"บิ๊กป้อม" สั่งขับเคลื่อนนโยบายป่าชุมชน เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
3 ต.ค.62 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน ครั้งที่ 1/2562 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยที่ประชุมได้รับทราบถึงความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเร่งรัดผลักดันร่าง พรบ.ป่าชุมชนเพื่อให้มี ก.ม.รองรับให้บุคคลและชุมชนได้ประโยชน์จากป่าชุมชน เกิดทัศนคติในการดูแลรักษา และจัดการป่าชุมชนร่วมกับภาครัฐ เพื่อป้องกันการตัดไม้โดยผิด ก.ม. และการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่า เพื่อรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมตลอดจน การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน สอดคล้องกับเจตนารมย์ป่าชุมชนที่ว่า รัฐได้ป่า ประชาได้ที่ทำกิน บนผืนแผ่นดินเดียวกัน ทั้งนี้ พรบ. ป่าชุมชน ปี2562ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 29 พ.ค.62
พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาและเห็นชอบเรื่องสำคัญ ได้แก่ การเห็นชอบ ชื่อย่อของคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน คือ คนช.,เห็นชอบแผนการออกก.ม. อนุบัญญัติตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนและเห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์ การรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวง
“พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้คณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนและกรมป่าไม้ เร่งขับเคลื่อนโครงการป่าชุมชน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรม มีมาตรการสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้ประชาชนและชุมชน มองเห็นประโยชน์ร่วมกัน พร้อมให้การสนับสนุนร่วมกันไปกับภาครัฐด้วยดี”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี