สั่งกู้น้ำท่วม24ชม.
‘บิ๊กตู่’ห่วงใยประชาชน
พิษ‘โพดุล-คาจิกิ’ดับ32ศพ
เดือดร้อน4แสนครัวเรือน
กรมชลยันสิ้นกย.แห้งหมด
เผยสถานการณ์น้ำท่วม 5 จังหวัด ยังทรงตัว ยอดเสียชีวิตพุ่ง 32 ศพ ด้าน นายกฯ สั่งระดมกำลังช่วยเหลือประชาชน เปิดสายด่วน 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมชลฯ สั่งเร่งเคลียร์ทุกพื้นที่ให้เข้าสู่ภาวะปกติภายในสิ้นเดือนนี้
เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย(มท.) กล่าวสรุปสถานการณ์จากอิทธิพลพายุโซนร้อน”โพดุล” และพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงว่า ยังเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย รวม 32 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ชุมพร อุดรธานี สระแก้ว ลำปาง เลย สุโขทัย ศรีสะเกษ และสกลนคร
ยอดผู้เสียชีวิต32ราย
รวมทั้งสิ้น 179 อำเภอ 932 ตำบล 6,902 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 407,069 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 32 ราย (ยโสธร 8 ราย ร้อยเอ็ด 6 ราย อำนาจเจริญ 4 ราย ขอนแก่น 3 ราย อุบลราชธานี 3 ราย พิจิตร 2 ราย ศรีสะเกษ 2 ราย พิษณุโลก 1 ราย มุกดาหาร 1 ราย สกลนคร 1 ราย น่าน 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 1 คน (ชัยภูมิ)
ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ อพยพประชาชน 23,039 คน ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 51 จุด ประกอบด้วย ยโสธร 15 จุด 2,045 คน อุบลราชธานี 51 จุด 20,864 คน ร้อยเอ็ด 22 จุด 130 คน
ระดมกำลังช่วยผู้ประสบภัย
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ พร้อมระดมวัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ภัย โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกเครื่องส่งสูบน้ำระยะไกล เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประภัย โดยแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ภัยจะคลี่คลาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยและเรือท้องแบนให้บริการขนย้ายสิ่งของและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ตลอดจนสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
“บิ๊กตู่”กำชับทุกหน่วยเร่งช่วยปชช.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chon-o-cha โดยแสดงความห่วงใยประชาชนที่ประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่ว่า “วันนี้ยังคงมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ผมกำชับ หน่วยงานต่างๆ เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เร่งจัดชุดบรรเทาสาธารณภัย ชุดหมอเดินเท้า เข้าดูแลผู้ได้รับผลกระทบ มีการจัดรถเคลื่อนย้าย เรือท้องแบน เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำและเครื่องมือต่างๆ เข้าช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่เดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือโทรสายด่วน 1784 เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ”
กรมชลฯสั่งเคลียร์ให้จบในสิ้นเดือนนี้
ที่ จ.อุบลราชธานี สำนักงานชลประทานที่ 7 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานเปิดศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) โดยได้เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) เพื่อใช้เป็นศูนย์บัญชาการ และบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในการความช่วยเหลือชาวบ้าน
จากนั้น ได้ปล่อยคาราวานเครื่องจักรกลของกรมชลประทาน สำหรับสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ ก่อนลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ M7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง และไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจสถานการณ์น้ำจากมุมสูง พร้อมติดตามการทำงานของเครื่องผลักดันน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร และสะพานโขงเจียม อ.โขงเจียม
ทั้งนี้ นายทองเปลว ได้ประชุมคอนเฟอร์เรนท์กับสำนักชลประทาน ที่ 5-8 บริหารจัดการน้ำ8จังหวัดที่ประสบอุทกภัย แนวลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล ได้สั่งทุกพื้นที่ใช้ทุกวิถีทาง หน่วงน้ำ และผลักดันน้ำให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่งภายใน 5-6 วันนี้ คลี่คลายน้ำออกจากชุมชน ถนน โดยประชาชนจะสามารถกลับเข้าสู่บ้านเรือนได้ และท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ จะลดลงระดับปกติภายในสิ้นเดือนนี้
กรรมการมส..ลงพื้นที่อุบลฯ
วันเดียวกัน เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์ ของ มส. นำคณะสงฆ์ พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) และคณะทำงาน ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ไปติดตามสถานการณ์และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่วัดในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี ประกอบด้วย วัดท่ากกแห่ และวัดคูเดื่อ จากนั้นเดินทางไปยังวัดช่างหม้อ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ และเยี่ยมประชาชนที่โรงครัวพระราชทาน โอกาสนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้ร่วมสมทุบทุนสนับสนุน 50,000 บาท และนายเทวัญ ร่วมสมทบทุนสนับสนุน 10,000 บาท
จากนั้นในช่วงบ่าย คณะเดินทางไปยังวัดมณีวนาราม เพื่อนมัสการพบปะเจ้าคณะผู้ปกครอง ระดับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ และพระเลขานุการฯ จากอำเภอที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ โดยนายเทวัญ ได้ถวายกัปปิยภัณฑ์ไปยังวัดที่ประสบอุทกภัย จำนวน 88 วัด
“เดียร์”อาสาเป็นศูนย์กลางช่วยปชช.
ทางด้าน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้นำนมกล่อง กระดาษชำระ ยารักษาโรค น้ำดื่ม และอาหารสำเร็จรูป ขึ้นรถบรรทุก เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งกำลังเผชิญกับน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 17 ปี ประชาชนใน 25 อำเภอได้รับผลกระทบ โดย น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้อาสาเป็นศูนย์กลางรวบรวมของอุปโภค บริโภคและสิ่งจำเป็นต่างๆ จากกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ ภาคเอกชน รวมถึงนมไทยเดนมาร์ก และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ จึงขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนของบริจาค ถือเป็นน้ำใจของคนไทยที่ไม่เคยทิ้งกัน
7พรรคร่วมฝ่ายค้านลงพื้นอีสาน
ด้าน ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ และตัวแทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงพื้นที่เยี่ยมพี่น้องประชาชนชาวมหาสารคามที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยจุดแรกได้ไปเยี่ยมชาวบ้านที่บ้านหนองหวาย ม.17 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยมีชาวบ้านมารอต้อนรับจำนวนมาก
นายสมพงษ์ กล่าวว่าดีใจที่ได้มาเยี่ยมที่นี่ ทราบว่าชาวบ้านจำเป็นต้องทำนาปรัง จึงต้องหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสนับสนุน และจัดหาแหล่งน้ำให้เกษตรกร พร้อมทั้งสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วย ซึ่งจะต้องหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการสนับสนุนอุปกรณ์การเกษตรและเครื่องปั่นไฟ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายจะช่วยผลักดันและติดตามเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน จากนั้น ได้มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย ก่อนจะเดินลุยน้ำไปเยี่ยมชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม
ต่อมา ได้เดินทางต่อไปยังบ้านใคร่นุ่น ม.9 ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ได้รับผลกระทบจากน้ำหลาก ระบายไม่ทัน ส่งผลให้น้ำท่วมพื้นที่นากว่า 28,000 ไร่ ท่วมขังบ้านเรือน 59 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยได้พบพี่น้องประชาชน ก่อนจะออกเดินทางต่อไปยัง ปรางค์กู่ บ้านเขวา ม.17 อ.เมืองมหาสารคาม และพบหอการค้าและสมาคมการค้าจังหวัดมหาสารคามต่อไป
รมว.พาณิชย์เยี่ยมชาวร้อยเอ็ด
ส่วนที่ รร.จันทรทรุเบกษาอนุสรณ์ ต.เกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและพบปะเกษตรกรที่ได้ผลกระทบจากพายุโพดุล พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย จากนั้นนายจุรินทร์ ได้เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับนโยบายประกันรายได้เกษตรกร โดยกล่าวเปิดงานว่า วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยม พี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนำ ถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค จาก มูลนิธิ ควง อภัยวงศ์ จำนวน 2,000 ชุด มาช่วยเหลือ และให้กำลังใจ พี่น้องผู้ประสบภัย ซึ่งในครั้งนี้ได้มี เกษตรกร ตัวแทนเกษตรกร จากภาคอีสาน ประมาณ 1,000 คน เข้ารับฟังและแสดงความคิดเห็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี