ป.จับกู้ภัยใช้มีดแทงหนุ่มใหญ่ไส้ทะลักปางตาย หนีซุกปีกผู้มีอิทธิพล
15 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.วันที่ 13 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ต.จักรี กันธิยะ สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม(สว.กก.4 บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายณัฐวุฒิ พรมเสน หรือยักษ์ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 11 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.231/2562 ลงวันที่ 2 เมษายน 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีรับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร” โดยจับกุมได้ที่สถานที่บริเวณลานจอดรถเทศบาลตำบลแห่งหนึ่งใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
สืบเนื่องจากได้มี นางเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียหายได้เข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับการกองปราบปราม ขอให้ติดตามตัวจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยนางเอได้ให้ข้อมูลว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ก่อเหตุใช้มีดแทงสามีของตนจนไส้ทะลักอาการสาหัสปางตาย และอ้างว่าผู้ต้องหามีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ดูแลอยู่ ทำให้ไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ ซึ่งนางเอได้เข้าร้องเรียนต่อหน่วยงานหลายหน่วยงานแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีได้ จึงเข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับการกองปราบปราบให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหารายนี้มีดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับมูลเหตุของคดีเกิดขึ้นกลางดึกคืนวันที่ 1 เมษายน 2561 คืนเกิดเหตุ นายณัฐวุฒิซึ่งเป็นอาสากู้ภัยประจำศูนย์แห่งหนึ่งประจำ อ.สารภี ได้เข้าดูแลความเรียบร้อยงานปอยหลวงประจำปี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และอยู่บริเวณหน้าจุดที่มีการจัดงานรำวง บริเวณด้านข้างเวที ต่อมามีเหตุทะเลาะกันในจุดที่มีงานรำวง นายณัฐวุฒิได้ขว้างขวดเข้ามาโดนนายหนึ่ง(นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งนั่งอยู่หน้าเวทีรำวงแล้ววิ่งหลบหนี ผู้เสียหายจึงวิ่งติดตามไป เมื่อตามไปถึงกลับถูกนายณัฐวุฒิใช้มีดพกกระหน่ำแทงสวนมาใส่นายหนึ่ง จนนายหนึ่งถึงกับไส้ทะลักออกมาก่อนฟุบล้มลงและนอนแน่นิ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ จากนั้นมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุนายยักษ์ ได้วิ่งหลบหนีไป
ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สารภี ให้ดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ และพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ ข้อหาพยายามฆ่าและพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะฯ เพื่อดำเนินคดีต่อไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. สืบทราบว่านายณัฐวุฒิมาอาศัยอยู่กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เพื่อหลบหนีคดี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนการจับกุม
ภายหลังถูกจับกุม นายณัฐวุฒิ ให้การว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิด เพราะคืนเกิดเหตุตนได้เข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทในงานปอยหลวงประจำปี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ต่อมามีกลุ่มวัยรุ่น 30 คน วิ่งเข้ามาจะทำร้าย ตนจึงคว้าสิ่งของที่อยู่บริเวณข้างๆตวัดไปมาและวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด และปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท จึงฝากไปถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุหรือเที่ยวในงานต่างๆ อย่าคึกคะนองจนทำให้มีผู้อื่นได้รับความเดือนร้อน และซวยถูกลูกหลงในงานอย่างเช่นตน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การของนายณัฐวุฒิ โดยคดีนี้นายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ให้การขัดแย้งกันกับคำให้การนายยักษ์ ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี