“ด่วน !!! สิงห์บุรี จระเข้ หลุดแล้ว 1ตัว กรมประมง ส่งทีมไกรทอง จากนครสวรรค์ จับตัวได้ทันควัน รองอธิบดีกรมประมง ผวากำชับเพิ่มมาตรการพิเศษ19จว.ประสบอุทกภัย ห้ามจระเข้หลุด ย้ำเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 284ฟาร์ม รีบลงตรวจสอบฟาร์มจระเข้ จ.อุบลราชธานี กำลังน้ำท่วมวิกฤติ ระบุทั่วประเทศเลี้ยงจระเข้76จว.1,067ฟาร์ม”
วันที่ 12 กันยายน 2562 นายถาวร ทันใจ ผู้อำนวยการกองตรวจการประมง กรมประมง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากประมงจังหวัดสิงห์บุรี มีชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลพักทัน อำเภอบางระจัน พบจระเข้ตัวใหญ่ในบึงหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลพักทัน ขณะทาง อบต.กำลังลอกวัชพืชในแหล่งน้ำดังกล่าววันที่ 9 ก.ย.ชาวบ้านหวั่นวิตกมากเกรงจะได้รับอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กเล็ก กรมประมงจึงเร่งส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการไกรทองจากจังหวัดนครสวรรค์ไปตรวจสอบและจับได้ตอนประมาณ 02.30 น.วันที่ 10 กันยายน จระเข้ที่จับได้เป็นเพศผู้ขนาด 2.50 เมตร มีสภาพสมบูรณ์ ประมงจังหวัดสิงห์บุรีได้ทำหนังสือส่งไปเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ และรายงานให้กรมทราบแล้ว
นายถาวร กล่าวว่า จระเข้ตัวนี้หลุดออกมาจากฟาร์ม แต่ไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของ เนื่องจากเกรงจะมีความผิด จระเข้เป็นสัตว์ควบคุมผู้เพาะเลี้ยงต้องได้รับอนุญาตจากกรมประมง ซึ่งจะต้องป้องกันไม่ให้หลุดออกมาจากสถานที่เพาะเลี้ยง ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ประมง สำหรับเรื่องที่เป็นห่วงมากขณะนี้ คือ พื้นที่ที่เกิดอุทกภัยส่วนใหญ่มีฟาร์มเลี้ยงจระเข้ หากทางฟาร์มไม่เสริมคันบ่อไม่ใช้ตะแกรงปิดปากบ่อ และไม่ปิดทางระบายน้ำอาจทำให้มีจระเข้หลุดรอดออกมาได้ สำหรับการเฝ้าระวังและให้ฟาร์มจระเข้เตรียมพร้อมทำมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม รวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการไกรทองเมื่อเกิดอุทกภัยจึงกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ให้ประมงจังหวัดทุกจังหวัดหมั่นไปตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของบ่อเลี้ยงทุกฟาร์ม พร้อมส่งหนังสือเตือนและคำแนะนำในการเฝ้าระวังไม่ให้จระเข้หลุด
สำหรับการทำงานของชุดปฏิบัติการไกรทองจะมีเจ้าหน้าที่ 5-6 คน โดยได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีคล้องจับ รวบตัว มัดปาก โดยต้องระวังไม่ให้ถูกหางฟาด เนื่องจากหากเป็นจระเข้ตัวใหญ่จะมีแรงมากทำให้บาดเจ็บได้ รวมทั้งหากจระเข้งับโดยธรรมชาติแล้วมันจะสะบัด ทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่ยังต้องประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าจับ เช่น หากจับเวลากลางวันจระเข้จะตื่นตัวต้องระมัดระวังกว่าตอนกลางคืน ซึ่งจระเข้มองเห็นไม่ชัด ฝึกการดูพฤติกรรมว่าดุมากน้อยแค่ไหน หากเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์จะดุมากขึ้น ขอให้ประชาชนอย่าหวาดวิตก หากพบเห็นจระเข้ในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่าจับเองให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น เพื่อประสานมายังประมงจังหวัดทันทีจะได้ส่งชุดปฏิบัติการไกรทองเข้าไปจับ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดต่อประชาชน ปีนี้กรมประมงอบรมเจ้าหน้าที่เป็นชุดปฏิบัติการไกรทอง 30 คน ซึ่งจะปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่อบรมปีก่อนรวม 80 นาย เครือข่ายไกรทองเตรียมพร้อมเฝ้าค้นหาและจับจระเข้หากได้รับแจ้งพบจระเข้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ
ด้านนายวิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีตรวจเยี่ยมฟาร์มไชยยนต์ หาทรัพย์ ฟาร์มเลี้ยงจระเข้รายใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรงของบ่อเพาะเลี้ยงให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมประมงกำหนดไว้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ตลอดจนได้มอบสิ่งของพร้อมพบปะพูดคุยเพื่อเป็นกำลังใจให้กับประชาชนผู้ประสบภัย
นายวิชาญ กล่าวว่า จากปัญหาอุทกภัยซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.จนถึงปัจจุบันและคาดการณ์ว่าจะเกิดผลกระทบยาวนานไปอีกระยะหนึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนรวมถึงเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นอย่างมาก โดยรายงานพื้นที่ความเสียหายด้านการประมงล่าสุดพบเพิ่มขึ้นเป็น 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ อุตรดิตถ์ ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด ศรีษะเกษ และจังหวัดกระบี่พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบจากอุทกภัยประมาณ 32,241.58 ไร่ เกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวน 27,762 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 450 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ก.ย. 62)
นอกจากด้านการสำรวจความเสียหายภาคการประมงแล้ว ทางกรมประมงยังได้รับข้อร้องเรียนและสอบถามจากประชาชนเกี่ยวกับการรักษามาตรฐานความปลอดภัยกรณีที่อาจมีจระเข้หลุดรอดลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางอธิบดีกรมประมงได้คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนจึงได้มีการสั่งการให้ทางสำนักงานประมงจังหวัดทุกจังหวัดจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกเยี่ยมเยียนให้คำแนะนำเพื่อเป็นการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมให้กับฟาร์มจระเข้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมก่อนที่จะเกิดปัญหาอุทกภัย ทั้งนี้เมื่อเกิดอุทกภัยในพื้นที่ 19 จังหวัด ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังในการเฝ้าระวังให้มากขึ้นเข้าตรวจสอบฟาร์มต่างๆเป็นพิเศษ นอกจากนี้กรมประมงยังได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไกรทองเพื่อเฝ้าระวังค้นหาและจับจระเข้หากได้รับแจ้งว่าพบจระเข้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเครือข่ายดังกล่าวมีทั้งหมด 8 ศูนย์ และ 43 เครือข่ายย่อยทั่วประเทศ และมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจำนวน 80 นาย ซึ่งทุกนายล้วนแต่มีความชำนาญในการจับจระเข้ในธรรมชาติและได้รับการอบรมเป็นอย่างดี โดยศูนย์ชุดปฏิบัติการไกรทองมี 8 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง นครราชสีมา สงขลา สุราษฎร์ธานี และกระบี่
ปัจจุบันในพื้นที่ 77 จังหวัดของไทยพบว่ามีผู้ประกอบการการเพาะเลี้ยงจระเข้จำนวน 76 จังหวัดมีฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้จำนวนทั้งสิ้น 1,067 ฟาร์ม โดยในพื้นที่ประสบอุทกภัย 19 จังหวัดนั้นพบว่ามีฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้รวม 284 ฟาร์ม
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฟาร์มในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีในครั้งนี้ โดยจังหวัดอุบลฯมีฟาร์มเลี้ยงจระเข้ทั้งหมดจำนวน 11 ฟาร์ม ทำเลที่ตั้งฟาร์มส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ดอนห่างไกลจากแหล่งน้ำธรรมชาติ มีบ่อและระบบการเลี้ยงเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมประมง โดยเมื่อเกิดปัญหาอุทกภัยพบว่าผู้ประกอบการมีความสามารถในการเฝ้าระวังป้องกันจระเข้หลุดรอดลงแหล่งน้ำธรรมชาติได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานการณ์น้ำในบางพื้นที่ยังน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางของประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม จึงขอฝากย้ำเตือนให้ผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงจระเข้เพิ่มความระมัดระวังในการควบคุม ดูแล จระเข้ในครอบครองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ โดยขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
1.ตรวจสอบฟาร์มโดยเฉพาะบ่อเลี้ยงจระเข้ให้มีความแข็งแรงปลอดภัยอยู่เสมอ
2. คัดแยกจระเข้ที่เลี้ยงในแต่ละบ่อให้มีขนาดเดียวกัน เพื่อป้องกันมิให้จระเข้ที่มีขนาดเล็กกว่าหลุดรอดลงท่อน้ำทิ้ง กรณีที่มีการทำความสะอาดบ่อเลี้ยง
3. ปล่อยจระเข้ลงเลี้ยงในอัตราที่ไม่หนาแน่นจนเกินไป เพื่อไม่ให้จระเข้เกิดความเครียดซึ่งอาจจะทำให้จระเข้ป่วยได้ และเพื่อความสะดวกในการตรวจเช็คจำนวนจระเข้
4.หากฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้รายใดมีความเสี่ยงต่อการหลุดรอดของจระเข้ ขอให้เจ้าของฟาร์มดำเนินการเคลื่อนย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัย และทำการแก้ไขปรับปรุงฟาร์มให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยต่อการเพาะเลี้ยง
5.ขอให้ผู้ประกอบการติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
6. จับจระเข้ที่ได้ขนาดออกขายเพื่อลดปริมาณความหนาแน่นของจระเข้ในบ่อเลี้ยง
ฝากถึงพี่น้องประชาชนหากพบเห็นจระเข้ในแหล่งน้ำสาธารณะหรือแหล่งน้ำธรรมชาติโปรดแจ้งสำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อกรมประมง ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 0 2562 0600 หรือหากเกษตรกรประสบปัญหาต้องการความช่วยเหลือต่างๆ สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำหรือขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานประมงอำเภอ/สำนักงานประมงจังหวัด/ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงในพื้นที่ หรือกองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษกลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมง กรมประมง โทรศัพท์หมายเลข 0 2558 0218 และ 0 2561 4740
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี