วันที่ 20 กันยายน 2562 เวลา 09.00 น. นางสังวร ชินารักษ์ (ของสงวนชื่อ) อายุ 73 ปี ชาวจ.ชุมพร ได้นำตัว ด.ญ.แก้ว นามสมมุติ อายุ 11 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวพร้อมด้วย ด.ญ.กาน นามสมมุติ วัย 11 ปี เพื่อนของหลาน เข้าพบ นางสาวพวงเพ็ญ ใจกว้าง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร และนางสาวชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร เพื่อแจ้งให้ช่วยเหลือหลานสาวและเพื่อนหลานสาว หลังจากที่ทั้งสองถูกนายรักพงษ์ กรรณสูต หรือ ต้อ  อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.กาน ลวนลามและข่มขืน

นางสังวร ได้เปิดเผยว่า เมื่อวานช่วงเย็นที่ผ่าน ขณะที่ตนเองกำลังขายของอยู่ในตลาดนัดเย็นสามแยกซีเฟรช ด.ญ.แก้ว ซึ่งเป็นหลานแท้ๆของตนเอง และ ด.ญ.กาน เพื่อนนักเรียนของห้องเดียวกันกับหลาน ได้มาหาทั้งชุดนักเรียน ก่อนจะเล่าให้ตนเองฟังว่า ด.ญ.กาน ได้ถูก นายรักพงษ์ พ่อเลี้ยง ข่มขืนมานาน ตั้งแต่ ด.ญ.กาน ยังอยู่ ป.5 นอกจากนี้ นายรักพงษ์ ยังได้ลวนลาม โดยใช้มือลูบ คลำและใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ อีกด้วย และนายรักพงษ์ ได้ขู่กับหลานสาวและเพื่อนหลานสาว ว่า หากไปเล่าให้ใครฟัง จะฆ่าทิ้ง ซึ่งเด็กทั้งสองเกิดความกลัวจึงไม่ได้เล่าให้ใครฟัง มาวันนี้ ด.ญ.กาน เพื่อนหลานสาว มีอาการเจ็บท้องอย่างหนัก จึงยอมปริปากบอก ตนเองหลังจากที่ได้ฟังคำบอกเล่าจากหลานและเพื่อนสาว ยอมรับว่าเจ็บใจมาก กับพฤติกรรมความชั่วของนายรักพงษ์ ที่กระทำต่อเด็ก จึงเดินทางมาให้ทางบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร ซึ่งดูแลด้านนี้อยู่ ได้ช่วยเหลือดำเนินการเอาผิดกับนายรักพงษ์ ให้ถึงที่สุด

 เวลาต่อมา นางสาวพวงเพ็ญ ใจกว้าง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร และนางสาวชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร ได้นำตัวนางสังวร พร้อม ด.ญ.แก้ว และ ด.ญ.กาน เดินทางมาพบ ร.ต.อ.ชำนาญ คงทอง รอง สว.สอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร เพื่อแจ้งความ โดยมี นางสาวส้มแป้น แม่ของ ด.ญ.แก้ว ซึ่งทราบเรื่อง ได้รุดมายัง สภ.ปากน้ำชุมพร ก่อนจะโผล่เข้ากอดร่ำไห้ด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของตน

จากการสอบสวน ด.ญ.แก้ว ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปเที่ยวที่บ้านของ ด.ญ.กาน เพื่อนร่วมห้องเรียน แล้วนายรักพงษ์ พ่อเลี้ยงของ ด.ญ.กาน ได้ชักชวนตนเองและ ด.ญ.กาน ไปเที่ยวห้างแห่งหนึ่งในตัวเมือง ก่อนจะไปต่อที่พ่อปู่น้ำผุด แล้วแถวสวนปาล์มใกล้ชายทะเล ตลอดทาง นายรักพงษ์ ได้บังคับให้ตนดื่มเบียร์ และตลอดทางนายรักพงษ์ ได้ใช้มือลูบ คลำ และยังใช้นิ้วใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของตน แม้ตนจะพยายามปัดป้องแต่ด้วยความมึนเมา จึงไม่สามารถป้องกันตัวได้ แม้ ด.ญ.กาน ได้ร้องขอให้หยุด แต่นายรักพงษ์ ยังด่า ด.ญ.กาน ว่าเรื่องของกู อีกด้วย หลังจากนั้นนายรักพงษ์ ก็ได้ขับรถมาส่ง พร้อมขู่ฆ่าหากไปเล่าให้ใครฟัง ตนจึงเกิดความกลัวปิดเรื่องเงียบมาตลอดแม้แม่และคนในบ้านก็ไม่มีใครรู้ จนมาวันนี้ ที่ ด.ญ.กาน เกิดเจ็บท้อง ขึ้นมา และได้เล่าว่า ถูกนายรักพงษ์ พ่อเลี้ยง ข่มขืนมานานแล้ว ตั้งแต่ เรียนอยู่ ป.5 จึงได้ตกลงนำเรื่องทั้งหมดมาเล่าให้ นางสังวรย่าฟังดังกล่าว

ในขณะ ด.ญ.กาน ได้ให้การว่า นายสมโชค บำรุงญาติ(ของสงวนชื่อ)พ่อกับนางวรรณภา สินสุภา (ของสงวนชื่อ)แม่ ได้หย่าร้างกันมานานกว่า 7 ปีแล้ว ซึ่งต่างก็ไปมีใหม่ทั้งคู่ โดยตนได้อยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง แถววัดพิชัยยาราม ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร โดยเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 ขณะนั้นตนเรียนอยู่ชั้น ป.5 หลังจากกลับจากโรงเรียนตนเองก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า โดยใส่เสื้อผ้าเป็นกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อยืด แล้วนอนเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าทีวีเพียงลำพัง ส่วนแม่ไปขายของตลาดนัดเย็น แล้วพ่อเลี้ยงได้เข้ามาในบ้าน พร้อมบอกตนเองไปเปลี่ยนใส่ขาสั้นหลวมเพื่อจะนั่งนอนสบายไม่อึดอัด ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไรก้ไปเปลี่ยนแล้วกลับมานอนเล่นมือถือที่เดิม

ด.ญ.กาน ให้การต่อว่า สักพักนายรักพงษ์ พ่อเลี้ยง ได้เข้ามาทำที่หยอกล้อกอด หอม ซึ่งตนก็ดูแปลกแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าพ่อหอมลูก แต่ความคิดผิดไปเพราะพ่อเลี้ยงเริ่มลงมือจับตนเองกอดรัดฟัดเหวี่ยง แรงสู้ไม่ไหวจึงถูกจับแก้ผ้า ก่อนลงมือข่มขืนตน ต่อจากนั้นก็บ่อยๆขึ้น ตกอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ทั้งที่แม่ก็อยู่ที่บ้านเหมือนกัน และตนก็บอกแม่ให้รู้ แต่แม่ก็นิ่งเฉย ปล่อยให้พ่อเลี้ยงข่มขืนตนเองมานานตั้งแต่ ป.5 และตอนนี้ตนอยู่ ป.6 แล้วก็ยังถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนอยู่ตลอด จนล่าสุดตนเองเกิดเจ็บท้อง จึงได้พูดคุยกับ ด.ญ.แก้ว ซึ่งถูกพ่อเลี้ยงลวนลามเหมือนกัน จนในที่สุดก็นำเรื่องราวทั้งหมดมาเล่าให้นางสังวร ย่าของ ด.ญ.แก้ว ได้ทราบเพื่อให้ช่วยเหลือพวกตนให้พ้นจากมือมาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมานางวรรณภา แม่แท้ๆของ ด.ญ.กาน ได้เดินทางมาที่ สภ.ปากน้ำชุมพร พร้อมให้ปากคำต่อ นางสาวพวงเพ็ญ ใจกว้าง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร และนางสาวชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร และ ร.ต.อ.ชำนาญ คงทอง รอง สว.สอบสวน ก่อนจะขอให้ยุติเรื่องทั้งหมดจบลงไว้แค่นี้ ก่อนจะเดินทางกลับโดยไม่ยอมแจ้งความเอาผิดกับทางนายรักพงษ์ สามีสุดที่รัก

ต่อมานายสมโชค พ่อแท้ๆของ ด.ญ.กาน ซึ่งได้ทราบเรื่องทั้งหมดจากเจ้าหน้าที่ จึงได้รุดมาอย่างเร่งด่วนพร้อมขอเป็นผู้แจ้งในฐานะผู้ปกครองของผู้เสียหาย ให้ดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับนายรักพงษ์ พ่อเลี้ยงสุดชั่วเพื่อไม่ให้เป็นกรณีตัวอย่างต่อไป  บ้านพักเด็กฯจึงต้องนำตัว ด.ญ.กาน มาดูแลคุ้มครองไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยต่อไป