ความคืบหน้ากรณีนายพงษ์พิสุทธิ์ บุญทัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ33ปี ชาวตำบลหนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นำสามเณร นัด (นามสมุติ) อายุ 13 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาว เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพระครูสังฆรักษ์ วินัย อินทวิริโย เจ้าอาวาสวัดอินทาราม หรือวัดหนองขาว ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ว่า กักขังและบังคับทำอนาจารด้วยการให้สามเณรนัด ใช้ปากอมอวัยเพศให้จนสำเร็จความใคร่ไปหลายครั้งและต่อเนื่องนานนับเดือน จนเป็นเหตุทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความแตกแยกออกเป็นสองฝ่าย มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ ซึ่งการแจ้งความเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยในวันเดียวกันคณะสงฆ์ พร้อมด้วยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่และชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ได้ร่วมหารือกันที่ศาลาการเปรียญ โดยมีพระนัทธี สิริจนฺโท หรือพระโอ๊ด พระลูกวัดที่เป็นผู้กล่าวหาเจ้าอาวาสชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทุกคนได้ฟัง ส่วนเจ้าอาวาสก็ร่วมรับฟังอยู่ด้วย
ในที่สุดในวันดังกล่าว พระครูกาญจนสุดาคม เจ้าคณะอำเภอท่าม่วง เจ้าอาวาสวัดวังขนาย ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้มอบหมายให้พระครูวิสิฐกาญจนกิจ เจ้าคณะตำบลวังขนาย เจ้าอาวาสวัดใหญ่ดงรัง เป็นประธานสงฆ์ ส่งหนังสือเลขที่.../2562 ลงวันที่ 15 ต.ค.2562 ส่งถึงพระครูสังนรักษ์ วินัย อินทวินโย ให้เข้ารับฟังอธิกรณ์ ในการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่อุโบสถ วัดอินทาราม หรือวัดหนองขาว ในวันที่ 16 ต.ค.62 เวลา 09.30 น.
เมื่อถึงเวลานัดหมายคือเวลา 09.30 น.วันนี้ 16 ต.ค.62 รองเจ้าคณะอำเภอท่าม่วง เจ้าคณะตำบลหนองขาว พระวินยาธิการตำบลวังขนาย และคณะสงฆ์ในเขตปกครอง รวมทั้งตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางมาถึงวัด แต่ปรากฎว่าพระครูสังฆรักษ์ วินัย อินทวินโย ไม่อยู่ โดยบอกกับลูกศิษย์ว่า ป่วยไม่สบายและได้ออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ไม่ทราบว่าโรงพยาบาลอะไร
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.20 น.วันนี้ 16 ตุลาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาว ได้นำหมายจับไปเชิญตัว พระครูสังฆรักษ์วินัย อินทวินโย เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ขณะกำลังนอนพักรักษาอาการป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
จากนั้นได้นำตัวไปพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปที่วัดวังขนายทายิการาม ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อให้พระครูกาญจนสุตาคม เจ้าคณะอำเภอท่าม่วง เป็นผู้ทำพิธีสึก
สำหรับบรรยากาศโดยรอบเป็นไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากมีญาติ รวมทั้งแม่และครอบครัวของเจ้าอาวาสหลายสิบคน มาคอยให้กำลังใจและคัดค้านการสึกในครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสงฆ์ที่แต่งตั้งขึ้นมา อีกทั้งทุกคนต่างก็เข้าใจว่า หมายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาเชิญนั้นเป็นเพียงแค่หมายเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามอธิบายว่าไม่ใช่หมายเรียกแต่เป็นหมายจับ จนทุกคนพอจะเข้าใจ
สำหรับการทำพิธีศึกครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงแล้วเสร็จจากนั้นอดีตเจ้าอาวาสได้เปลี่ยนมาสวมใส่ชุดขาวแทน และเมื่อเปิดประตูออกมาภายนอก บรรดาญาติต่างก็ร้องให้ออกมาด้วยความเศร้าโศรกเสียใจ โดยเฉพาะแม่ของอดีตเจ้าอาวาส โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปขึ้นรถ สื่อมวลชนได้พยายามสอบถามว่าอยากจะขอความเป็นธรรมอย่างไรหรือไม่ ซึ่งอดีตเจ้าอาวาส พูดว่าขอฝากให้ความเป็นธรรมด้วย และยังมีสีหน้าที่เรียบเฉย โดยหลังจากที่อดีตเจ้าอาวาสขึ้นไปอยู่บนรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบนำพาอดีตเจ้าอาวาสไปที่ สภ.หนองขาวในทันที โดยเหล่าบรรดาญาติทุกคนที่มาต่างรีบขับรถยนต์ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี