เชื่อว่าไม่ได้ตีกระทบกระทรวงวัฒนธรรม
ไม่ใช่ศิลปินแห่งชาติ แต่เธอมองเห็นความสำคัญของงานเขียน
3 นักเขียนดัง แนะปั้นคอนเทนต์โดนใจต้อง ‘อ่านให้มาก-คิดให้ใหม่’
คอนเทนต์ หมายถึงเรื่องราว เนื้อหา อันเกิดจากสมองของมนุษย์ที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อสร้างงานให้ปรากฏขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีวันนี้ ทำให้การเข้าถึงเนื้อหา (content) ต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น พฤติกรรมการเสพสื่อต่างๆ ของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปจากช่องทางที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปเล่ม แบบอิเล็กทรอนิกส์ รูปภาพ หรือ วีดีโอคอนเทนต์ ทำให้ “นักสร้างคอนเทนต์” ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดีและน่าสนใจมากขึ้น เพื่อให้คนอ่านเกิดแรงบันดาลใจและนำสิ่งที่ได้รับมาปรับใช้ในชีวิตได้อย่างเกิดประโยชน์ หรือที่เรียกว่า “Bring Content to Life”
และ “Bring Content to Life” นี่แหละที่เป็นงานซึ่งจัดขึ้นเพื่อชี้ให้สังคมมองทะลุถึงความสำคัญของงานเขียนและสามารถเข้าถึงงานเขียนได้ งานนี้จัดขึ้นโดยภาคเอกชน ที่เชื่อว่า ไม่น่าจะมีนัยกระทบชิ่งไปถึงกระทรวงวัฒนธรรมที่มีศิลปินแห่งชาติทางด้านวรรณกรรมหลายท่านอย่างแน่นอน และเธอทั้งสามที่ออกมานำเสนอความคิดเห็นนี้ก็ไม่ใช่ศิลปินแห่งชาติเช่นกัน
นักเขียน 3 ท่าน ที่ออกมาแสดงความเห็นในงาน “Bring Content to Life” ได้แก่ “รอมแพง”-จันทร์ยวีร์ สมปรีดา “วรรณวรรธน์”-วรรธนวรรณ จันทรจนา และ “แสตมป์เบอร์รี่”-พิไลมาศ ค้ำชู
ทั้ง 3 ได้แชร์มุมมองในฐานะผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณค่าสอดแทรกแง่คิดในเนื้อหาเหล่านั้น และสะท้อนชีวิตจริงของมนุษย์ออกมาได้อย่างไร จนเกิดกระแสตอบรับอย่างดีในโลกออนไลน์
รอมแพง-จันทร์ยวีร์ สมปรีดา เจ้าของบทประพันธ์ “บุพเพสันนิวาส” ที่ถูกนำไปสร้างเป็นละครน้ำดี ฮิตติดจอ เล่าว่า “ปัจจุบันนี้คนอ่านสามารถเข้าถึงความรู้ต่างๆ ได้ง่ายขึ้นจากอินเตอร์เนต เพราะมีแหล่งความรู้มากมาย เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เราต้องการจะเขียนก็มีเผยแพร่ไปหมดแล้ว ดังนั้นการจะสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้น่าสนใจควรจะเป็นเนื้อหาที่“แปลกใหม่มีประโยชน์” แม้จะเป็นเรื่องที่คนรู้แล้วแต่ก็หามุมมองในการนำเสนอเพื่อให้คนอ่านเกิดความสนใจและอยากอ่าน พร้อมทั้งใส่เอกลักษณ์วิธีการเขียนที่เน้นคอมมาดี้เข้าไปเพื่อสร้างการจดจำ ดังเช่นการใช้“คำดีวลีโดน” ในหลายๆ ฉากของ “บุพเพสันนิวาส” ตัวผู้เขียนก็ต้องเปิดรับสื่อหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้รู้จักกับคำและความหมายต่างๆ แล้วจึงเลือกใช้คำเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เนื้อหาในแบบฉบับของเรา
จนมาถึงเรื่อง “พรหมลิขิต” ที่เป็นการเขียนนิยายเพื่อสร้างเป็นละคร แม้จะมีความกดดันเพราะต้องอิงจากตัวตนนักแสดงที่คนจดจำภาพได้แล้วจากบุพเพสันนิวาส เป็นหลัก แต่ก็พยายามเขียนและสอดแทรก เรื่องราวความรู้ทางประวัติศาสตร์และประเพณีที่น่าสนใจเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้อ่าน และเข้าถึงคนชมละครให้ได้”
“วรรณวรรธน์”-วรรธนวรรณ จันทรจนา เจ้าของบทประพันธ์ “ฤกษ์สังหาร” ที่กำลังออนแอร์อยู่ขณะนี้ และเจ้าของบทประพันธ์ “ข้าบดินทร์”ที่หลายคนจดจำได้จากละคร ทำเอากระแสรักชาติกลับมาอีกครั้ง เล่าว่า “เชื่อว่านักเขียนทุกคนนั้นต้องการที่จะนำเสนอเรื่องราวที่ดีให้แก่คนอ่านไม่ว่าจะเป็นความรู้เฉพาะทาง สร้างแรงบันดาลใจหรือปลุกจิตสำนึกอย่าง “ฤกษ์สังหาร” ตั้งใจเขียนเพื่อให้คนรับรู้ว่าโหราศาสตร์ที่หลายๆ คนเชื่อนั้น มีทั้งแง่มุมที่ดีและไม่ดี ผู้รู้สามารถนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ ส่วน“ข้าบดินทร์” นั้นตั้งใจเขียนเพื่อให้เป็นละครโดยเฉพาะต้องการขยายการรับรู้คอนเทนต์ไปให้ได้ถึงหลักล้านคนผ่านจอทีวี. จึงผ่านการ “สืบค้นข้อมูล” ข้อมูลมาอย่างดีเพราะอยากให้คนไทยรู้ซึ้งถึงความรักชาติว่ากว่าจะเป็นแผ่นดินไทยได้นั้นยังมีคนและช้างกลุ่มนี้ที่ทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองมากมาย
ส่วนนักเขียนนิยายขวัญใจวัยรุ่น “แสตมป์เบอร์รี่”-พิไลมาศ ค้ำชู เล่าว่า “ก่อนจะเริ่มเป็นนักเขียนนั้นตนเองเป็นนักอ่านมาก่อน การ “อ่านให้มาก”จะช่วยให้เรียนรู้ถึงการวางเค้าโครงเรื่อง ภาษา รวมถึงวิธีการเล่าเรื่อง เป็นการพัฒนาทักษะการเขียนช่วยเสริมไอเดีย และเอกลักษณ์ในการเขียน ซึ่งการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้น่าดึงดูดควรจะมีเนื้อหาที่ “สะท้อนให้เห็นภาพ” จากการใช้ไอเดียใหม่ๆ มุมมองที่ยังไม่ถูกใครนำเสนอ ซึ่งสามารถหาได้จากสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าเป็นข่าวสาร หรือเหตุการณ์ต่างๆ อย่างเรื่อง “Badz-Boy For Rent” ก็ได้ไอเดียจากข่าวของคุณลุงท่านหนึ่งรับจ้างเป็นผู้ปกครองให้เด็ก เรานำมาดัดแปลงเป็นนิยายวัยรุ่นที่ก่อให้เกิดจินตนาการต่อเนื่องไปในอีกมุมมองของสังคม
แนวคิดและจินตนาการที่เกิดขึ้นจากนักเขียนจากคำบอกเล่าของเธอทั้งสามคนนี้ว่า งานเขียน มันสามารถสร้างวิถีแห่งชีวิตให้สังคมคล้อยตามได้และงานเขียนไม่ใช่งานที่สร้างขึ้นมาเพื่อการอ่านเพียงอย่าง เดียวแต่มันสามารถ “เปลี่ยนและปลุก”ให้สังคมตื่นตัวได้อย่างสำคัญทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี