ครม.เศรษฐกิจ กังวลเศรษฐกิจโลกทรุด กระทบถึงไทย สั่งอัดยาแรงดูดเงินนักท่องเที่ยว จ่อจัดมหกรรม“ดนตรี-กัญชาโลก”หวังกระตุ้นขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ร้อยละ 3 “นายกฯ” ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมของการ ชิมช้อปใช้เผยผลตอบรับดีมาก เตรียมชงครม.เฟส 2เน้นเพิ่มใช้จ่ายผ่านแอพฯ’เป๋าตัง’ ดึงเที่ยวจังหวัดเล็กๆ
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่าที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้มีการประชุมวาระสำคัญ 2 เรื่องได้แก่1.รับทราบสถานการณ์เศรษฐกิจโลกล่าสุดว่าปัญหาเริ่มรุนแรงและส่งผลกระทบหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยปัจจัยเสี่ยงหลักมาจากผลกระทบของสงครามการค้าโลก ปัญหา bexit ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นเพิ่มมากขึ้น สะท้อนจากตัวเลขส่งออก ในเดือนส.ค.2562ที่ออกมาไม่ดี ดัชนีการผลิตภาคเอกชนยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง การบริโภครถยนต์ สินค้าคงทนเริ่มติดลบ ทำให้เห็นสถานการณ์ว่าผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกเริ่มลุกลามมาไทยเพิ่มมากขึ้น 2.ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 2562 เพื่อเป็นตัวช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เติบโตได้ 3%
ด้านนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เป้าหมายการนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะต้องเติบโต 20 ล้านคน จากทั้งปีที่ 39.8 ล้านคน เพื่อให้มีรายได้ 2.04 ล้านล้านบาท จึงจะทำให้จีดีพีโตได้ 3% ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค. 2562) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 26.5 ล้านคน สร้างรายได้ 1.3 ล้านล้านบาท ส่วนช่วงที่เหลือ 4 เดือน จะต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยอีก 13 ล้านคน มีการใช้จ่ายในประเทศ 7.5 แสนล้านบาท ซึ่ง ครม. เศรษฐกิจได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งการอำนวยความสะดวก การแลความปลอดภัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากที่สุด
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กล่าวว่า ททท.มีแผนการจัดมหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกในประเทศไทยหลายรายการ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ มหกรรมกัญชาโลก, การแข่งขัน MoTO GP, Super GT, การแข่งขันจักรยาน Tour de France และคอนเสิร์ต Tomorrow Land, EDC และ Ultra Music Festival ซึ่งเป็นมหกรรมดนตรีที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก
สำหรับมาตรการ ชิมช้อปใช้ ได้ส่งผลดีกับการท่องเที่ยวในประเทศ เพราะคนเริ่มมีการใช้จ่ายและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.12 ล้านล้านบาท สูงขึ้นจากเป้าหมายที่ 1.05 ล้านล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10-20%
เวลา15 .00น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมพูดคุยกับประชาชน ในรายการ Government weekly ep.8 ช่วงPM Talk ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าโดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงมาตรการชิม ช็อป ใช้ ว่า จากที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนให้การตอบรับโครงการนี้ค่อนข้างดี แม้บางคนจะต้องรอตั้งแต่ดึกจนถึงเช้า อย่างไรก็ตามต้องรอผลการประเมินจากกระทรวงการคลังก่อนว่าสิ่งที่ทำไปนั้นคุ้มค่าเป็นประโยชน์อย่างไร แค่ไหนโดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจหรือธุรกิจระดับฐานราก อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณประชาชน ผู้ประกอบการร้านค้า ที่ร่วมใช้จ่ายในโครงการนี้ ซึ่งได้รับรายงานว่าผลตอบรับดีมาก โดยการใช้จ่ายเป็นไปตามกรอบ ไม่ใช่ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย อีกทั้ง ก็มีการใช้จ่ายเงินในส่วนของตัวเองนอกเหนือจากที่รัฐบาลได้ให้ไว้คนละ 1,000 บาทถือว่าผลตอบรับดีมาก
นายกฯกล่าวถึงโครงการ‘ชิมช็อปใช้’เฟส 2ว่าคงต้องรอผลการประเมินจากกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มมาตรการอะไรลงไปอีกหรือไม่ ซึ่ง 12วันที่เริ่มดำเนินโครงการก็มีการใช้จ่ายเงินถึง 4, 200ล้านบาท โดยเฉพาะมีการใช้ที่ร้านธงฟ้า ร้านค้าชุมชน และกลุ่มโอทอปต่างๆซึ่งก็เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐต้องการที่จะให้มีการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน เมื่อมีการผลิตก็ต้องมีคนใช้จ่ายดังนั้นถ้ารัฐไม่ส่งเสริมก็คงจะลำบากเฉพาะผลิตภัณฑ์จากชุมชน
เมื่อถามว่าแสดงว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากกับโครงการเฟส 2 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็คงต้องมี แต่ขอดูผลการประเมินก่อน
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้”เฟส 2 กำลังอยู่ในช่วงการเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาในเร็วๆนี้ เบื้องต้นทางรัฐบาลให้โจทย์สำคัญ คือ 1.จะทำอย่างไรให้มีการใช้จ่ายผ่าน “เป๋าตัง” กระเป๋า 2 ด้วยการเติมเงินเข้าไปในแอปพลิเคชัน เพื่อใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 170,000 ร้านค้าทั่วประเทศได้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการบริโภคหรือการท่องเที่ยวในพื้นที่ และ 2.จะทำอย่างไรให้จังหวัดขนาดเล็กได้รับประโยชน์จากโครงการเฟส 2 เท่าๆกับจังหวัดใหญ่ที่มีประชาชนไปท่องเที่ยวจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี