ลุ้นแบน3สารพิษ
จับตามติกก.วัตถุอันตราย
หวั่นม็อบเผชิญหน้า
ขอกำลังตร.คุมเข้ม
จับตาคณะกรรมการวัตถุอันตราย ประชุมแบน 3 สารพิษหรือไม่ “อนุทิน” แท็กทีม “มนัญญา” สาธารณสุข-เกษตรกร-ภาค ปชช.แสดงพลัง กดดันแบน 3 สารเคมีย้ำจุดยืนให้เปิดเผยการลงมติ มั่นใจ 3 ตัวแทน สธ.“เฉลิมชัย”เชื่อมั่น 5ผู้แทน ก.เกษตรฯลงมติแบน3สาร ขณะกระทรวงอุตฯ หวั่นม็อบชนม็อบ ขอกำลัง ตร.ดูแล ใครไม่เกี่ยว ห้ามเข้า ใกล้ห้องประชุม ทั่วปท.เครือข่ายยื่นจี้หนุนแบน3สาร ส่วนกลุ่มต้านจี้นายกฯเลื่อนแบน
จับตาวันที่ 22 ตุลาคม ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย จะพิจารณาเรื่องแบน3สารเคมีอันตราย ได้แก่ พาราควอต ไกลโพเซต และคลอร์ไพริฟอส หรือไม่แบน หลังกระทรวงหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งมติให้คณะกรรมการฯเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางกระแสความเคลื่อนไหวทั้งสองฝ่ายส่วนเครือข่ายที่สนับสนุนและคัดต้านการแบน3สารก่อตัวอยู่ทั่วประเทศต้องการให้เลื่อนการแบน3สารออกไป
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข นางสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข อาทิ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข,นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย. ) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์
ร่วมแสดงจุดยืนแบน3สารพิษ
ได้ยืนร่วมแสดงพลังโดยนำมือไขว้ กันแนบอกเป็นรูปกากบาท กำมือขวา หมายถึง ไม่เอาสารเคมี ส่วนมือซ้ายชู 3 นิ้ว เพื่อยืนยันว่าไม่เอา 3 สารเคมีทางการเกษตร พร้อมตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) น.ส.ปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ไทยแพน) นายสุนทร รักษ์รงค์ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สคยท.)เพื่อแสดงพลังเพื่อให้เกิดการแบนสารเคมีและให้มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ในการห้ามผลิต นำเข้า และห้ามใช้ในการเกษตรก่อนการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันที่ 22 ตุลาคมนี้
โดยนายอนุทินย้ำว่า กิจกรรมวันนี้เกิดขึ้นด้วยความสมัครใจเพื่อแสดงจุดยืนเรื่องการไม่เอาสารพิษ ไม่ได้เพียงช่วยเกษตรกร แต่ช่วยประชาชนทุกคนให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น อย่ามาถามว่าจะเอาอะไรมาทดแทน เพราะกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มีหน้าที่ ในการจัดหาสารทดแทน งานของเรา คือ ตรวจสอบว่าอะไรอันตรายกับสุขภาพและเดินหน้าจัดการทันที อย่าเอาเรื่องกำไร ขาดทุนมาคุย เพราะชีวิตคน ตีเป็นตัวเงินไม่ได้ ถึงจะมีเงินมาก แต่ต้องเก็บไว้รักษาตัวเอง คงไม่คุ้ม
สำหรับตัวแทนของกระทรวงซึ่งจะเป็นคณะกรรมการวัตถุอันตราย ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ได้แก่ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย.,นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์,นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ทั้งหมดจะโหวตแบนและจะขอให้ที่ประชุมลงมติอย่างเปิดเผย
เต็มใจให้หลอกเพื่อสุขภาพคนไทย
นายอนุทินกล่าวว่าจัดกิจกรรมเพื่อให้กำลังใจท่านทั้ง 3 และให้กำลังใจ นส.มนัญญาซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ นับว่ามีความเสี่ยงมาก ในความเป็นจริงจะนิ่งเฉยเสียก็ได้แต่กลับเดินหน้าเพื่อสุขภาพของประชาชนทั้งที่อาจกระทบกับคะแนนเสียง เมื่อท่านกล้าก็ต้องสนับสนุน ซึ่งหน่วยงานในความดูแลของ รมช.มนัญญาน่าจะแบนเหมือนกันเช่นเดียว กับตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม ส่วนจากกระทรวงอื่นตนตอบแทนไม่ได้
“แต่ขอให้ทราบไว้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สะท้อนเอกภาพของรัฐบาล สำหรับสารพิษที่เป็นประเด็นมันไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องดีทุกวันนี้ก็นำเข้าผ่านนอมินีใช้คนอื่นบังหน้าถ้าดีจริงเขาเปิดหน้าโชว์ไปแล้ว “และที่บอกว่าตนโดนหลอก ผมก็คิดว่าถ้าหลอกแล้ว มันทำให้คนไทยสุขภาพดี ก็ไม่เป็นไร รู้ว่าหลอก แต่เต็มใจให้หลอก”นายอนุทินกล่าว
มนัญชาจี้กก.โหวตนึกถึงปชช.
ด้าน น.ส.มนัญญายืนยันว่า เดินหน้าแบน3สารเคมี เพราะเห็นสมัยเป็นนายกเทศมนตรีที่อุทัยธานี เห็นเกษตรกรฉีดยาฆ่าแมลง ไม่ใส่รองเท้าแล้วเท้าเน่า จึงเร่งสร้างความเข้าใจ เรื่องการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ แต่ยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงทำไม่ได้ง่าย อยากฝากถึงคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่จะโหวตในวันพรุ่งนี้ ขอให้ตัดสินใจ โดยนึกถึงพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันอังคารที่ 22 ตุลาคมนี้ ถูกหลายฝ่ายจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ประกาศเดิมพันเก้าอี้ว่า หากไม่มีมติแบน 3 สารพิษดังกล่าว รัฐมนตรีของพรรคทั้ง 4 คน พร้อมจะลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน
เฉลิมชัยเชื่อมั่น5กษ.โหวตแบน
ที่กรมส่งเสริมการเกษตร นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่าวันที่22ต.ค.มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีวาระพิจารณาแบนสารเคมี 3 ชนิด ในส่วนของคณะกรรมการที่เป็นผู้แทน5ราย ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เชื่อมั่นว่าจะมีการลงมติแบนสารเคมีทั้ง3ชนิดซึ่งเป็นไปตามนโยบายกระทรวงฯและเรียกร้องให้เปิดเผยผลการลงมติว่าคณะกรรมการแต่ละคนมีมติอย่างไรเพื่อไม่ให้มีใครต้องเป็นแพะรับบาป
รมช.เกษตรฯระบุว่าหากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการแบน3สาร กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว ทั้งเรื่องของสารทดแทน สารชีวภัณฑ์หรือสารเคมีตัวอื่นเพื่อเป็นทางเลือกและไม่กระทบเกษตรกรรวมถึงมาตรการอื่นๆ ส่วนมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดที่มีผลบังคับใช้เมื่อวานนี้ ยังดำเนินต่อไปจนกว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะมีมติเป็นอย่างอื่น
“เป้าหมายของกระทรวงเกษตรฯ จะต้องเดินหน้าสู่เกษตรปลอดภัยและเกษตรแบบยั่งยืนลดการพึ่งพาการใช้สารเคมี ซึ่งกระทรวงเกษตรฯจะมีการปัดฝุ่น พ.ร.บ.เกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฏีกา ซึ่งตนจะตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม “นายเฉลิมชัย ย้ำ
อุตฯขอตร.รับมือม็อบหนุน-ต้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งเตรียมพร้อมการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค. ระหว่างเวลา 09.30–14.00น.มีวาระสำคัญการพิจารณาแบนหรือไม่แบน 3 สารวัตถุอันตราย ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต ล่าสุด มีทั้งผู้สนับสนุนให้แบนและผู้คัดค้านการแบน3สาร จะมารอฟังการประชุมที่กระทรวงอุตสาหกรรม ทั้ง 2 ฝ่าย มีจำนวนนับพันคน
ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานไปยังสน.พญาไท เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อย ระหว่างการประชุม เบื้องต้นจะจัดพื้นที่กลุ่มผู้สนับสนุนและคัดค้าน แยกพื้นที่กันเพื่อป้องกันการปะทะและจัดระบบรักษาความปลอดภัยให้กับคณะกรรมการวัตถุอันตรายแยกโซนลิฟท์ และกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามใกล้ห้องประชุม
ในการประชุมครั้งนี้ จะมี นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รักษาการ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็น ประธานการประชุม โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ส่งหนังสือปรับวัตถุอันตราย3สาร ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต จากชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่ 4 คือจะมีผลให้ห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก และครอบครองเข้ามาซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้บรรจุวาระในการประชุมเรียบร้อยแล้ว
ทั่วประเทศลุกฮือหนุนแบน3สาร
ในขณะที่ทั่วประเทศมีการเคลื่อนไหวในหลายจังหวัด สนับสนุนให้แบนสารพิษ กลุ่มเครือข่ายตลาดนัดอินทรีย์ จ.ตรัง“ตลาดกรีนชินตา” ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ผ่านนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้3สารเคมีดังกล่าว ส่วนที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรงโดย นางสาวมาลี สุปันตี สมาชิกกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน รวมตัวกันยื่นหนังสือ ต่อนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม
ขณะที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ เครือข่ายภาคเกษตรกรรม ในจังหวัดศรีสะเกษ 40 องค์กร รวมตัวกันเชิงสัญลักษณ์อ่านแถลงการณ์สนับสนุนการยกเลิกประกาศใช้สารพิษ 3ชนิดออกจากบัญชีการใช้สารพิษเคมีเกษตรและยื่นหนังสือเปิดเผนึก ถึง พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ โดยส่วนใหญ่ต่างระบุเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ศพก.จี้ บิ๊กตู่ สั่งเลื่อนแบน3สาร
นายเชิดชัย จิณะแสน กรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการจำกัดการใช้สารเคมีทางการเกษตรและประธานคณะกรรมการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.) ระดับประเทศ กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่าอีกเพียง1วัน จะถึงวันที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะลงมติเรื่องสำคัญที่เป็นประวัติศาสตร์ของภาคการเกษตรไทย โดยกรรมการส่วนหนึ่งไม่สามารถลงความเห็นได้อย่างเป็นอิสระตามหลักวิชาการเนื่องจากถูกนักการเมืองบังคับ ดังนั้น ขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เลื่อนการพิจารณาเกี่ยวกับสารเคมี 3 ชนิดไปก่อนจนกว่าจะหาสารหรือวิธีการทดแทนที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมกันได้ ระหว่างนี้มีประกาศกระทรวงเกษตรฯ 5 ฉบับ ประกาศจำกัดการใช้สาร3ชนิด คลอร์ไพริฟอส พาราควอต ไกลโฟเซต ซึ่งสามารถทำการเกษตรปลอดภัยได้และไม่เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและผู้บริโภคอยู่แล้ว
“หากคณะกรรมการวัตถุอันตราย ยังคงฝืนจะพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 22 ตุลาคม เท่ากับว่า กรรมการทั้ง 29 คนจะนั่งอยู่บนกองไฟแล้วลงความเห็นท่ามกลางความกดดันของกลุ่มที่หนุนและต้าน จะเป็นการตัดสินชะตาชีวิตเกษตรกรไทยในภาวะที่คับขัน จากนโยบายของรัฐบาลที่จะปฏิรูปภาคเกษตรเป็นเกษตร 4.0 กลับกลายถอยหลังเข้าคลองเป็นเกษตร 0.4” นายเชิดชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี