ป.ป.ช.ฟันอาญา-วินัยร้ายแรง ผอ.-รองผอ.สามเสนฯ เซ่นปมเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ เผยพฤติการณ์เรียกรับเงิน-เบียดบังเงินเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ข่มขืนใจ จนท.การเงินให้ออกใบเสร็จย้อนหลัง ปกปิดความผิดตนเอง
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า จากกรณีกล่าวหานายวิโรฒ สำรวล ผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กับพวก ว่าทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 2 ราย เพื่อแลกกับการเข้าเรียนโรง ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ช.ได้รับเรื่องมาจาก ป.ป.ท. และมีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยมีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการป.ป.ช. เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนนั้น พบข้อเท็จจริงว่า นายวิโรฒ และนายภูสิทธิ์ ประยูรอนุเทพ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ได้ร่วมกันเรียกรับเงินจากผู้ปกครองรวม 6 ราย เป็นเงิน 1,440,000 บาท และมีการเบียดบังเงินดังกล่าวนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว นอกจากนั้นยังพบว่า นายวิโรฒ นายภูสิทธิ์ และนายประเจิน โชติพงศ์กุล ครูชำนาญการพิเศษ (หัวหน้างานรับนักเรียนโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย) ได้ร่วมกันสั่งการให้เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีฝ่ายบริหารงานบุคคลการเงินและสินทรัพย์ 1โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยออกใบเสร็จรับเงินว่า โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยได้รับเงินบริจาค โดยให้ลงวันที่ย้อนหลัง แล้วนำเงินสดบางส่วนเข้าฝากเพื่อปกปิดการกระทำความผิดของตน
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติว่า การกระทำของนายวิโรฒและนายภูสิทธิ์ กรณีรับเงินบริจาคโดยไม่ออกใบเสร็จรับเงินแล้วเบียดบังเป็นของตนเองโดยทุจริต รวมทั้งข่มขืนใจเจ้าหน้าที่การเงินฯในการออกใบเสร็จรับเงินนั้น มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147,148,157,162(1) (4) ประกอบมาตรา 83 มาตรา 90 และมาตรา 91 และตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ส่วนนายประเจิน กรณีร่วมกันข่มขืนใจจ้าหน้าที่การเงินฯ มีมูลคามผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148,157,162 (1)(4) ประกอบมาตรา 86มาตรา 90 และมาตรา 91 และตาม พ.ร.ป.ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงเช่นกัน
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่านอกจากนั้น สำนักงานป.ป.ช. ยังได้มีการศึกษาและออกมาตรการป้องกันการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ และมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว และให้มีการยกเลิกประกาศสำนักงานคณะกรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) กรณีนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานปีการศึกษา 2560 ซึ่งมีการกำหนดการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษก็ได้หลายกรณี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี