รมว.เฉลิมชัย เร่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรรับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด ชี้กรมวิชาการเกษตรเตรียมหาสารเคมีอื่นและสารชีวภัณฑ์ทดแทนไว้แล้ว เตรียมเสนอครม. เยียวยาเกษตรกร พร้อมผลักดันพ.ร.บ. เกษตรกรรมยั่งยืนให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
22 ตุลาคม 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ผลการพิจารณาของคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันนี้ (22 ตุลาคม) ที่แบนสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิดได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ย่อมส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่มีความจำเป็นต้องใช้สารป้องกันกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช แต่กระทรวงเกษตรฯ เตรียมมาตรการรองรับไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้กรมวิชาการเกษตรรวบรวมสารชีวภัณฑ์มาส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ ส่วนพืชเศรษฐกิจที่ยังจำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชได้ให้หาสารอื่นมาทดแทน
ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในการดูแลเกษตรกรทั่วประเทศจึงจะเร่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อพิจารณาปัญหาของเกษตรกรและหาแนวทางแก้ไขให้ ทั้งกรณีที่สารเคมีอื่นอาจมีราคาแพงกว่าหรือค่าแรงงานในการจัดการแปลง โดยหากต้องมีมาตรการช่วยเหลือด้านต้นทุนการผลิตใดๆ แก่เกษตรกรต้องผ่านความเห็นชอบของครม. ก่อน
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า กำลังเร่งขับเคลื่อนมาตรการลดต้นทุนการผลิตได้แก่ การผลิตปุ๋ยสั่งตัดให้ตรงกับผลวิเคราะห์ธาตุอาหารในดิน ซึ่งจะเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพของผลผลิต การส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่ เนื่องจากการที่เกษตรกรรวมกลุ่มกันจะทำให้ซื้อปัจจัยการผลิตได้ในราคาถูกลง กรณีที่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตรเพื่อทำเกษตรอัจฉริยะ (Precision Farmimg) จะสามารถเข้าไปสนับสนุนได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้จะเร่งขับเคลื่อนร่างพ.ร.บ. เกษตรกรรมยั่งยืน พ.ศ. ... ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการตราเป็นกฎหมายบังคับใช้เร็วที่สุด โดยขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเกษตรกรรมยั่งยืนแล้วซึ่งมีรมว. เกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน แล้วจะเร่งเสนอร่างพ.ร.บ. เกษตรกรรมยั่งยืนเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรโดยเร็วเพื่อจะเดินหน้าทำเกษตรปลอดภัยเต็มรูปแบบในพื้นที่เกษตร 149 ล้านไร่ทั่วประเทศ พร้อมกับตราพ.ร.บ. องค์กรเกษตรอินทรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นองค์กรทำหน้าที่ขับเคลื่อนการทำเกษตรในประเทศไทยให้ดำเนินตามศาสตร์พระราชาได้แก่ ทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์
โดยดำเนินการผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) 882 แห่งทั่วประเทศ และศูนย์ถ่ายทอดความรู้ที่มีอยู่ 10,000 กว่าแห่ง รวมทั้งร่วมกับยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายปรับเปลี่ยนพื้นที่เกษตรเคมีไปเป็นเกษตรอินทรีย์ 1 ล้านไร่ โดยภายในปีนี้ ปี 63 จะทำให้ได้ 5 ล้านไร่ และจะขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในอัตราร้อยละ 25 ในปีต่อๆ ไป
“ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีหน้าที่ดูแลทุกภาคส่วน สำหรับเกษตรกรต้องมีรายได้อย่างยั่งยืนและมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ประชาชนคนไทยได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็น “ครัวของโลก” จึงต้องส่งเสริมเกษตรกรให้ผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างมีคุณภาพและตรงความต้องการของตลาด ซึ่งรับปากว่า จะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างดีที่สุด” นายเฉลิมชัยกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี