เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ทราบถึงการนัดประชุมของผู้แทน 4 ภาคส่วน เพื่อหาข้อสรุปในการยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิด ซึ่งเป็นบัญชาของนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยเรื่องนี้อย่างยิ่ง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน จึงให้ผู้แทนภาครัฐ ผู้นำเข้า เกษตรกร และผู้บริโภค ร่วมกันหารือถึงปัญหา การแก้ไข และผลกระทบ ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันและหาวิธีได้เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสังคมว่า รัฐบาลไม่ได้เอื้อประโยน์ต่อผู้นำเข้าสาร 3 ชนิดนี้ แล้วรายงานให้นายกฯ ทราบด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ มีจุดยืนชัดเจนที่จะยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ซึ่งได้เรียน น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ซึ่งเป็นประธานการประชุมวันนี้ ว่าตัดสินใจได้เลย อีกทั้งในฐานะที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร ได้ให้ น.ส.มนัญญา เร่งรัดกรมวิชาการเกษตร ให้หาสารทดแทน และสารทดแทนดังกล่าวต้องไม่กระทบกับเกษตรกรทั้งเรื่องของราคา คุณภาพ รวมถึงความเป็นพิษ ตามที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายครั้งต่อไปจะถูกหยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการไม่ยกเลิกใช้
ด้าน นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไท) กล่าวว่า ในการประชุมที่ น.ส.มนัญญา เป็นประธานที่กระทรวงเกษตรฯ บ่ายวันนี้ (7 ตุลาคม) โดยมี น.ส.บุญยืน ศิริธรรม เป็นตัวแทนผู้บริโภค , ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เป็นผู้แทนของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะหารือกันอย่างรอบด้านเพื่อสรุปความเห็นสนอคณะกรรมการวัตถุอันตราย
ทั้งนี้ ข้อเสนอของกระทรวงเกษตรฯ ที่กรมวิชาการเกษตรต้องเสนอไปยังคณะกรรมการวัตุอันตรายควรรอบคอบและรัดกุมมากที่สุด ในการเสนอวิธีการหรือสารทดแทนที่ไม่เป็นอันตราย รวมถึงมีมาตรการรองรับต้นทุนการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นเช่น การใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรกำจัดวัชพืชแทนพาราควอต ซึ่งทำให้ต้นทุนของเกษตรกรสูงขึ้นแน่นอน ต้องรอฟังว่า กระทรวงเกษตรฯ มีมาตรการรองรับอย่างไร ทั้งนี้หากข้อเสนอไม่ครบถ้วนจะกลายเป็นเงื่อนไขให้คณะกรรมการฯ อ้างในการไม่ยกเลิก ต้องยอมรับว่า มีเกษตรกรจำนวนมายังไม่พร้อมปรับเปลี่ยนเพราะไม่ทราบว่า ถ้าไม่ใช้สารเคมีจะมีวิธีใดทดแทน หากกระทรวงเกษตรฯ สรุปรายละเอียดให้รอบด้านจะทำให้ปัญหานี้จะจบแน่นอน
นายวิฑูรย์ กล่าวเพิ่มเติมถึงโครงสร้างคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย (ฉบับที่ 4) 2562 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ซึ่งตัดผู้แทนจากกรมการแพทย์ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ออก โดยเพิ่มปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้ามา ทำให้ผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข จากเดิมที่มี 3 คน เหลือเพียง 2 คน คือ ปลัดกระทรวงฯ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่ดูแลด้านสุขภาพของประชาชนน้อยลงไปอีก เมื่อต้องลงคะแนน แม้จะเสนอให้ยกเลิกก็อาจแพ้กลุ่มที่ไม่ต้องการให้ยกเลิก
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า เห็นด้วยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ที่ระบุว่าแนวปฏิบัติและวัฒนธรรมของกรรมการวัตถุอันตรายจะลงมติตามหน่วยงานที่กำกับดูแลสารพิษ เช่น ถ้ากระทรวงเกษตรฯ ไม่เห็นด้วยที่จะแบน กรรมการส่วนใหญ่ก็จะยกมือสนับสนุน ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีบุคคลากรที่เชี่ยวชาญเรื่องสุขภาพโดยตรงเสนอให้แบน แต่ก็แบนสารพิษนั้นไม่ได้ อีกทั้งยังแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิโดยขัดเจตนารมณ์ของกฎหมายคือ แม้ พ.ร.บ.จะออกแบบให้มีตัวแทนองค์กรสาธารณประโยชน์ด้านต่างๆ 5 คน จากที่กฎหมายเดิมกำหนดให้มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน แต่กลับพบว่า มีการแต่งตั้งอดีตข้าราชการและตัวแทนของบริษัทเอกชนและสมาคมค้าสารพิษเข้าไปแทน เช่น แต่งตั้งผู้อำนวยการของสมาคมอารักขาพืชไทย (สมาคมของผู้ผลิตและจำหน่ายพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส) เข้าไปเป็นตัวแทนขององค์กรสาธารณประโยชน์ด้านเกษตรยั่งยืน แต่งตั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทขายคลอร์ไพริฟอสเข้าไปเป็นตัวแทนขององค์กรสาธารณประโยชน์ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งนายวิฑูรย์ เห็นด้วยว่า หากสังคมไทยจะพ้นไปจากปลักของสารพิษ นอกจากต้องแบนสารพิษร้ายแรงแล้ว จำเป็นต้องรื้อถอนโครงสร้างพิษที่ถูกฝังไว้ในกฎหมายวัตถุอันตรายฉบับใหม่ไปพร้อมๆ กันด้วย
ส่วนประเด็นสารเคมีเหลือ ทั้งที่ห้ามนำเข้าตั้งแต่ 30 มิถุนายน เพราะอาจนำเข้ามามากตั้งแต่ต้นปี ควรนำมาตรการของต่างประเทศมาใช้คือ ให้บริษัทซื้อคืนไปเลย เพราะกระทรวงสาธารณสุข ประกาศยกเลิกตั้งแต่ 5 เมษายน 2560 ที่จะยกเลิกสาร 3 ชนิดนี้ ภายใน 2 ปี
"เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศยกเลิกใช้ ทางบริษัทผู้ผลิตส่งไปประเทศเคนยา ซึ่งเคนยาประกาศยกเลิกใช้เช่นกัน แล้วให้บริษัทซื้อคืนจากร้านค้าและประชาชนทั้งหมด ตอนนี้มีคนส่งข้อมูลมาให้ว่าร้านค้าท้องถิ่นในไทย จัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ดูเหมือนว่า บริษัทที่นำเข้าต้องการกระจายไปให้ร้านค้าเพื่อเร่งขายสารที่อยู่ในสต็อกให้หมดภายในสิ้นปี ดังนั้น สารเคมีจะถูกกระจายไปอยู่ในมือเกษตรกร ในการประชุมกับ น.ส.มนัญญา วันนี้ ตัวแทนผู้บริโภคจะเสนอเรื่องนี้ สารที่เหลือในสต็อก บริษัทต้องรับซื้อคืนทั้งหมด อย่าโยนภาระให้ประชาชน" นายวิฑูรย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี