บุกรวบ‘ดร.ลีเดีย’
ตุ๋นเล่น‘แชร์ทอง’
เชิดหนี1.5พันล้าน
แฉมีหมายจับ10คดี
กองปราบฯแถลงจับกุม“ดร.ลีเดีย”ตาม “ดร.เอ” สามี เปิดบริษัทตุ๋นเหยื่อให้ร่วมลงทุนแชร์ทองลวงโลกกว่าพันราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านบาท เผยประวัติแสบ มีหมายจับติดตัวในคดีฉ้อโกง 10 คดี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป.พร้อม พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ป. ร่วมแถลงผลการจับกุม น.ส.ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 236/2562 ลงวันที่ 14 ส.ค. 2562 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือและโน้ตบุ๊ค สลิปและเอกสารการเงิน รวมถึงโฉนดที่ดินหลายรายการ หลังจับกุมตัวได้ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้เสียหายจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ว่า ถูกบริษัท โกลด์ ฟาเธอร์ 1978 จำกัด ที่มี น.ส.ปริยันก้า หรือ ดร.ลีเดีย ผู้ต้องหารายนี้ และนายชนุตม์ สีสังข์ อายุ 44 ปี หรือ ดร.เอ สามี ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เป็นกรรมการผู้จัดการร่วมบริหารบริษัทดังกล่าว ชักชวนให้นำเงินมาลงทุนออมทองโดยให้สมัครเป็นสมาชิกและเป็นตัวแทนจำหน่ายทองคำ อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง พร้อมจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการเก็งกำไรทองคำแท่งล่วงหน้า และการขายทองคำออนไลน์ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ กลุ่มผู้เสียหายจึงหลงเชื่อนำเงินไปร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าว
โดยระยะแรกบริษัทดังกล่าวได้แบ่งผลกำไรและส่วนแบ่งตามที่ตกลงกันไว้ให้กับผู้เสียหายจริง จึงได้ชักชวนคนรู้จักมาร่วมลงทุนด้วยเพิ่มมากขึ้น กระทั่งต่อมาเมื่อเห็นว่าบริษัทมีสมาชิกและลูกค้าจำนวนหลายพันราย มีเงินโอนเงินเข้าบริษัทเป็นจำนวนกว่า 1,500 ล้านบาท น.ส.ปริยันก้า และสามี จึงเริ่มบ่ายเบี่ยง ไม่ส่งมอบทองคำ และผลตอบแทนให้กับสมาชิกตามเงื่อนไข ก่อนจะปิดบริษัทแล้วเชิดเงินทั้งหมดหลบหนี ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหายอย่างหนัก ที่ผ่านมามีผู้เสียหายหลงเชื่อถูกบริษัทดังกล่าวหลอกเป็นจำนวนหลายพันคน
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าภายหลังเกิดเรื่อง น.ส.ปริยันก้า ได้กบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว สอบสวน น.ส.ปริยันก้า รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ส่วนกรณีที่สองผู้ต้องหาเรียนจบดอกเตอร์ จาก EDMONTON UNIVERSITY ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น น.ส.ปริยันก้าอ้างว่าได้เรียนผ่านอินเตอร์เน็ตกับมหาวิทยาลัยดังกล่าว ก่อนได้รับใบจบการศึกษาส่งจากต่างประเทศมา แต่ฝ่ายสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบประวัติมหาวิทยาลัยดังกล่าวพบว่าได้ปิดตัวไปนานหลายปีแล้ว
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.ปริยันก้า พบว่ายังเคยเปลี่ยนชื่อ นามสกุลมาแล้ว 6 ครั้ง และมีหมายจับติดตัวในคดีร่วมกันฉ้อโกง และฉ้อโกงประชาชน ตามท้องที่ต่างๆ อีก 10 คดี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น รับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนขยายผลติดตามเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหาย ที่ผู้ต้องหาได้ยักย้ายถ่ายเทไปเป็นทรัพย์สินมีค่าต่างๆ หลายรายการ ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี