ญาติอับดุลเลาะห์ร้องดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ จี้สอบสวนหาตัวคนทำให้ตาย
9 ตุลาคม 2562 นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม นำนางซูไมยะห์ มิงกะ อายุ 30 ปี ภรรยาของนายอับดุลเลาะห์ อีซอมูซอ พร้อมญาติเข้ายื่นหนังสือต่อ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อติดตามความคืบหน้าการเสียชีวิตระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเป็นผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง เมื่อเย็นวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
โดยเมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา เคยมายื่นหนังสือร้องทุกข์กับดีเอสไอเพื่อขอให้สอบสวนหาตัวเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดมาลงโทษ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงนำหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารทางการแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มามอบให้เพิ่มเติม แม้ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลจะออกมารับรองการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะห์ ว่าเกิดจากภาวะสมองขาดออกซิเจน และขาดเลือด แต่ทางครอบครัวยังข้องใจว่านายอับดุลเลาะห์ อาจถูกทรมานจากเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมตัว เพราะก่อนหน้านี้นายอับดุลเลาะห์ ไม่มีโรคประจำตัว รวมถึงไม่มีประวัติการรักษาตัว
อีกทั้งก่อนหน้านั้นมีการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งแพทย์ระบุสุขภาพแข็งแรง แต่ภายหลัง 13 ชม. นับแต่ถูกควบคุมตัวตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่แจ้งให้ญาติรับทราบว่านายอับดุลเลาะห์ เกิดอุบัติเหตุหกล้ม และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอิงคยุทธบริหาร และถูกส่งต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ในเวลาต่อมา
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ล่าสุดญาติได้รับผลการชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิตเพราะขาดอากาศไปเลี้ยงสมอง โดยสิ่งที่ญาติต้องการทราบคือใครคือผู้ที่ทำให้ตาย แต่ที่ผ่านมากว่า 1 เดือนไม่พบว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต หรือตัวผู้กระทำ มีเพียงศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาการเสียชีวิตจำนวน 4 แสนบาท จึงต้องการให้ดีเอสไอรับคดีไว้เพื่อสอบสวน โดยเชื่อว่าหากตรวจสอบอย่างจริงจังจะมีคำตอบให้ญาติผู้เสียชีวิต เพราะขนาดคดีฆาตกรรมบิลลี่ ที่ผ่านไปนานถึง 5 ปี คดีมีความยากลำบากกว่า ดีเอสไอก็สามารถค้นหาหลักฐาน และศพที่ถูกทำลายได้
“ภาคใต้มีปัญหารุนแรงมามากพอแล้ว ไม่ควรให้กรณีของอับดุลเลาะห์มาซ้ำเติมความรุนแรง นายอับดุลเลาะห์เป็นคนที่ทำงานเพื่อสังคม รวมถึงมีการสอนเด็กและการนำสวดละหมาด คนแบบนี้ควรได้รับการปกป้อง สนับสนุน ไม่ควรถูกตกเป็นผู้ต้องสงสัยหรือแง่ลบ” นายสุรพงษ์ กล่าว
ด้านนายมูฮัมมัดรอฮมัด มามุ ญาตินายอับดุลเลาะห์ กล่าวว่า 6 ปีที่ผ่านมามีการเสียชีวิตในค่ายอิงคยุทธบริหารแล้ว 6 ราย จึงขอให้กรณีนายอับดุลเลาะห์เป็นกรณีสุดท้าย พร้อมเรียกร้องให้ลดการใช้อำนาจและกฎหมายพิเศษในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มักจะอ้างกฎอัยการศึกเชิญตัวเข้าไปพูดคุย โดยไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตั้งแต่แรก จากนั้นหากมีการฟ้องคดีส่วนใหญ่ก็จะมีการสั่งไม่ฟ้องและยกฟ้อง โดยที่ชาวบ้านไม่สามารถตรวจสอบอำนาจรัฐได้
ขณะที่ ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับเรื่องเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อได้ข้อเท็จจริงมากเพียงพอจะเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาว่าคดีอยู่ในอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอ และเป็นคดีพิเศษหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี