บริจาคยังพุ่งไม่หยุด
13นศ.อาชีวะรถคว่ำ
วันเดียวทะลุ2.2ล้าน
น้ำใจคนไทยแห่ช่วย
รองผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษเผยยอดบัญชีธนาคารที่เปิดรับบริจาคช่วยเหลืองานศพ 13 นักศึกษาอาชีวะ หลั่งไหล วันเดียวทะลุ 2.2 ล้านบาท คาดจัดสรรให้รายละ 2 แสนนำไปมอบวันฌาปนกิจ 3 ตุลาคม
ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ ที่ปากซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทำให้นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษเสียชีวิต 13 ราย เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา โดยครอบครัวรับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ศรีสะเกษ ขณะที่นายประชาคม จันทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับ นายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และคณะอาจารย์ เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ชื่อบัญชี เพื่อนักศึกษาผู้ประสบอุบัติเหตุวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ บัญชีเลขที่ 678-6-17357-8 ขอรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ตามที่มีการเสนอข่าวนั้น
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสำราญ สีปวน รอง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ นำสมุดบัญชีธนาคารดังกล่าวมาให้สื่อมวลชนตรวจสอบ พบว่า หลังเปิดรับบริจาคเพียง 1 วัน มียอดเงินบริจาคเข้ามามากกว่า 2,228,663.95 ล้านบาท โดยยังคงมีการบริจาคเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายประชาคม นายอักษรศิลป์ และคณะอาจารย์ เดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญครอบครัวผู้เสียชีวิต และร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวนักศึกษาที่เสียชีวิต
นายสำราญกล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อโซเชียลมีผู้ไม่เห็นด้วยกับการเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือครั้งนี้ ตนเห็นว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่แตกต่างกันได้ ทางผู้บริหารวิทยาลัยทคนิคศรีสะเกษ ตน และคณะอาจารย์ทุกคนพร้อมรับคำแนะนำ การเปิดบัญชีรับบริจาค เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนทั่วประเทศ และองค์กรต่างๆร่วมช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต เป็นการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนอย่างดีที่สุด โดยบัญชีธนาคารที่เปิดขอรับบริจาคนี้ได้หารือกันว่าจะปิดบัญชีในเร็วๆ นี้ เพื่อนำเงินบริจาคทั้งหมดไปให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนต่อไป
เบื้องต้นคาดว่า พ่อแม่ญาติของนักศึกษาที่เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือครอบครัวละประมาณ 500,000 บาท โดยจะได้รับเงินจากสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา รายละ 100,000 บาท เงินประกันชีวิต รายละ 100,000 บาท กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถ รายละประมาณ 100,000 บาท และจากเงินที่ได้รับบริจาคอีกประมาณรายละ 200,000 บาท ซึ่งในส่วนเงินที่ได้รับบริจาคนั้น อาจแบ่งเป็นให้นักศึกษาปัจจุบันรายละ 70% และศิษย์เก่าที่เสียชีวิตรายละ 30% โดยจะยังมีการช่วยเหลือจากบริษัทต่างๆ ที่แสดงความจำนงให้การช่วยเหลือนักศึกษาที่เสียชีวิตเข้ามาด้วย เงินบริจาคทั้งหมดจะนำไปมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนในวันที่ประกอบพิธีฌาปนกิจศพวันที่ 3 ตุลาคม ซึ่งจะมีการจัดคณะอาจารย์แบ่งสายกันนำเอาเงินไปมอบให้และเพื่อช่วยดูแลงานศพทุกศพด้วย
นายสำราญกล่าวต่อว่า การเปิดบัญชีธนาคารขอรับบริจาคเงินนี้ มีคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากนายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ 3 คน ประกอบด้วย ตน นางพัชรินทร์พันธ์ เอมรัตน์ หัวหน้างานการเงิน และนายกัมปนาท พระสุพรรณ หัวหน้างานกิจกรรมนักศึกษา โดยการเบิกถอนเงินนั้น ต้องลงนามเบิกถอน 2 ใน 3 คน และต้องได้รับการอนุมัติจาก ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เท่านั้น จึงจะเบิกถอนเงินได้
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 13 รายนั้น เป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ 10 ราย เป็นศิษย์เก่า 2 ราย ที่ไปทำงานอยู่อู่ซ่อมรถ ซึ่งนักศึกษาที่เสียชีวิตไปฝึกงานรวม 12 ราย และเป็นช่างของอู่ 1 คน บ้านเกิดอยู่ที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ส่วนกรณีนายสุประชัย วรรณทวี อายุ 20 ปี หนึ่งในนักศึกษาที่เสียชีวิตนั้น เป็นเด็กเรียนดี ความประพฤติดี และเป็นนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย (อวท.) หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า ประธานนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ โดยนายสุประชัย หรือมอส ได้รับเลือกตั้งจากเพื่อนนักศึกษาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น และได้เรียนแผนกวิชาช่างยนต์ สาขาวิชาเคาะและพ่นสีตัวถังรถยนต์ ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเป็นอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี