สืบจากซิม!ตร.กาฬสินธุ์ยันจับ‘อดีตช่างโยธา’โยงค้ายาตามหลักฐาน ปัดกลั่นแกล้ง
10 ตุลาคม 2562 จากกรณีครอบครัวของนายสุวัตร โพนชัยยา ซึ่งเป็นอดีตนายช่างโยธาชำนาญงาน สังกัด อบต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพยายามจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ หลังจากถูกตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.นครพนม จับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา หลังจากชุดสืบสวนทำการล่อซื้อยาบ้าจากเครือข่ายค้ายาเสพติด และมีการนัดส่งยากันที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 667 ถนนสายสมเด็จ-ห้วยผึ้ง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 ซึ่งครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ยึดยาบ้าได้ 1,992 เม็ด ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้
ทั้งนี้ จากการสอบสวนขยายผล พบว่า คนที่ติดต่อโดยการใช้โทรศัพท์มือถือในการส่งยาบ้ามีชื่อเป็นเจ้าของหมายเลข คือ นายสุวัตร จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ โดยนายสุวัตรให้การปฏิเสธ ว่า เคยทำบัตรประชาชนหาย แต่ไม่ได้แจ้งความ เนื่องจากมีพลเมืองดีส่งไปรษณีย์มาคืน ต่อมาพบว่ามีคนนำบัตรประชาชนไปเปิดซื้อซิมโทรศัพท์ และมาทราบภายหลังว่าเป็นกลุ่มรับจ้างจนยาเสพติดและจำหน่ายยาบ้า จนถูกจับกุมตัวดังกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ชี้แจงว่า สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สืบทราบว่าในช่วงดังกล่าวมักมีเครือข่ายค้ายาเสพติดนำยาบ้ามามาส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่บ่อยครั้ง จึงได้ให้สายลับติดต่อกับเครือข่ายค้ายา เพื่อที่จะล่อซื้อ 2,000 เม็ด ซึ่งทางเครือข่ายค้ายาที่เป็นผู้หญิงแจ้งว่าจะติดต่อกลับ จากนั้นก็มีชายโทรศัพท์เข้ามาหาสายลับ พร้อมนัดสถานที่ส่งยาบ้า โดยจะนำไปวางไว้ที่หลักกิโลเมตรถนนสายสมเด็จ-ห้วยผึ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการดักซุ่มจับ แต่กลุ่มคนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปได้ แต่เจ้าหน้าที่ยึดยาบ้าได้ 1,992 เม็ด จึงนำของกลางและหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.สมเด็จ
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวต่อว่า จากการขยายผล พบว่า เบอร์โทรศัพท์ที่มีคนโทร.เข้ามายังสายลับในการติดต่อสั่งซื้อยาบ้าครั้งนี้ เป็นชื่อของนายสุวัตร และจากการตรวจสอบกับเครือข่ายโทรศัพท์พบว่าเป็นการนำบัตรประชาชนไปเปิดเบอร์ซื้อซิม พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในข้อหาพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จากนั้นจึงมีการสืบหาตัวจนทราบว่านายสุวัตรทำงานเป็นช่างโยธาฯอยู่ที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงไปเชิญตัวและขอจับกุม
“ยืนยันว่าคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนได้ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน และกระบวนการทางกฎหมาย เริ่มจากการล่อซื้อ ยึดของกลาง จนนำไปสู่ขยายผลพบเจ้าของโทรศัพท์ และมีมูลเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้ต้องหา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาล ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใคร เพราะทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้จักกับผู้ต้องหา หากผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวก็ต้องหาหาพยานหลักฐานมาชี้แจงต่อศาล เพราะขณะนี้คดีดังกล่าวผ่านขั้นตอนของตำรวจ ส่งอัยการและเข้าสู่กระบวนการส่งฟ้องศาลแล้ว” ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี