3 ตุลาคม 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) กล่าวถึงผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของศธ.เมื่อเร็วๆนี้ ว่าที่ประชุมได้นำข้อมูลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาหารือกันรวมถึงวางแผนการทำงานในอนาคต เพราะขณะนี้มีผู้มาดำรงค์ตำแหน่งผู้บริหารในตำแหนงปลัดศธ. เลขาธิการ สพฐ. และเลขาธิการ สอศ.แล้ว จึงวางแนวทางการทำงานให้ตรงกันระหว่างผู้บริหารองค์กรหลัก กับ รมว.ศธ. และ 2 รมช.ศธ. ทั้งนี้ ตนได้กำชับถึงการใช้จ่ายงบประมาณภายในกระทรวงซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ

โดยขอความร่วมมือให้งดเดินทางไปดูงานต่างประเทศเป็นระยะเวลา 1 ปี และให้ลดการอบรมสัมมนาที่สามารถทดแทนได้ด้วยเทคโนโลยี และยกเลิกการอบรมสัมมนาหรือจัดอีเว้นท์ที่ใช้ค่าใช้จ่ายสูง และให้ผู้บริหารแต่ละแท่งทบทวนงบประมาณที่ซ้ำซ้อน ซึ่งการซ้ำซ้อนของงบประมาณจะอยู่ในเรื่องหลักๆคือเรื่องของการลงทุนด้านเทคโนโลยี เราต้องการดึงระบบเทคโนโลยีของทุกแท่งเข้ามาอยู่ในส่วนกลาง เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการข้อมูล ที่ไม่มีความทับซ้อนกันและเพื่อความเป็นเอกภาพของข้อมูล

รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้พูดคุยถึงการทำงานเป็นทีมของกระทรวงศึกษา ไม่ใช่ทำเป็นทีมของแต่ละแท่ง อีกทั้งให้ไปพิจารณาการควบรวมการทำงานในแต่ละแท่ง ที่อาจมีความซ้ำซ้อนกัน หรือถ้าสามารถใช้บุคลากรที่ลดน้อยลงกว่านี้ได้ เช่น ฝ่ายต่างประเทศ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายเทคโนโลยี และฝ่ายกฏหมาย เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั่งนั้น จะไม่มีผลกระทบต่ออัตราของคนที่อยู่ใน ศธ. เพราะศธ.มีหลายเรื่องที่จะต้องขับเคลื่อนภายในกระทรวง 

“การประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.ครั้งนี้เป็นการแจ้งให้ทราบถึงแนวทางการทำงานในปี 2563 ซึ่งจะเน้นการบริหารงบประมาณภายในกระทรวงศึกษาฯให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาครัฐ ภาคเอกชนอื่นๆ รวมถึงนานาชาติที่อยากเข้ามาสนับสนุนและเข้ามาร่วม จะได้เห็นความตั้งใจว่ากระทรวงศึกษาฯสามารถบูรณาการงบประมาณของตัวเองภายในได้ ความมั่นใจในการร่วมมือกันก็น่าจะมีมากขึ้น ผมไม่ได้ทำเพื่อตัดสิทธิหรืออำนาจของหน่วยงานใดๆ แต่ต้องการให้มีความเป็นเอกภาพ ยกตัวอย่างเช่นในต่างประเทศ มีหลายๆอย่างที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่พูดถึงภาพรวมของอาชีวะฯ ของมัธยมตอนปลาย เราอยากให้มีข้อมูลที่ตรงกันในทุกๆแท่ง ผมมั่นใจว่า เมื่อทุกแท่งไปพิจารณาแล้วก็จะสามารถเห็นประโยชน์มากขึ้น และมีความเข้าใจกันมากขึ้น รวมถึงมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ที่ผ่านมาอาจจะมีความเป็นเอกภาพในแต่ละแท่ง แต่ยังไม่มีความเหมาะสมกับการที่จะเดินไปข้างหน้า ซึ่งผมต้องการเป็น 1 ทีม 1 เดียวกัน คือทีมกระทรวงศึกษาฯ” นายณัฏฐพล กล่าว