20 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวันที่ 20 ต.ค. 62 เนื่องจากในวันที่ 22 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะมีมติออกประเทศยกเลิกสารเคมี 3 ชนิด ที่มีบทบาทในภาคการเกษตรไทย และยังมีกระแสข่าวออกมาว่าคณะกรรมดังกล่าวถูกครอบงำไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์ของตัวเองในการลงมติอิสระได้
ซึ่งเรื่องนี้ นายเชิดชัย จิณะแสน ประธาน ศพก.ระดับประเทศ และคณะกรรมการนโยบายฯ กระทรวงเกษตรฯ ออกมาเปิดเผยว่า ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรมการเกษตรจะพังย่อยยับเพราะผู้ใหญ่ในรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญแก่เกษตรกรเลย โดยเฉพาะ รมต.ที่กำกับดูแลภาคการเกษตร การเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ๆ ต้องดูแลเอาใจใส่เกษตรกรระดับรากหญ้าให้อยู่รอดในห้วงเศรษฐกิจไม่ดี สินค้าการเกษตรตกต่ำ แต่กลับว่าจะตัดวงจรชีวิต (ซึ่งสารเคมียังคงเป็นเส้นเลือดที่เกษตรรกรต้องพึ่งพาในขณะนี้) เพราะรัฐบาลหาสิ่งอื่นมาทดแทนไม่ได้ มีทางออกง่ายๆ งานนี้ท่านนายกรัฐมนตรีต้องลงมาเล่นด้วยตนเอง
โดยการเสนอให้ประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายระงับวาระการพิจารณายกเลิกสารฯ ไว้ก่อน แล้วใช้มาตรการตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ 5 ฉบับ ซึ่งถือว่าชัดเจน ครอบคลุมทุกๆด้านไว้อย่างดีแล้ว เมื่อทุกอย่างลงตัวเข้าที่เข้าทางแล้วจึงเชิญคณะกรรมการฯ หรือส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจะยกเลิก หรือจะใช้วิธีการอย่างอื่นมาแก้ไข
นายเชิดชัย กล่าวต่อไปว่า ประเด็นของกระเกษตรกรฯ ไม่มีอะไรมากและซับซ้อน ได้ขอร้องรัฐบาลว่าหาสิ่งมาทดแทนก่อนค่อยยกเลิก รัฐบาลก็เหมือนไม่ฟังโดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ดูแลด้านการเกษตร จะยกเลิกอย่างเดียว หากเป็นเช่นนี้ก็เหมือนตัดแข้งตัดขา ตัดอนาคตเกษตรกรไทยไปเลย วันนี้รัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า “ได้สั่งกรมวิชาการเกษตรเร่งนำบัญชีพืชสมุนไพรไทย 13 ชนิดเพื่อขึ้นทะเบียนมาทดแทนให้เกษตรกรไทยได้ใช้” มันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ หากเป็นไปได้ทำไมไม่ขึ้นทะเบียนมาล่วงหน้าหลายๆ ปีให้เกษตรกรไทยได้ใช้ไปเลย จะมาขึ้นเอาวันนี้พรุ่งนี้พรุ่งกันกับการแบนสาร ไม่มีที่ใดในโลกเข้าเตรียมการแบบนี้หรอกครับ และสารหรือพืชสมุนไพร 13 ชนิด จะสามารถนำมาใช้กับภาคอุตสากรรมทางการเกษตร ในพื้นที่ร้อยกว่าล้านไร่ได้หรือ? หากรัฐบาลคิดได้เท่านี้จบแน่ประเทศไทย
“ทางออกที่ดีที่สุดมีทางเดียวที่เสนอ เพราะตนรับทราบ รับรู้ข้อมูลปัญหาต่างๆมาจากศูนย์เรียนรู้ต่างๆทั่วประเทศ 882 อำเภอ ทั่วประเทศ ว่าเกษตรกรต้องการอะไร และไม่ต้องการอะไร โปรดฟังตัวแทนเกษตรกรสักนิดแล้วมาช่วยกันพัฒนาการเกษตร โดยไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีอคติซึ่งกันและกัน กลุ่มใดจะทำเกษตรเคมีก็ทำไป ทำเกษตรปลอดภัยก็ทำไป ทำเกษตรอินทรีย์ก็ทำไป แล้วแต่ชนิดพืช แล้วแต่ความสามารถ แล้วแต่พื้นที่บริบท สิ่งแวดล้อมและการลงทุน โดยทั้ง 3 กลุ่มหันมาปฏิบัติตามแผนงานกระทรวงเกษตรฯ คือประกาศฯ 5 ฉบับก็จะจบลงอย่างสวยงาม” นายเชิดชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี