วันอาทิตย์ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
พม. มุ่งเป้า'วิสาหกิจเพื่อสังคม'เครื่องมือพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน

พม. มุ่งเป้า'วิสาหกิจเพื่อสังคม'เครื่องมือพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน

วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2562, 14.48 น.
Tag : เครื่องมือพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน พม. วิสาหกิจเพื่อสังคม
  •  

16 กันยายน 2562  ณ ห้องประชุม ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 รวมทั้งส่งเสริมภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาสังคม โดยมี นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม กล่าวรายงาน ทั้งนี้มีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม สนใจเข้าร่วมกว่า 300 คน กิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย ปาฐกถาพิเศษ “วิสาหกิจเพื่อสังคม รากฐานสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” การเสวนาจากผู้มีประสบการณ์ด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม การจัดนิทรรศการและบูธแสดงผลการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคมของประเทศไทย


นายจุรินทร์ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาตามกระบวนทัศน์ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” บูรณาการการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างมีส่วนร่วมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดย “วิสาหกิจเพื่อสังคม” ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักเพื่อให้ประเทศต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมายต่อเนื่องจากเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals : MDGs) โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 193 ประเทศ ที่ร่วมลงนามในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายในปี พ.ศ. 2573 การส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดยการสร้าง “คุณค่าร่วม” ระหว่างภาคธุรกิจ สังคม และผู้บริโภค ในรูปแบบของวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise  ที่เป็นประโยชน์แก่คนในชุมชน สังคม

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 โดยมีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำหน้าที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมไปพลางก่อน พระราชบัญญัติฉบับนี้มีการกำหนดมาตรการในการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการจดทะเบียน จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อาทิ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร สิทธิประโยชน์ด้านการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ และสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายอื่น รวมทั้งบุคคลที่สนับสนุนกิจการของวิสาหกิจเพื่อสังคมจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรเช่นกัน

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ได้มอบการบ้านที่สำคัญ 3 ประเด็น ให้ช่วยขับเคลื่อน Social Enterprise (SE) ดังนี้

1) ทำอย่างไรให้ SE นำผลกำไรจากการทำธุรกิจแบ่งปันสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม มากกว่าธุรกิจ CSR (Corporate Social Responsibility)

2) ทำอย่างไรที่ไม่ให้ธุรกิจทั่วไป ที่หวังแต่ผลกำไรมาแอบแฝงมาใช้ประโยชน์ จากการเป็น SE

3) ทำอย่างไรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้ SE ที่ดี สามารถยืนหยัดอยู่ได้ เพื่อนำผลกำไรไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

นางนภา เศรษฐกร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมได้ผลักดันและขับเคลื่อนกฎหมายฉบับนี้ ดังนี้ 1) เร่งรัดการจัดทำกฎหมายลำดับรอง ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้การส่งเสริม สนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม และกลุ่มกิจการเพื่อสังคมเกิดผลเป็นรูปธรรม 2) การสร้างการรับรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นเรื่องที่จำเป็นและเร่งด่วน เนื่องจากพบว่าภาคส่วนต่าง ๆ ยังไม่มีความเข้าใจในวิสาหกิจเพื่อสังคม 3) การส่งเสริม พัฒนาศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถของวิสาหกิจ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความท้าทาย ต้องมีการกำหนดเครื่องมือ และมาตรการการสนับสนุนให้เหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการของวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งในกฎหมายได้กำหนดให้มีการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนในระยะเริ่มแรก การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี การบริหารงานบุคคล การเงิน การตลาด เป็นต้น เพื่อทำให้วิสาหกิจเพื่อสังคมเหล่านั้น สามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ และสามารถอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้

4) การพัฒนาระบบฐานข้อมูล และองค์ความรู้ด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งจะทำให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงสถานการณ์ ทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจน และสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมของประเทศไทยต่อไป ปัจจุบันมีวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการรับรองแล้วทั้งสิ้น จำนวน 103 กิจการ (กิจการเพื่อสังคมทั่วไป จำนวน 33 กิจการ และบริษัทประชารัฐรักสามัคคี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด จำนวน 70 กิจการ)  นอกจากนี้ ยังมีกิจการที่ใช้คำว่า “วิสาหกิจเพื่อสังคม” ประกอบเป็นชื่อในการดำเนินกิจการอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ จำนวน 133 กิจการ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้ต้องดำเนินการจดทะเบียนให้ครบถ้วนถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ ภายใน 180 วัน (18 พฤศจิกายน 2562)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'วราวุธ\' นำคณะผู้บริหาร พม. ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.68 'วราวุธ' นำคณะผู้บริหาร พม. ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.68
  •  

Breaking News

‘คำนูณ’หวด‘รัฐ-กต.’ เข้าใจไหม‘ทหารเสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องแผ่นดิน’

ยึดหลักมนุษยธรรม! ไทยส่งมอบ'ศพทหารกัมพูชา' 12 นายกลับแผ่นดินเกิด

โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯ 3 จังหวัด เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบญาติของกำลังพลที่เสียชีวิต

คนไทยดับ 1 เจ็บ 1 เหตุ'กัมพูชา'ยิงจรวดใส่'อ.กันทรลักษ์'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved