล้จมูกเขตสายไหม ปรากฏว่าเขตกลับไม่ “ประสีประสา” ใส่ใจไยดีอะไรเท่าไหร่นัก เหนืออื่นใดบางวันบางครั้งบริเวณนี้ก็มีทั้งรถตู้ มอเตอร์ไซค์ ขึ้นไปจอดประจานกึ๋นเขตอีกต่างหาก ดังนั้นเรื่องนี้ประชาชนเขาจึงฝากถามถึงรองผู้ว่าฯกทม. สกลธี ภัททิยกุล ว่า กรณีปมปัญหาข้างต้นกฎหมายใช้บังคับเหมือนกันหรือไม่ ถ้ามีการยกเว้นก็ต้องบอกให้ชัดว่า“ยกเว้น” เพราะเหตุทรามๆ ดังกล่าวเกิดอยู่ต่อเนื่อง นี่ไม่นับผิวจราจรที่ริมฟุตปาธมี “ขาว-แดง” กำหนดอันแปลความว่า“ห้ามจอด” (ตำรวจจราจรรับผิดชอบแต่ก็ไลฟบอยย์)
nn เมื่อเร็วๆ นี้นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะได้นั่งเก้าอี้ ผอ.สำนักการโยธาคนใหม่ ทุบโต๊ะเปรี้ยงปร้างเรียกเจ้าหน้าที่ของสำนักการโยธา เจ้าหน้าที่เขตอบรม จุดประสงค์เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการเข้าตรวจสอบการทำงานของผู้รับเหมาในพื้นที่ กทม.ทั้งหมดที่มีอยู่เกือบ 140 ไซต์งาน (เมื่อมีปัญหา) โดยแต่ละไซต์งานบริษัทเหล่านี้ก็มีอุปกรณ์ก่อสร้าง (เครน) ขนาดใหญ่ นับเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเพิ่มศักยภาพให้บุคลากรของสำนักการโยธาทั้งส่วนกลางและเขตมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ชัดเจน เมื่อยามต้องมีเหตุเข้าไปตรวจสอบว่า อุปกรณ์ที่นำลงไปนั้นมีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยกับประชาชนมากน้อยแค่ไหน ถือเป็นการป้องปรามเสียก่อนปัญหา “ชะตากรรมชะตาทราม” จะอุบัติเหมือนที่เคยเกิดโครงการนี้เป็นนโยบายหลักของผู้ว่าฯกทม. ที่ประกาศิตไว้ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามักจะเกิดปัญหาอุบาทว์ “เครน” ยักษ์ล้มไปทำความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สินประชาชนอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับเจ้าหน้าที่โยธาจึงเป็นสิ่งที่ถูกทิศทางสุดๆ ทีเดียว nn
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี