หนุ่มอ้างนิมิตเห็นศพ เจอจะๆในปั๊มร้าง ร่างปริศนาถูกเผาอำพรางเกรียมทั้งตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.มานัส. สุระจิต รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุพบศพคนถูกฆ่าด้วยวิธีเผาไฟจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณด้านหลังของปั้มน้ำมันร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 8 บ้านดงช้างดี ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ ริมถนนสายเอเชียที่ 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ (ฝั่งขาล่อง) จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.นรพนธ์ อุสาใจ นิติวิทยาศาสตร์ หัวหน้าพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ (นวท.สบ.3 หน.พฐ.จว.อุตรดิตถ์) , นายณัฐวัตร แซ่จิว แพทย์เวรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยวัดหมอนไม้
ที่เกิดเหตุเป็นห้องน้ำหญิง มีขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร กว้างเกือบ 2 เมตร ติดกับห้องน้ำชายในสภาพเป็นป่ารก ห้องน้ำห้องที่ 4 เจ้าหน้าที่พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25-40 ปี สูงไม่เกิน 170 เซนติเมตร นอนเสียชีวิตลักษณะถูกไฟเผาไหม้เกรียมทั้งร่าง จนดำเป็นตอตะโกจำหน้าตาและรูปร่างไม่ได้ บริเวณโดยรอบห้องน้ำในที่เกิดเหตุพบร่องรอยของควันไฟเกาะอยู่ทั่วผนังห้องน้ำและฝ้าเพดาน พบเศษกระเบื้องผนังห้องน้ำและพื้นหลุดแตกกระจายเกลื่อนเพราะทนความร้อนไม่ได้
บริเวณด้านนอกหน้าห้องน้ำ ที่กองขยะเปลือกผลไม้ทุเรียน เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์มือถือในสภาพถูกทำลายทิ้งตกอยู่ จำนวน 1 เครื่อง ซิมการ์ดถูกดึงออกไป พบกระป๋องน้ำมันเครื่องขนาด 1 ลิตร ตกอยู่บริเวณกองแกลบข้าวสารซึ่งอยู่ใกล้กัน เจ้าหน้าที่พบรองเท้ายางชนิดสวมใส่สีน้ำเงินตกอยู่ จำนวน 1 คู่ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงรวบรวมเก็บวัตถุพยานเอาไว้เป็นหลักฐานในทางคดี ส่วนที่บริเวณภายในห้องน้ำเจ้าหน้าที่ยังพบรอยนิ้วมือแฝงจำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมเอาไว้ประกอบในคดีนี้เช่นเดียวกัน
จากการชันสูตรพลิกศพชายนิรนามเบื้องต้น พอจะสันนิฐานได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ โดยถูกไฟเผาทั่วร่าง ที่ตัวศพเจ้าหน้าที่พบเชื้อราเกาะตามร่างกายส่วนหนึ่งและพบตัวหนอนเริ่มไต่ขึ้นตามตัว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ทราบเกิดจากสาเหตุอะไร เตรียมนำร่างผู้เสียชีวิตส่งยังโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก เพื่อทำการผ่าพิสูจน์ศพเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้
จากการสืบสวนทราบว่าผู้พบศพครั้งแรก คือ นางน้ำเย็น แก้วพันคำ อายุ 79 ปี ผู้ปฏิบัติธรรมวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งเดินทางมายังห้องน้ำหญิงภายในปั้มน้ำมันร้างแห่งนี้ พร้อมกับนายเกียรติศักดิ์ เสียบขุดทด อายุ 30 ปี หลานชายและครอบครัว โดยอ้างว่ามาตามภาพนิมิตที่เห็นจากการนั่งสมาธิอยู่ที่บ้าน พบเห็นคนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุที่บริเวณแห่งนี้ จึงบุกพิสูจน์ว่าเป็นจริงตามนิมิตเห็นหรือไม่ กระทั่งมาพบว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ที่นี่จริง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมดงช้างดีรับทราบ และตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนแจ้งพนักงานสอบสวน และ เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์เข้าตรวจสอบสภาพศพที่พบเห็น
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ที่ สภ.วังกะพี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.อุตรดิตถ์ ร่วมกับตำรวจ สภ.วังกะพี้ และกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุตรดิตถ์ เร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยได้เรียกนายเกียรติศักดิ์ และนางน้ำเย็น มาให้รายละเอียด
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ตนนั่งวิปัสสนาจนจิตล่องลอยไปพบกับวิญญาณคนตาย จนนำมาสู่การพบศพ ตนไม่ได้วิตกกังวลใดๆ และพร้อมให้ความร่วมมือในการให้ปากคำและข้อมูลกับตำรวจ หลังจากพบศพได้บอกกล่าวผู้ตายไปว่าได้มาช่วยเหลือแล้ว และการเจอศพในครั้งนี้ทำให้ครอบครัวมั่นใจว่าตลอดระยะเวลาตัวเองไม่ได้บ้า แม้จะอยากบวชเรียน แต่ด้วยภาระในการดูแลพ่อแม่ที่ชรา จึงชื่นชอบในการนั่งสมาธิแผ่เมตตาอยู่ที่บ้าน ทำมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก และเมื่อวานวันพบศพ โชคดีที่ทุกคนในครอบครัวร่วมเดินทางไปกับตนเอง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าตรวจสอบรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้ฝั่งข้างปั๊มร้าง ห่างจากจุดพบศพประมาณ 150 เมตร เมื่อวันที่ 30 กันยายน 62 และตำรวจได้ลากจูงมาไว้เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 ที่ สภ.วังกะพี้ และได้เก็บทั้งลายนิ้วมือแฝง เพื่อติดตามเจ้าของรถว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่อย่างไร
พ.ต.อ.ฉัฐวัชร พงศ์วาสน์ ผกก.สภ.วังกะพี้ กล่าวว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคลี่คลายคดีอย่างรัดกุม เบื้องต้นยังไม่มุ่งประเด็นหรือให้น้ำหนักการก่อเหตุครั้งนี้ไปเรื่องใดชัดเจน ต้องรอทั้งผลการชันสูตรจากแพทย์โรงพยาบาลพุทธชินราช การลงพื้นที่สืบข้อเท็จจริงในเชิงลึกคาดว่าคงอีกไม่กี่วันอาจจะทราบชื่อผู้ตาย และหลักฐานต่างๆ ที่ทางผู้เกี่ยวข้องกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุดอยู่ในขณะนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี