ฝนถล่มทั่วไทย
12-15ต.ค.-หนาวจ่อซ้ำ
อุณหภูมิลด 2-3 องศา
16จว.ใต้รับมือน้ำท่วม
เตือน‘ฮากีบิส’ถล่มญี่ปุ่น
“ปภ.-อุตุฯ”เตือนทั่วประเทศรับมืออากาศแปรปรวนฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง12 - 15 ตุลาคม ก่อน “เหนือ-อีสานอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา ด้านก.เกษตรฯประชุมเตรียมความพร้อม 16 จว.ใต้ระวังน้ำท่วม หลังเข้าฤดูมรสุมเต็มตัว รมว.เกษตรฯขันนอต กรมชลฯระดมเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์รับมือ ลดความเสียหาย นายกฯห่วงคนไทยไปญี่ปุ่นระวังโคตรพายุ “ฮากีบิส”ด้านสถานทูตไทยฯ ออกประกาศเตือน
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง(กอปภ.ก) โดยปภ.ติดตามสภาพอากาศ และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ รวมถึงตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้สภาพอากาศแปรปรวน เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และอุณหภูมิลดลง โดยช่วงวันที่12-15 ตุลาคม จะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงระยะแรก จากนั้นฝนจะลดลงบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิลดลง 2–3องศาเซลเซียสกับมีลมแรง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น มีฝนตกหนัก คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง คลื่นสูง 2 เมตร
ทั้งนี้ กอปภ.ก.ประสานศูนย์ ปภ.เขตทุกเขต ทุกจังหวัดเตรียมพร้อมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงระวังฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก
วันเดียวกัน น.ส.กรรวี สิทธิชีวภาค รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 2 เตือนสภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบถึงวันที่ 12-15ตุลาคมว่าช่วงวันที่ 12-15ตุลาคม ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่และมีลมกระโชกแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากนั้นประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง2-3องศาเซลเซียส กับมีลมแรงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน เนื่องจากฝนตกหนักกับลมกระโชกแรงและอุณหภูมิลดลง
เนื่องจากความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนช่วงวันที่ 12-15 ตุลาคม ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงระยะแรก จากนั้นฝนจะลดลง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยสูงประมาณ 2 เมตร
สำหรับจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ วันที่ 12-13 ตุลาคม บริเวณที่มีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรง ในภาคเหนือ ที่จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.ชัยนาท นครสวรรค์ อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ที่จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ที่จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต
ช่วงวันที่ 14-15 ตุลาคม 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรง ในภาคเหนือ ที่จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก ภาคกลาง จ.อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ที่จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ที่สำนักงานชลประทานที่ 14 อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมร่วมกับ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนัก อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ช่วงมรสุม
นายเฉลิมชัย กล่าวว่าช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมของทุกปี พื้นที่ภาคใต้มักได้รับผลกระทบจากลมมรสุมฝนตกหนัก ดังนั้นการเตรียมความพร้อมที่ดีจะช่วยป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ มีสภาพภูมิประเทศต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ จึงขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือ เพื่อให้การป้องกันแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องมองถึงการบริหารจัดการน้ำหน้าแล้งปี 2563 ด้วย โดยต้องหาแนวทางกักเก็บน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์พายุฮากิบิสในประเทศญี่ปุ่น โดยขอให้กำลังใจญี่ปุ่นรับมือกับพายุดังกล่าว พร้อมขอเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นช่วงนี้ระมัดระวัง และตรวจสอบข้อมูลสภาพอากาศใกล้ชิด ส่วนคนไทยที่อยู่ในญี่ปุ่นขอให้ติดตามข่าวจากทางสถานทูตไทย และทางการญี่ปุ่นด้วย
วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่นออกประกาศเตือนคนไทย ในญี่ปุ่น เตรียมพร้อมรับมือไต้ฝุ่นฮากีบิส ระบุว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัย ไต้ฝุ่นหมายเลข 19 (Hagibis) คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบตั้งแต่แถบคันไซ เรื่อยมาถึงคันโต โทไก และบางส่วนของฮอกไกโดนั้น ต่อพื้นที่คันโต ระหว่างวันที่ 12-13 ตุลาคม ขอประกาศเตือนคนไทย ให้หลีกเลี่ยงออกจากเคหะสถานในช่วงดังกล่าว ขอให้เตรียมสิ่งของจำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉิน บริษัทเดินรถไฟ รถทัวร์และสายการบินเริ่มประกาศแจ้งหยุดให้บริการชั่วคราว ข้อมูลเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลง update เพิ่มเติม ขอให้ติดตามรายละเอียดการยกเลิกของสายการบินและบริษัทรถไฟใกล้ชิด
นอกจากนี้ ทางการญี่ปุ่นเปิดสายVisit Japan Hotline ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Hotline หมายเลข +81 (0) 50-3816-2787 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ประสบปัญหาการเดินทางท่องเที่ยวกรณีประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย และภัยเกิดภัยพิบัติ (รวมถึงกรณีไต้ฝุ่น) โดยมีบริการภาษาอังกฤษด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี