DSIโชว์ผลงาน16ปี
ปกป้องประโยชน์ปท.
ปิดจ๊อบ2,497คดี
ยึดเงินคืน6แสนล.
ดีเอสไอ ก้าวสู่ปีที่ 17 โชว์ผลงานสอบสวนคดีพิเศษแล้ว 2,497 คดี ป้องผลประโยชน์ชาติ เรียกคืนเงินเฉียด 6 แสนล้าน “ไพสิฐ”อธิบดีกรมฯ ลั่นยึดมั่นต่อต้านทุจริต เดินหน้าพัฒนามาตรฐานสู่ระดับสากล
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กว่า 1,000 คน ปฏิญาณตนว่า“ข้าราชการ ดีเอสไอไร้ทุจริต” พร้อมแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการทุจริต ยึดมั่นค่านิยมสำคัญ 3ประการ คือ เกียรติศักดิ์ เชี่ยวชาญ ซื่อสัตย์ มุ่งปฏิบัติงานให้บรรลุยุทธศาสตร์กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการสร้างความเชื่อมั่นกับสาธารณะและพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมสอบสวนคดีพิเศษ ปีที่ 17
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในคดีพิเศษ ตลอดระยะเวลา 16 ปี เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งการบริหารราชการ การปฏิรูปและปรับปรุงกฎหมาย การบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐ และระบบวิธีการปฏิบัติงานภายใต้บริบททางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม สะท้อนว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นองค์กรที่พร้อมเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทุกด้าน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ก่อตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว 2,654 คดี โดยสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 2,497 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 157 คดี นอกจากนี้ยังมีการรับเรื่องไว้สืบสวนก่อนรับเป็นคดีพิเศษ 3,053 เรื่อง ดำเนินการเสร็จแล้ว 2,918 เรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการ 135 เรื่อง และยังคงเดินหน้าทำคดีสำคัญต่างๆ ในทุกกลุ่มคดี เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ เฉพาะในปีนี้สามารถรักษาผลประโยชน์ให้รัฐกว่า 5 หมื่นล้านบาท และคดีล่าสุดศาลมีคำสั่งเพิกถอนพื้นที่ซึ่งมีนายทุนบุกรุกในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต 93 ไร่ ได้เงินคืนรัฐประมาณ 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ แบ่งประเภทอาชญากรรมที่รับไว้ดำเนินการ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ด้านอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เช่น ด้านการเงิน การธนาคาร การภาษีอากร การฟอกเงิน การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจ การคลัง ดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 803คดี 2.ด้านอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินทางปัญญา เช่น อาชญากรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการกระทำความผิดเกี่ยว กับทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 528 คดี 3.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เช่น อาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และเกี่ยวกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 373 คดี 4.ด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศ และอาชญากรรมพิเศษ เช่น อาชญากรรมที่เป็นความผิดข้ามชาติ องค์กรอาชญากรรม การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ การค้ามนุษย์ อาชญากรรมที่กระทบต่อความมั่นคงประเทศ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และอาชญากรรมพิเศษอื่นๆ ดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 950 คดี โดยคดีพิเศษที่ดำเนินการแล้วเสร็จ เมื่อนำมาคำนวณมูลค่าความเสียหาย/ผลประโยชน์ที่ปกป้อง รักษา เรียกคืนให้แก่รัฐ เอกชน และประชาชนแล้ว มีมูลค่าถึง 599,425,112,300.49 ล้านบาท แต่ในแต่ละปีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ใช้งบประมาณดำเนินการเฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาทเศษ เท่านั้น
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังคงยึดคำมั่นว่าจะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยจะปรับปรุงระบบการปฏิบัติงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็นระบบราชการ 4.0 ให้มีมาตรฐานในระดับสากล ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ไม่จำเป็น สร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน เสริมสร้างระบบคุณธรรมและความโปร่งใสในการบริหารงานด้านต่างๆ พร้อมทั้งแสดงเจตจำนงร่วมกันให้คำสัตย์ปฏิญาณที่แสดงถึงปณิธานในอันที่จะปฏิบัติตน ปฏิบัติงาน เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์การเป็น องค์กรหลัก ในการบังคับใช้กฎหมายกับอาชญากรรมพิเศษตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ก้าวสู่องค์กรชั้นนำของประเทศที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นที่เชื่อมั่น ศรัทธา และเป็นที่พึ่งด้านความยุติธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี