คำถาม ถึงเวลาหรือยังครับที่เกษตรกรต้องหันมาทำเกษตรอินทรีย์กันอย่างจริงจังครับขอความรู้เรื่องนี้เพิ่มเติมด้วยครับ
เกรียงศักดิ์ อมรชัยการ
อ.เมือง จ.สุรินทร์
คำตอบ
จากมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอไฟริฟอสและไกลโฟเซต ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้มีความเห็นชอบ เมื่อเดือนเม.ย.2562 ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้พิจารณาออกประกาศเกี่ยวกับข้อบังคับในการใช้สารทั้ง 3 ชนิดต่อไป การปฏิเสธการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชร้ายแรงนั้น เกษตรกร จึงจำเป็นต้องปรับวิธีทำการเกษตรของตนเอง มาเป็นเกษตรอินทรีย์ มาทำเกษตรปลอดสารเคมีและเกษตรไร้สารพิษที่มีผลกระทบต่อกลไกและกระบวนการของระบบนิเวศน้อยที่สุด
เกษตรอินทรีย์ คืออะไร เกษตรอินทรีย์ คือการทำการเกษตรด้วยหลักธรรมชาติ บนพื้นที่การเกษตรที่ไม่มีสารพิษตกค้างและหลีกเลี่ยงจากการปนเปื้อนของสารเคมีทางดิน ทางน้ำ และทางอากาศเพื่อส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ของดิน ความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้กลับคืนสู่สมดุลธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์หรือสิ่งที่ได้มาจากการตัดต่อพันธุกรรม ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีแผนการจัดการอย่างเป็นระบบในการผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์ให้ได้ผลผลิตสูง ทั้งยังอุดมด้วยคุณค่าทางอาหารและปลอดสารพิษโดยมีต้นทุนการผลิตต่ำเพื่อคุณภาพชีวิต ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และนำไปสู่การผลิตในระบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน
เกษตรกร ที่ต้องการทำการเกษตรในระบบเกษตรอินทรีย์ จึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้มากพอที่จะหาปัจจัยการผลิตเพื่อทดแทนการใช้สารเคมี เพื่อทำการผลิตให้ได้ปริมาณและคุณภาพทัดเทียมกับการผลิตในระบบเกษตรเคมี การผลิตพืชในระบบเกษตรอินทรีย์ ปัจจัยที่สำคัญมาก ได้แก่ การจัดการดิน น้ำ และปุ๋ย เพื่อเพิ่มผลผลิตพืช และจัดการศัตรูพืช โดยไม่พึ่งพาสารเคมี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในผลผลิตที่ดี
แนวคิดพื้นฐานที่สำคัญของเกษตรอินทรีย์มีดังนี้
1. เกษตรอินทรีย์เป็นการทำการเกษตรแบบองค์รวม ซึ่งแตกต่างจากระบบเกษตรเคมีที่มุ่งเน้นการใช้ปัจจัยการผลิตต่างๆ เพื่อเพิ่มผลผลิตเฉพาะพืชที่ปลูก ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อทรัพยากรการเกษตรหรือนิเวศการเกษตร ส่วนการทำเกษตรอินทรีย์แบบองค์รวม จะให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดินการรักษาแหล่งน้ำให้สะอาด และการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพโดยยึดแนวทางเกษตรอินทรีย์ที่อาศัยกลไกและกระบวนการของระบบนิเวศในการทำการผลิต
2. เกษตรอินทรีย์เป็นการผลิตพืชที่ใช้ปัจจัยการผลิตที่ได้จากธรรมชาติ เช่น ใช้พันธุ์พืชที่มีการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ ใช้ปุ๋ยและสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ได้มาจากวัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี และสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อรา และยากำจัดวัชพืช รวมถึงสิ่งมีชีวิตดัดแปลงทางพันธุกรรม
3.เกษตรอินทรีย์เป็นระบบการจัดการปัจจัยการผลิตที่เหมาะสมและยั่งยืนจะต้องนำไปสู่ระบบการผลิตและปฏิบัติได้จริง มุ่งเน้นใน 3 เรื่องคือ การจัดการดินและน้ำการจัดการปุ๋ย และการกำจัดศัตรูพืช
4. เกษตรอินทรีย์เป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลย์ของวงจรของธาตุอาหารการประหยัดพลังงานการอนุรักษ์ระบบนิเวศการเกษตร และการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
เกษตรอินทรีย์จึงเป็นการเกษตรที่ให้ความสำคัญกับการทำไร่นาเชิงสร้างสรรค์เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศการเกษตรในไร่นาเกษตรกรอินทรีย์ จึงมีการพัฒนาการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการบริหารจัดการไร่นาของตน ก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างแท้จริงโดยอาจเริ่มต้นจากการปฏิบัติแบบปลอดสารพิษไปก่อน จนเกิดความชำนาญ แล้วค่อยเพิ่มความเข้มข้นของการปฏิบัติที่มุ่งสู่เกษตรอินทรีย์ต่อไป
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี