‘ในหลวงร.10-ราชินี’
ทรงห่วงปชช.
ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
‘ประยุทธ์’เยือนอีสาน
แก้ปัญหาให้ชาวบ้าน
จัดงบ’63ลุย6โครงการ
เล็งหาช่องเพิ่มเยียวยา
“บิ๊กตู่” ลงพื้นที่อุบลฯ-ยโสธร ตรวจน้ำท่วมเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย เผย “ในหลวง-ราชินี” ทรงห่วงปชช. ยันรัฐบาลพร้อมหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมให้ แต่ต้องทำตามกฎหมาย ใช้เงินให้ถูก รับจะเร่งดำเนินการ เว้าอีสานยาหอมชาวบ้านเป็นห่วงทุกวัน สวดมนต์ให้ทุกคืน รับปากพิจารณางบสนับสนุน 6 โครงการจัดการน้ำของ จ.ยโสธร ด้านกรมชลฯระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่ม
เมื่อวันที่ 9 กันยายน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ประสาน 7 จังหวัดภาคกลาง เตรียมรับมือปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำท่า การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และแนวโน้มสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ปภ.ย้ำ7จว.ลุ่มเจ้าพระยาพร้อมรับน้ำสูง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกล่าวว่า กอปภ.ก.ติดตามข้อมูลปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า ปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ ประกอบกับสำนักงานชลประทานที่ 12 แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนเป็นต้นไป คาดการณ์ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะควบคุมในเกณฑ์ระหว่าง 900 – 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.30 – 0.80 เมตร บริเวณต.บางกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยปริมาณน้ำดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงแม่น้ำสะแกกรัง แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี คลองชัยนาท – ป่าสัก และคลองชัยนาท - อยุธยา รวม 7 จังหวัดคือ จ.อุทัยธานี อ.เมืองอุทัยธานี จ.ลพบุรี อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง และอ.เมืองลพบุรี จ.ชัยนาท อ.สรรพยา จ.สิงห์บุรี อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี และอ.พรหมบุรี จ.อ่างทอง อ.ไชโย อ.เมืองอ่างทอง อ.ป่าโมก อ.โพธิ์ทอง และอ.วิเศษชัยชาญ จ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางบาล อ.ผักไห่ และอ.เสนา จ.สุพรรณบุรี อ.บางปลาม้า รวมถึงปภ.เขตในพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมรับมือสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ระบายเพิ่ม950ลบ.-อยุธยาท่วม80ซม.
นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทว่า ได้ปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจาก 900 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 950 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อยสูงขึ้นและเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง และบ้านกระทุ่ม อ.เสนา ต.ลาดชิด และท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยาช่วงเย็นวันที่ 10 กันยายน โดยระดับน้ำสูง 30 – 80 เซนติเมตรตามความลุ่มต่ำของพื้นที่ ล่าสุดน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจ.นครสวรรค์มีอัตรา 1,507 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวันที่ 8 กันยายน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มและน้ำค้างทุ่งตอนบนไม่ไหลลงมาสมทบมากไปกว่านี้ สำนักชลประทานที่ 12 คาดว่าจะคงการระบายในอัตราไม่เกิน 950 ลบ.ม.ต่อวินาทีนี้อย่างน้อย 2 -3 วัน
กู้อุบลฯเร่งระบายน้ำมูลลงโขง
ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวถึงมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากอุทกภัยลุ่มน้ำมูล จ.อุบลราชธานี ซึ่งน้ำจากแม่น้ำชีไหลมาสมทบ ปัจจุบันน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำบริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 3,975 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำฝั่งเทศบาลนครอุบลราชธานียังต่ำกว่าตลิ่งเล็กน้อย แต่ฝั่งอ.วารินชำราบสูงกว่าตลิ่ง 3.11 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากน้ำลำน้ำชีปริมาตรสูงสุดได้ไหลผ่านบ้านมหาชนะชัย อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เมื่อวันที่ 8 กันยายน อัตราการไหลอยู่ที่ 2,707 ลบ.ม.ต่อวินาที และใช้เวลา 81 ชั่วโมง จึงจะมาถึงตัวเมืองอุบลราชธานี หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มในพื้นที่ระดับน้ำแม่น้ำมูลจะสูงสุดเวลา 23.00 น.ของวันที่ 11 กันยายน ถึงเวลา 01.00 น.ของวันที่ 12 กันยายน อัตราการไหล 4,500 – 4,600 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดว่าระดับน้ำฝั่งเทศบาลนครอุบลราชธานีจะเสมอตลิ่ง ส่วนฝั่งอ.วารินชำราบระดับน้ำจะสูงกว่าตลิ่ง 3.59 เมตร ซึ่งประสานจังหวัดเฝ้าระวัง เสริมพนังป้องกันน้ำฝั่นเทศบาลนครอุบลราชธานี พร้อมทั้งให้สำนักงานชลประทานในพื้นที่จัดจราจรน้ำสับหลีกไม่ให้น้ำจากแม่น้ำชีและน้ำจากแม่น้ำมูลมาถึงอุบลราชธานีเวลาเดียวกัน พร้อมกันนี้ ยังตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูลเหนือแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร เร่งระบายน้ำมูลสู่แม่น้ำโขง
พิจิตรตั้งวอร์รูมรับมวลน้ำจากบางระกำ
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ จ.พิจิตร ยังไม่พ้นจุดวิกฤติ หลังจากมวลน้ำป่าจาก จ.พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ไหลหลากลงมา นอกจากนี้ยังมีมวลน้ำป่าจาก จ.กำแพงเพชร ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนกว่า 10,070 หลังคาเรือน ต้องจมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 1 สัปดาห์ โดยมีระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 50 เซนติเมตร ไปจนถึงกว่า 1 เมตร
นายวรพันธ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรสั่งตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ลุ่มแม่น้ำน่าน และลุ่มแม่น้ำยม ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หลังมวลน้ำก้อนใหญ่ จากภาคเหนือไหลหลากลงพื้นที่ลุ่มแม่น้ำทั้งสองสาย โดยปริมาณน้ำในแม่น้ำยม ที่ไหลผ่านอ.สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็ว เนื่องจากมีน้ำป่าจากจ.กำแพงเพชรไหลบ่าลงมาตามลำคลองสาธารณะต่อเนื่อง และมีมวลน้ำจากทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก ไหลหลากลงมาสมทบต่อเนื่อง นอกจากนี้ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ในอ.บางมูลนาก ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่าน สูงถึงระดับใกล้แตะจุดวิกฤติแล้ว มีระดับน้ำห่างจากระดับตลิ่งเพียง 70 เซนติเมตรเท่านั้น พร้อมกันนี้ ยังกำชับนายอำเภอในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนให้ขนย้ายทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อรับมือน้ำล้นตลิ่งฉับพลัน ที่อาจเกิดขึ้นใน 1-2 วันนี้
เผยร.10-สมเด็จพระราชินีทรงห่วง
เวลา 13.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังจุดจอด ฮ.สวนสาธารณะพญาแถน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร ก่อนเดินทางด้วยรถทรานซ์ฟอร์เมอร์ หมายเลขทะเบียน 7 กบ. 5125 กรุงเทพมหานคร เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่วัดกลางศรีไตรภูมิ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.เมือง จ.ยโสธร ทันทีที่มาถึง นายกฯทักทายหน่วยแพทย์ที่มาดูแลประชาชน พร้อมให้กำลังใจว่า เหนื่อยหน่อยนะ มีภัยแบบนี้ก็ต้องช่วยกัน
จากนั้นนายกฯกล่าวกับประชาชนว่า ทุกคนสบายใจได้ รัฐบาลไม่ทอดทิ้ง และอยากนำความที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ทรงฝากความห่วงใยมาถึงทุกคน และฝากความห่วงใยมากับรัฐบาล ผ่านโครงการต่างๆ ของทุกพระองค์ อย่างไรก็ตาม วันนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 32 จังหวัด ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลคนทุกจังหวัด ไม่ได้ทำให้พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง วันนี้ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องน้ำ ทุกคนย่อมได้รับความเดือดร้อนแน่นอน เพราะฝนตกมากกว่าปกติ
พร้อมเยียวยาตามกม.ย้ำต้องใช้เงินให้ถูก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเยียวยายืนยันว่ารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือตามกฎหมายและกฎระเบียบของกระทรวงการคลัง รวมถึงค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสามารถช่วยเหลือได้มากกว่านี้ โดยให้ไปหามาตรการที่เหมาะสมที่เป็นไปตามกฎหมายเงินต้องใช้ให้ถูกด้วย ใครที่บอกว่าทำง่าย ก็อย่าไปเชื่อ ถ้าทำง่ายจริงคงทำกันมานานแล้ว แต่ตนจะทำให้เร็วกว่าเดิม
พร้อมหนุนงบ6แผนแก้ท่วมยโส
“ในส่วนโครงการต่างๆนั้น งบประมาณปี 2563 ก็เพียงพอจะจ่ายให้ได้ และในส่วน 6 โครงการที่จังหวัดเสนอมาก็ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาว่าทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพื่อให้ทันมกราคม 2563 เพราะเราช้ามาแล้ว และที่ผ่านมาเราทำมาเยอะแล้ว ทั้งโครงการแก้ภัยแล้งและน้ำท่วม”นายกฯ กล่าว และว่า นายกฯ เนรมิตรให้ใครไม่ได้ แต่ยืนยันจะทำให้ด้วยความร่วมมือระหว่างเรา นายกฯห่วงพวกเราทุกวันทุกคืน อยู่กรุงเทพฯ ตนก็ไม่ได้สบาย เพราะก่อนหน้านี้ฝนไม่ตกก็ต้องสวดมนต์ให้ฝนตก วันนี้ก็ต้องสวดมนต์ให้ฝนหยุดตกอีกแล้ว
จากนั้น นายกฯและครม. ได้มอบถุงยังชีพให้กับตัวแทนผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดยโสธร ทั้งนี้ตลอดการพูดคุยกับชาวบ้าน นายกรัฐมนตรี พยายามพูดคุยด้วยภาษาอีสาน แต่ไม่ค่อยมีเสียงตอบรับ นายกฯ จึงพูดว่า “ตกลงฉันพูดอีสานไม่รู้เรื่องหรอจ๊ะ ขอโทษทีย้ายไปนานแล้ว เกิดโคราชแต่ย้ายไปนานแล้ว”
สั่งเร่งระบายน้ำเก็บเข้าแก้มลิง
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ระหว่างที่นายกฯนั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ระหว่างตรวจสถานการณ์น้ำในจ.อุบลราชธานีไปจ.ยโสธร นายกฯกางแผนที่ดูผังเมือง สภาพภูมิศาสตร์ พบส่วนใหญ่เกิดจากน้ำล้นตลิ่งท่วมเป็นวงกว้างในพื้นที่ลุ่มต่ำ เกิดจากฝนตกเกินกว่า 300 มิลลิเมตรหรือตกนานเป็นวัน ท่วมในพื้นที่ประชาชนอยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ จึงสั่งเร่งระบายน้ำหรือจูงน้ำไปหาที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง พร้อมให้หน่วยงานในท้องถิ่นทำความเข้าใจกับประชาชน และหามาตรการช่วยเหลือทดแทน หากต้องใช้พื้นที่ทำเป็นแก้มลิง เหมือนที่จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.พิษณุโลก และให้ขุดลอกลุ่มน้ำสาขาทำผนังกั้นน้ำเพิ่มขึ้น แม้ใช้เวลาและงบประมาณสูง ขอให้ทยอยทำต่อเนื่อง ขณะนี้พบปริมาณน้ำเริ่มทรงตัวหากไม่มีพายุหรือฝนตกเพิ่ม คาดปริมาณน้ำจะลดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมสั่งกระทรวงคมนาคมเร่งซ่อมถนน เพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้ชั่วคราว ก่อนเข้าซ่อมแซมครั้งใหญ่เป็นการถาวร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี