น้ำหลากท่วมขัง5อภ.
ปราจีนบุรี-สระแก้ว
พันครัวเรือนระทม
กบินทร์จม1.5เมตร
ปภ.เร่งช่วย 2 จว. “ปราจีนบุรี-สระแก้ว” 5 อำเภอ นับพันครัวเรือนเดือดร้อนหนัก ชุมชนตลาดเก่ากบินทร์น้ำท่วมขังสูงกว่า 1.5 เมตรสระแก้ว4อำเภออ่วมน้ำหลากท่วม หมู่บ้านชายแดนอรัญฯท้ายน้ำหนัก วัด-รร.จมปิดเรียน3วัน‘ราชบุรี’ยังจม เจ้าหน้าที่ระดมอุปกรณ์เร่งระบายน้ำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
เมื่อวันที่ 26 กันยายน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) สรุปสถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุล และคาจิกิว่า ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย 32 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 10 จังหวัด ที่จ.แพร่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ลำปาง และสุโขทัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ที่จ.นครพนม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ชัยภูมิ สุรินทร์ อุดรธานี เลย ศรีสะเกษ และสกลนคร ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ตราด และสระแก้ว ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ระนอง และชุมพร
4จว.ยังท่วมขัง-อพยพ1.7หมื่นคน
รวม 184 อำเภอ 976 ตำบล 7,175 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 419,988 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหาย 4,943 หลัง ผู้เสียชีวิต 35 ราย ที่จ.ยโสธร 9 ราย ร้อยเอ็ด 6 ราย อำนาจเจริญ 5 ราย ขอนแก่น 3 ราย อุบลราชธานี 3 ราย ศรีสะเกษ 3 ราย พิจิตร 2 ราย พิษณุโลก 1 ราย มุกดาหาร 1 ราย สกลนคร 1 ราย น่าน 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 คน ที่จ.ชัยภูมิ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ อพยพประชาชน 17,631 คน ใน 3 จังหวัด รวม 44 จุด ได้แก่ อุบลราชธานี 40 จุด รวม 17,457 คน ศรีสะเกษ อพยพประชาชน 3 จุด รวม 160 คน และยโสธร 1 จุด รวม 14 คน
สระแก้ว-ปราจีนอ่วมเจอน้ำหลาก
นายชยพลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุน้ำไหลหลากใน 2 จังหวัดได้แก่ ปราจีนบุรี และสระแก้ว รวม 5 อำเภอ 18 ตำบล 106 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 931 ครัวเรือน โดยจ.ปราจีนบุรี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.กบินทร์บุรี บริเวณชุมชนตลาดเก่า รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 141 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง และจ.สระแก้ว เกิดเหตุน้ำไหลหลากเข้าท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสระแก้ว โคกสูง อรัญประเทศ และวัฒนานคร รวม 16 ตำบล 102 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 790 ครัวเรือน ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำอ.เมืองสระแก้ว ริมคลองพระปรง ระดับน้ำสูงประมาณ 30-50เซนติเมตร ซึ่งปภ.กำชับจังหวัดให้เร่งเข้าดูแลช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้ว
ตลาดเก่ากบินทร์ฯน้ำสูง1.5ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์ จ.ปราจีนบุรีพบว่า ยังมีปริมาณสูงเฉลี่ยประมาณ 1 เมตรเศษ แม้มวลน้ำในแควพระปรง จากจ.สระแก้วไหลเข้าแควหนุมานก็ตาม เนื่องจากมวลน้ำที่ไหลลงแม่น้ำปราจีนบุรี มีการระบายน้ำเข้าทุ่งนาของเกษตรกรทั้งสองฝั่งแม่น้ำ และส่วนน้ำจากอ.กบินทร์บุรี เริ่มไหลเข้าอ.ศรีมหาโพธิ ทำให้บ้านเรือนราษฎรสองฝั่งแม่น้ำเริ่มถูกน้ำท่วมมากขึ้น ทำให้ประชาชนในชุมชนตลาดเก่า เดินทางเข้าออกลำบาก ต้องลุยน้ำ หรือไม่ต้องใช้เรือสัญจร แต่มีกลุ่มชาวบ้านจิตอาสาที่ตั้งโรงครัว ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัยทำอาหารโดยใช้งบจากผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสด ข้าวสาร อาหารแห้ง พืชผักผลไม้ ทำแจกประชาชนตามบ้านเรือนตลอดทั้ง 3 มื้อทุกวัน
กว่า300ครัวเรือนเดือดร้อน
ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งที่อ.กบินทร์บุรี ประกอบด้วย ชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์ ระดับน้ำสูง 1.5 เมตร ประชาชนได้รับผลกระทบ 135 หลังคาเรือน โรงเรียนถูกน้ำท่วม 2 แห่ง ได้แก่ ร.ร.เทศบาล 1 และ 2 มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่ที่ 3, 9 ต.กบินทร์ รวม 11 หลังคาเรือน ต.นาแขม หมู่ที่ 1, 2 น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน 25 หลังคาเรือน ขณะที่อ.ศรีมหาโพธิ มี ด.ญ.รัตนา วงษ์ไทย อายุ 1 ปี 11 เดือน จมน้ำเสียชีวิตบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำปราจีนบุรี ที่หมู่ 1 ต.ท่าตูม ต.บ้านทาม มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 8 หมู่บ้าน 189 ครัวเรือน ตั้งแต่หมู่ที่ 1-8.
ชายแดนอรัญฯเจอน้ำหลาก
ด้านนายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำจิตอาสาฝ่ายปกครองอ.อรัญประเทศ จิตอาสา ตม.จว.สระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฎรริมคลองพรหมโหด ในอ.อรัญประเทศ พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่จิตอาสา และทีมกู้ภัยอรัญประเทศ ออกบริการและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำที่ท่วมขัง พร้อมเปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในอ.อรัญประเทศ เกิดจากน้ำท่วมทุ่งจากเขต อ.วัฒนานครไหลลงคลองพรหมโหด ทำให้น้ำในคลองพรหมโหดมีปริมาตรเพิ่มขึ้น ล้นตลิ่ง ซึ่งมวลน้ำนี้จะไหลออกไปกัมพูชา บริเวณหมู่บ้านท้ายน้ำใน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
วัด-รร.จมสั่งปิดเรียน3วัน
นายสวนิตกล่าวต่อว่า จากการสำรวจพบน้ำที่ท่วมขังในต.หันทราย และ ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศเริ่มลดแล้ว ส่วนในตลาดอรัญประเทศ ระดับน้ำในคลองพรหมโหด ยังทรงตัวแต่มีแนวโน้มลดลง และน้ำทั้งหมดที่เริ่มลดลงไหลหลากลงหมู่บ้านปลายน้ำ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนใน ต.ท่าข้าม ฯ ทำให้ขณะนี้ระดับน้ำในคลองพรหมโหด ที่ไหลผ่านต.ท่าข้ามฯเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมริมคลองพรหมโหด เกิดน้ำท่วมขังโรงเรียนบ้านท่าข้าม และ วัดประตูชัย พื้นที่ ม.1 ต.ท่าข้ามฯซึ่งติดคลองพรหมโหด จนต้องสั่งปิดโรงเรียน 3 วัน และสถานการณ์น้ำยังสูงขึ้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและหมู่บ้านชายแดน ต.ท่าข้ามฯ ซึ่งมีอยู่ 7 หมู่บ้าน ขณะนี้อ.อรัญประเทศสั่งการให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ผู้นำชุมชน แจ้งเตือนประชาชนริมคลองพรหมโหด ใน.ต.ท่าข้าม ซึ่งเป็นหมู่บ้านท้ายน้ำฯให้เฝ้าระวัง และขนสิ่งของขึ้นที่สูง คาดภายใน 1 สัปดาห์ถ้าไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ มวลน้ำทั้งหมดจะไหลออกไปกัมพูชา สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.อรัญประเทศ จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ปากท่อราชบุรียังท่วมขัง
เช่นเดียวกับที่ จ.ราชบุรี หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน ทำให้เกิดน้ำสะสมล้นเข้าท่วมนาข้าวและที่ดินเกษตรกร รวมถึงบ้านเรือนประชาชน ที่ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ น้ำที่ระบายไม่ทันเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนและที่นา หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 3 มีประชาชนเดือดร้อนทรัพย์สินเสียหายประมาณ 15 ครัวเรือน ซึ่งนายยงยุทธ ผลอเนก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระทุ่ม นำเจ้าหน้าที่นำถุงยังชีพไปมอบให้ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม อีกทั้ง ยังนำอุปกรณ์เครื่องจักรไปขุดเปิดทางระบายน้ำ เก็บขยะ สิ่งกีดขวางทางน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งก็ได้ผลดีทำให้น้ำไหลได้เร็วขึ้น คาดว่า 1 – 2 วันน้ำในพื้นที่ของ อบต.นองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้
เขื่อนลำปาวรับกักน้ำได้82%
ที่จ.กาฬสินธุ์ผู้สื่อข่าวรายงานปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาว อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ พบว่า ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเริ่มลดลง ล่าสุดมีน้ำไหลเข้าเพียง 1.64 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ หลังจากช่วงต้นเดือนกันยายนมีพายุทำให้กิดฝนตกหนักมีน้ำไหลเข้าเขื่อนกักเก็บไว้ใช้อุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตรในฤดูแล้งปีหน้าได้มากว่า 1,200 ล้าน ลบ.ม.
ด้านนายพงศ์ศักดิ์ ณ ศร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์เผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาถึงปัจจุบันมีน้ำไหลเข้าอ่างสะสม 1,644 ล้าน ลบ.ม.ทำให้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำล่าสุดอยู่ที่ 1,736 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 87% มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,636 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 82%
นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีพายุฝนตกทางเขื่อนลำปาวได้ปิดประตูทั้ง 4 บาน และไม่ได้ระบายน้ำ เนื่องจากพื้นที่ตอนท้ายมีน้ำมาก และต้องพยายามกักเก็บน้ำไว้ให้มากที่สุด แต่ขณะนี้ทางเขื่อนได้เริ่มที่จะส่งน้ำเข้าคลองระบบชลประทาน เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ท้ายน้ำในการใช้อุปโภค บริโภค และช่วยเหลือเกษตรกรเฉลี่ยวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. และปล่อยลงสู่ลำน้ำปาวเพื่อรักษาระบบนิเวศเพียงวันละ 50,000 ลบ.ม. เนื่องจากไม่ให้มีผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ จากปริมาณน้ำที่มี่อยู่ปัจจุบัน ยืนยันว่าเพียงพอทุกกิจกรรมในปี 2563
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี