27 ตุลาคม 2562 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดยกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ประกาศยกระดับการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ และจังหวัดร้อยเอ็ด เนื่องจากอิทธิพลพายุ “โพดุล” และ “คาจิกิ” ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในลำน้ำสายสำคัญได้ลดระดับต่ำกว่าตลิ่งในทุกจุดและน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ชุมชนได้แห้งลง คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และเข้าสู่ช่วงของการฟื้นฟูเพื่อปรับสภาพการดำรงชีพ ระบบสาธารณูปโภค และความเป็นอยู่ของประชาชนที่ประสบภัย ให้กลับสู่ภาวะปกติ จึงให้ลดระดับการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) กรณีอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ และจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดกลาง (ระดับ 2) ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด เป็นผู้สั่งการ ควบคุม และบัญชาการในพื้นที่จังหวัด เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกมิติที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
รมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาภายใต้การดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาล กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้อำนวยการ ควบคุม กำกับประสานการปฏิบัติโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน ทั้งฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประชาชนจิตอาสา และภาคเอกชนในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยและร่วมกิจกรรมฟื้นฟูศาสนสถาน และชุมชนในจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้เกิดความร่วมมือและบูรณาการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านต่างๆ สรุปได้ ดังนี้ 1.ด้านชีวิต กรณีผู้เสียชีวิต มีรายงานแล้ว จำนวน 41 ราย และได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกรายแล้ว
2.ด้านที่อยู่อาศัย ขณะนี้ได้บูรณาการหน่วยงานเข้าช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชนแล้ว 13,804 หลัง โดยจะเร่งซ่อมสร้างในส่วนที่เหลือต่อไป
3.ด้านสิ่งสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า-ประปา-ระบบโทรคมนาคมและเส้นทางคมนาคม) สามารถใช้บริการได้ครบแล้ว และสถานที่ราชการ สถานบริการสาธารณสุข โรงเรียน ศาสนสถาน สามารถใช้บริการได้ตามปกติทุกแห่ง
4.ด้านการประกอบอาชีพ ในภาคการเกษตร ทั้งด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ได้ทำการสำรวจผลกระทบ โดยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรด้วยการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ อาหารสัตว์ พันธุ์สัตว์น้ำ และซ่อมแซมเครื่องมือประกอบอาชีพ และอยู่ระหว่างการปฏิบัติตามระเบียบ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจ่ายเงินให้ความช่วยเหลือต่อไป
5.ด้านสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทีมปฏิบัติการระดับจังหวัด ได้เร่งดูแล เยียวยา กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ คนพิการ เด็ก ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง พร้อมจัดทีมนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา นักพัฒนาสังคม ออกเยี่ยมบ้าน ให้คำปรึกษา แนะนำ บำบัด ฟื้นฟูจิตใจและให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นด้านอื่น ๆ
6.ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้ส่งทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์เข้าดูแลประชาชนทั้งด้านสุขภาพกายและจิตใจอย่างใกล้ชิด มีการสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ และเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคที่อาจมีการระบาดในพื้นที่
“กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จะยังคงกำกับ ติดตาม ประสาน และสนับสนุนการปฏิบัติงานของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งพื้นฟูให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี