จี้แบน3สารพิษ
องค์กรต้านโกงโผล่หนุน
ชง3ข้อเสนอถึงรัฐบาล
สธ.ยันกระทบสุขภาพ
สธ.ย้ำจุดยืนหนุน เลิกใช้ 3 สารเคมีทางการเกษตร“พาราควอต–คลอร์ไพริฟอส–ไกลโฟเซต” ยันมีข้อมูลกรมอนามัย ระบุชัดถึงผลเสียต่อสุขภาพ องค์กรต่อต้านโกงออกแถลงการณ์จี้เลิกใช้ให้รัฐบาลแสดงจุดยืนชัดๆปกป้องสุขภาพ ปชช. เรียกร้อง กก.วัตถุอันตราย ลงมติเปิดเผย ด้าน กรมวิชาการเกษตร เต้นแจงยิบเงื่อนไขยกเลิกวัตถุอันตรายยึดข้อมูลวิชาการ
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีมีข้อถกเถียงประเด็นการยกเลิกสารเคมีอันตราย 3 ชนิดคือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตว่าสธ.ยืนยันมาตลอดว่า ขอให้ยกเลิกใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ตั้งแต่สมัยศ.คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรมว.สาธารณสุข มาจนถึงขณะนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สธ.ก็ยืนยันให้ยกเลิกใช้ทันทีและยืนยันว่าข้อมูลผลกระทบด้านสุขภาพนั้นสธ.เก็บข้อมูลจริง เราไม่ได้ไปฟังแค่คำพูดใครหรือหยิบเอาข้อมูลที่ส่งต่อกันทางโซเชียลมีเดียมาพูด
ด้านแพทย์หญิง พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่ากรมได้รับหนังสือจากเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลองให้กรมอนามัยชี้แจงกรณีเผยแพร่ข้อมูลผลกระทบด้านสุขภาพที่เกิดจากการใช้สารเคมีในภาคเกษตรทั้ง 3 ตัวว่า เป็นข้อมูลที่มีการยืนยันจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนขอยืนยันว่าข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านกรมอนามัย เป็นข้อมูลที่เก็บอย่างชัดเจน ซึ่งดำเนินการมาตลอดเพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาทำ
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขให้สัมภาษณ์ยืนยันอีกครั้งว่า เป็นหน้าที่ของสธ.ที่ต้องปกป้องและให้ยกเลิกใช้สารเคมีอันตรายทางการเกษตร 3 ชนิด รวมถึงสารเคมีอื่นไม่เฉพาะในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพียงอย่างเดียว สังคมและประชาชนส่วนใหญ่ เห็นผลเสียการใช้สารเคมีทางเกษตรกรรมอย่างชัดเจน ผลเสียไม่ได้เกิดแค่กับเกษตรกรเท่านั้น ประชาชนผู้บริโภคเป็นผู้รับเคราะห์ในปลายน้ำ การสะสมของสารพิษในร่างกายจะทำให้เสียสุขภาพ เสียเงินและอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตด้วย ควรเน้นปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดสำหรับตัวประชาชนและเกษตรกร สารเคมีอันตราย เป็นเรื่องส่วนรวม ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรง ประเทศก็ไม่สามารถพัฒนาให้เจริญได้ ถือเป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องร่วมแก้ไข พร้อมสนับสนุนทุกฝ่ายที่ร่วมกันต่อต้านการใช้สารเคมีให้บรรลุเป้าหมาย
วันเดียวกัน ทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย ) ACT ออกแถลงการณ์ สนับสนุนยกเลิกการใช้สารเคมีอันตราย 3 ชนิด พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า เห็นควรให้ยกเลิกการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายร้ายแรงทั้ง 3 ชนิดได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่า รัฐบาลมิได้เพิกเฉยต่อชีวิตและสุขภาพของคนไทย
นอกจากนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯได้เสนอแนวทางดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อความโปร่งใส 3 ข้อคือ ให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่อาจเดือดร้อน ถ้าเลิกใช้ สารเคมีดังกล่าว ให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องประกาศนโยบายในประเด็นนี้อย่างชัดเจน ให้ประชาชนและผู้แทนของกระทรวงที่ปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้รับทราบตรงกัน และในการลงมติเรื่องนี้ของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ควรทำโดยเปิดเผย หากกรรมการคนใดเห็นควรให้ใช้สารพิษเหล่านี้ต่อไป ก็ให้กรรมการผู้นั้นแสดงเหตุผลให้สังคมทราบ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตและสุขภาพของผู้คนอย่างรุนแรง จึงเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนทุกคนจะได้รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้น
ส่วนน.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชี้แจงถึงการยกเลิกใช้สารเคมีอันตราย 3 ชนิดว่าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่จะยกเลิกใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตรไม่ว่าชนิดใด ต้องใช้ข้อมูลทางวิชาการพิจารณาได้แก่ความเป็นอันตรายต่อมนุษย์ มีผลกระทบต่อสุขภาพชัดเจน ผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เป็นสารที่มีพิษเฉียบพลันสูง เป็นสารที่อยู่ภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ และมีสารใช้ทดแทนที่เหมาะสม เมื่อกรมพิจารณาตามข้อมูลดังกล่าวแล้ว จะเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายประกาศเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่4คือ ห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก และขาย เพื่อออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย ต่อไป ปัจจุบันกรมฯเสนอห้ามใช้วัตถุอันตรายไปแล้ว 98 ชนิด เหตุผลคือ เป็นสารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง มีพิษตกค้างนาน ทำให้เกิดพิษสะสมในดินนาน และเป็นสารที่ทำให้ตัวอ่อนในครรภ์ผิดปกติ
นอกจากนี้ เพื่อเฝ้าระวังความเป็นอันตรายของวัตถุอันตรายทางการเกษตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน กรมฯตั้งคณะทำงานดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายที่ต้องเฝ้าระวัง โดยมีหลักเกณฑ์จัดวัตถุอันตรายเข้าอยู่ในรายการเฝ้าระวัง อาทิ เป็นสารที่มีพิษเฉียบพลันสูง เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ได้ง่าย มีข้อมูลว่าเป็นสารที่มีพิษเรื้อรัง และเป็นผลร้ายต่อมนุษย์และสัตว์ทดลอง เป็นสารที่อยู่ภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นสารที่มีพิษตกค้างสะสมในสิ่งมีชีวิตและถ่ายทอดได้ในห่วงโซ่อาหาร สลายตัวยากและมีความคงทนในสภาพแวดล้อม เป็นสารที่เป็นอันตรายรุนแรงต่อพืชหรือสัตว์ที่เป็นประโยชน์ เป็นสารที่ถูกห้ามใช้ หรือ เฝ้าระวัง หรือจำกัดการใช้ในต่างประเทศ
“ปัจจุบันกรมฯมีวัตถุอันตรายที่อยู่ในบัญชีต้องเฝ้าระวังตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวรวม 18 ชนิด รวมถึงพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ด้วย หากคณะกรรมการที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมีมติอย่างไรเกี่ยวกับวัตถุอันตราย กรมพร้อมปฏิบัติตามทุกประการ” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว.
ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวระบุ
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกสารเคมีวัตถุอันตราย ด้วยเหตุมีนายทุนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีดังกล่าว ผู้สนับสนุนพรรคและล็อบบี้นายเฉลิมชัย ไม่ให้ยกเลิกว่า เป็นกระบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่ประเด็นการเมือง กรณีมีการโจมตีใส่ร้ายว่า มีบริษัทสารเคมีรายใหญ่ไปล็อบบี้ที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ยกเลิก 3 สารเคมี เป็นเรื่องเท็จ ไม่มีเหตุการณ์ล็อบบี้ใดๆทั้งสิ้น เป็นการใส่ความกันให้พรรคเสียหาย หากผู้ที่กล่าวอ้างพาดพิงมีข้อมูลหลักฐานแน่ชัดก็ต้องกล้าออกมาเปิดเผยรายละเอียด ไม่ใช่พูดลอยๆ หากยังมีการกล่าวอ้างพาดพิงพรรคทำให้เสียหายอีก พรรคฯพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี