ประชาชนแห่ชมซ้อมใหญ่เสมือนจริงครั้งแรก"ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค" ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ขณะที่"สำนักพระราชวัง-กรมศิลปากร"ติดตั้งเครื่องสูงและเครื่องประกอบเรือพระราชพิธีถวายพระราชอิสริยยศเครื่องราชูปโภคตามโบราณราชประเพณี
วันนี้ (17 ต.ค 62) ที่กรมอู่ทหารเรือ ธนบุรี กองอำนวยการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ได้เตรียมความพร้อมการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ครั้งที่ 1 ของขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ที่มีขึ้นใน เวลา 15.30 น.
โดยตลอดช่วงเช้าเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูงประกอบเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นการถวายพระราชอิสริยยศเครื่องราชูปโภคตามโบราณราชประเพณี ประกอบด้วยฉัตร และธงสามชาย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้เข้ามาดำเนินการตกแต่งเรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ มีการติดตั้งอุบะ และพวงมาลัยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ คล้องลำคอ พู่ห้อยที่หัวรือทำจากขนจามรีสีขาว ปลายพู่เป็นแก้วผลึก ส่วนกลางลำติดตั้งบุษบก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จประทับบนบุษบก เช่นเดียวกับการเสด็จพระราชดำเนินทางสถลมารค ส่วนเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ติดตั้งบุษบกสำหรับอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ และอาภรณ์ภัณฑ์ เรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ติดตั้งบัลลังกัญญา และอาภรณ์ภัณฑ์อย่างสง่างามสมพระเกียรติ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งคฤห์ และอาวุธประจำเรือรูปสัตว์ และอาภรณ์ภัณฑ์ของเรือพระราชพิธีทั้งหมดตามแบบโบราณราชประเพณี
สำหรับการแต่กายของกำลังพลฝีพาย จะแต่งกายด้วยเครื่องแบบตามโบราณราชประเพณี เสมือนวันพระราชพิธีจริง โดยกำลังพลที่ประจำเรือพระที่นั่ง 4 ลำ จะแต่งกายเครื่องแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น ฝีพาย จะสวมหมวกทรงประพาสกำมะหยี่สีแดงขลิบลูกไม้ใบข้าวยอดเกี้ยว เสื้อเป็นสักหลาดสีแดงขลิบลูกไม้ใบข้าว ส่วนกางเกงเป็นผ้าสีดำ ใช้ผ้ารูเซีย รัดประคตโหมดเทศ สะพายดาบกำมะลอขลิบลูกไม้ใบข้าว ยกเว้น ฝีพายประจำเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช จะสวมใส่ชุดที่มีขลิบสีเหลือง
ขณะที่ นายเรือ สวมหมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว เสื้อโหมดเทศสีฟ้า นุ่งผ้าม่วงเชิงทอง รัดเข็มขัดภู่ไหมแดงและสายกระบี่แถบทองเล็ก ซึ่งต่างจากนายเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 จะสวมใส่เสื้อโหมดเทศสีน้ำเงิน
ผู้ควบคุมเรือ สวมหมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว เสื้อโหมดเทศสีแดง นุ่งผ้าเกี้ยวลาย รัดเข็มขัดภู่ไหมแดงและสายกระบี่แถบทองเล็ก ส่วนคนสัญญาณ สวมหมวกหูกระต่ายแดงขลิบลูกไม้ใบข้าว เสื้อสีขี้ไหม นุ่งผ้าเกี้ยวลาย รัดประคตโหมดเทศ ถือพู่หางนกยูง และคนธงที่อยู่ท้ายเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ จะแต่งกายด้วยหมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดจุก เสื้ออัตลัดสีแดง ผ้าเกี้ยวลาย รัดประคตโหมดเทศ
โดยขบวนเรือพระราชพิธี ขบวนพยุหาตราทางชลมารค ใช้เรือพระราชพิธี ทั้งสิ้น 52 ลำ มีการจัดรูปขบวนเรือพระราชพิธี ยึดตามแบบโบราณราชประเพณี แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย โดยริ้วสายกลาง มีเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ประกอบด้วยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ยังมีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม เป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน ส่วนริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้าเรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก และริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ จัดซ้อมอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยใช้กำลังพลฝีพายเรือทั้งหมด 2,331 นาย ซึ่งเป็นกำลังพลของกองทัพเรือ จำนวน 2,200 นาย ที่เหลือเป็นของสำนักพระราชวัง พระตำรวจหลวง และเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร
ด้าน จ่าเอกธีรวัฒน์ สุดประเสริฐ นายเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ และครูฝึกฝีพาย กล่าวว่า ตนได้รับหน้าที่เป็นฝีพายและครูฝึกฝีพายในเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ก็รู้สึกภูมิใจมากที่ได้ทำหน้าที่สำคัญในครั้งนี้ ซึ่งในช่วง 8 - 9 เดือนที่ผ่านมา ได้ฝึกทหารใหม่จนเป็นฝีพายสามารถปฏิบัติหน้าที่สำคัญในครั้งนี้ การฝึกจะต้องบอกให้เขารู้ว่าเรือพระที่นั่งมีความสำคัญอย่างไร เพื่อให้มีความตั้งใจและภูมิใจทั่งตนเองและครอบครัวที่ได้รับทำหน้าที่สำคัญตรงนี้
เวลา 12.20 น.นายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงษ์ ได้ทำพิธีไหว้แม่ย่านางเรือ ก่อนเชิญเรือพระราชพิธีออกจากอู่เรือธนบุรี ไปประจำจุดเพื่อตั้งขบวนเรือพระราชพิธี ที่ท่าวาสุกรี ก่อนเคลื่อนขบวนออกจากท่าวาสุกรี ไปยังท่าราชวรดิฐ ในเวลา 15.30 น.ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางมีประชาชนเข้าชมการฝึกซ้อมตามจุดต่างๆ และสวนสาธารณะ ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกบริการน้ำดื่ม มีหน่วยบริการทางการแพทย์ และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ด้าน มีรถสุขาเคลื่อนที่บริการตามจุด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมอำนวยความสะดวก และได้ปิดการจราจรทางน้ำเพื่อทำการฝึกซ้อมตั้งแต่สะพานกรุงธนบุรี - สะพานพระปิ่นเกล้า จนถึงเวลา 19.09 น.หรือจนกว่าจะแล้วเสร็จ ประชาชนสามารถใช้บริการรถสาธารณะแทนเรือข้ามฟากในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับบรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้มีประชาชนจำนวนมากสวมใส่เสื้อสีเหลืองมาจับจองพื้นที่ตามจุดต่างๆ อาทิ สวนสันติชัยปราการ สวนนาคราภิรมย์ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าทั้ง 2 ฝั่ง ใต้สะพานพระราม 8 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช สวนสามพระยา และตามร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อชมการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ครั้งที่ 1 ของริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค
สำหรับบรรยากาศที่จุดคัดกรอง โซน 5 ซึ่งมี 4 จุด ได้แก่ ท่ารถไฟ พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน และวัดระฆังโฆษิตารามฯ ท่าเรือวังหวัง ประชาชนจำนวนมากสวมใส่เสื้อสีเหลือง นำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงก่อนผ่านเข้าจุดคัดกรองเพื่อชมความสวยงามของริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคอย่างมีความสุข
ด้าน น.ส.รำจวน อิสรางกูร ณ อยุธยา อายุ 73 ปี ชาวชุมชนบ้านบุ เขตบางกอกน้อย กทม.กล่าวภายหลังเข้าชมการซอมใหญ่เสมือนจริง ริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ที่อัฒจันทร์บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า เดินทางมาจับจองที่นั่งชมตั้งแต่ เวลา 13.00 น.เพิ่งได้มีโอกาสชมขบวนในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งมีความสวยงามอย่างมาก และหาชมได้ยาก และในการซ่อมใหญ่ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ และวันจริงก็จะเดินทางมาชมอีก ชมแล้วรู้สึกว่าประเพณีไทยเรารักษาไว้ดีเยี่ยม และอยากให้อนุรักษ์ไว้อย่างนี้ตลอดไป
ส่วนการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ครั้งที่ 2 จะมีขึ้นในวันที่ 21 ต.ค.ส่วนพระราชพิธีจริงเลื่อนไปเป็นวัที่ 12 ธ.ค.2562 นี้ โดยประชาชนสามารถสวมใส่เสื้อสีเหลืองเดินทางมาเข้าชมริ้วขบวนเรือได้ตามจุดต่างๆ ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี