“ดีเอสไอ”ระบุคดีบิลลี่คืบ70% พร้อมเร่งตามรถจยย.บิลลี่ ด้านอธิบดีดีเอสไอยันสำนวนต้องรัดกุมปิดช่องต่อสู้ ขณะที่“ป.ป.ท.-ป.ป.ช.”เตรียมส่ง 6 สำนวนทุจริตเกี่ยวข้อง จนท.อุทยานแก่งกระจานให้ดีเอสไอสอบเป็นคดีพิเศษ
19 กันยายน 2562 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าในการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษที่ 13/2562 กรณีนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำกลุ่มกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย หายตัวไปภายหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมตัว พร้อมรถจักรยานยนต์ในความผิดเกี่ยวกับการนำน้ำผึ้งป่าออกจากเขตอุทยานแห่งชาติโดยผิดกฎหมายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ว่า การสอบสวนมีความคืบหน้าไป 70% แล้ว แต่ยังมีประเด็นสำคัญที่ยังสอบสวนและรวบรวมหลักฐานอยู่ คาดว่าจะสรุปสำนวนได้ภายในเวลา 3 เดือนตามที่กำหนดไว้ โดยขณะนี้เพิ่งผ่านมาเพียง 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอยังรอผลตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกและวัตถุพยานจากทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนรถจักรยานยนต์และกล้องถ่ายรูปของนายบิลลี่ที่สูญหายไป ยังอยู่ระหว่างการติดตาม แต่ยอมรับว่ามีผู้แจ้งข้อมูลเข้ามาที่ดีเอสไอ
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ส่วนคราบเลือดมนุษย์เพศชายที่ติดอยู่พรมห้องโดยสารรถยนต์ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานนั้น พนักงานสอบสวนกำลังหารือว่าจะนำมารวมในสำนวนหรือไม่ โดยมีการประสานกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ภาค 7 เพื่อติดตามผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งการดำเนินการใกล้เสร็จสิ้น และจะออกรายงานการตรวจพิสูจน์เพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษต่อไป
ทั้งนี้ การประชุมในครั้งนี้ยังไม่ได้หารือถึงการออกหมายเรียก หมายจับ หรือหมายค้น โดยพนักงานสอบสวนจะนัดประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีอีกครั้งในวันที่ 26 กันยายน นี้
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเหลือพยานแวดล้อมที่ดีเอสไอจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมอีกเพียงเล็กน้อย โดยพยานบุคคล พยานแวดล้อม และวัตถุพยานที่มีผลบ่งชี้ทางนิติวิทยาศาสตร์จะต้องสอดคล้องกันตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุนายบิลลี่หายตัว ขณะเกิดเหตุฆาตกรรม และหลังเกิดเหตุ ซึ่งสำนวนคดีต้องทำด้วยความรอบคอบรัดกุม ไม่มีช่องว่างที่จะนำมาเป็นข้อต่อสู้ได้ แม้ว่าพนักงานสอบสวนบางคนจะมีความเห็นว่าหลักฐานเพียงพอออกหมายจับ และสั่งฟ้องคดีแล้ว แต่ในฐานะอธิบดีดีเอสไอยืนยันว่าจะต้องทำสำนวนให้รัดกุมมากที่สุด
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอพยายามเร่งรัดเพื่อขอรับสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่จับกุมตัวนายบิลลี่ในความผิดตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติแล้วไม่ดำเนินคดี โดยอ้างว่าปล่อยตัวไป ซึ่งสำนวนดังกล่าวถูกส่งมอบไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อส่งต่อมาให้ดีเอสไอสอบสวนเป็นคดีเดียวกัน ซึ่งสำนวนของ ป.ป.ท.ถือเป็นต้นเรื่องหนึ่งในการสอบสวน หากยังไม่ได้รับสำนวนต้นเรื่องก็ยังไม่สามารถสรุปผลการสอบสวนไปล่วงหน้าได้
ด้านแหล่งข่าว เปิดเผยว่า ป.ป.ท.และป.ป.ช. เตรียมที่จะส่งสำนวนคดีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานถูกยื่นร้องเรียนให้ตรวจสอบทั้งหมด 6 สำนวนมาให้ดีเอสไอสอบสวนเป็นคดีพิเศษทั้งหมด ไม่เพียงคดีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากการไม่นำตัวนายบิลลี่ส่งให้ตำรวจดำเนินคดีเท่านั้น แต่จะครอบ
คลุมคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจาน เช่น กรณีเข้ารื้อทำลายเผาบ้านชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย คดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง และคดีทุจริตปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี