กษ.เตรียมงบ3.1พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกรเหยื่อน้ำท่วม-แล้ง 5 โครงการ
28 ตุลาคม 2562 นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 จำนวน 5 โครงการ กรอบวงเงิน 3,120 ล้านบาท ได้เริ่มเปิดรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม-10 พฤศจิกายน 2562 ระยะเวลาดำเนินโครงการเดือนตุลาคม 2562-30 กันยายน 2563
ทั้งนี้ หลักการให้ความช่วยเหลือ คือ ต้องเป็นเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วง ฝนแล้ง หรืออุทกภัย ปี 2562 ที่ได้รับความเสียหายสิ้นเชิง และได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 2562 ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้บูรณาการการทำงานของ 4 หน่วยงานในพื้นที่ร่วมกัน โดยเกษตรกรเลือกและสมัครเข้าร่วมโครงการได้เพียง 1 โครงการ จากทั้งหมด 5 โครงการ ข้อกำหนดเบื้องต้น คือ พื้นที่ต้องมีเอกสารสิทธิ สำหรับเกษตรกรที่สนใจปลูกพืชใช้น้ำน้อยพื้นที่ต้องเหมาะสม มีแหล่งน้ำเพียงพอเพาะปลูก หากสนใจเลี้ยงปลาควรจะมีบ่อดิน หรือเลี้ยงสัตว์ปีกอาจต้องมีโรงเรือนสำหรับสัตว์ปีกด้วย
นายเข้มแข็ง ระบุว่า แต่ละโครงการมีเป้าหมายและหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1.โครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, ถั่วเขียว) กรมส่งเสริมการเกษตรรับผิดชอบ โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายเป็นเงินสดโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.ของเกษตรกรเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ รายละไม่เกิน 20 ไร่ เป้าหมายเกษตรกร 150,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1.4 ล้านไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการตามความสมัครใจ 1 ครัวเรือน ต่อ 1 สิทธิ์ และเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร
2.โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/64 กรมการข้าวรับผิดชอบ เป้าหมายเกษตรกร 827,000 ครัวเรือน เมล็ดพันธุ์ข้าว 63,200 ดัน พื้นที่ 6.32 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรไร่ละ 10 กิโลกรัม ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ ชนิดพันธุ์ข้าว 5 ชนิด ประกอบด้วย 1. ข้าวหอมมะลิ (พันธุ์ กข15, ขาวดอกมะลิ 105) 2. ข้าวหอมปทุม (พันธุ์ปทุมธานี1) 3. ข้าวเจ้าไม่ไวแสง (พันธุ์ กข29, กข31, กข41, กข49, กข57, ชัยนาท 1, พิษณุโลก 2) 4. ข้าวเหนียวไม่ไวแสง (พันธุ์สันป่าตอง 1) 5. ข้าวเหนียวไวแสง (พันธุ์ กข6)
3.โครงการพัฒนาเสริมทางเลือกอาชีพด้านประมง การเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในบ่อดิน กรมประมงรับผิดชอบ เป้าหมายเกษตรกร 50,000 ราย โดยสนับสนุนพันธุ์ปลาและอาหารสัตว์น้ำให้แก่เกษตรกร (ได้รับพันธุ์ปลานิลแปลงเพศ 800 ตัว/ราย พร้อมอาหารสัตว์น้ำนำร่อง 120 กิโลกรัม/ราย
4.โครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมงในแหล่งน้ำชุมชน กรมประมงรับผิดชอบเป้าหมายแหล่งน้ำในชุมชน 1,436 แห่ง โดยปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ (กุ้งก้ามกราม) ในแหล่งน้ำชุมชน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแบบปิดโดยสนับสนุนลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามขนาดตั้งแต่ 5-7 เซนติเมตรขึ้นไป 200,000 ตัวต่อแหล่งน้ำ
5.โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีก กรมปศุสัตว์รับผิดชอบ เป้าหมายเกษตรกร 48,000 ครัวเรือน ในพื้นที่ 17 จังหวัด โดยสนับสนุนเป็นเงินโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.ของเกษตรกรเพื่อซื้อพันธุ์ไก่ไข่ เป็ดไข่ครัวเรือนละ 10 ตัว ไก่พื้นเมืองคละเพศอายุ 1 เดือน ครัวเรือนละ 30 ตัว พร้อมค่าอาหารและค่าวัสดุในการเลี้ยง
“หลักเกณฑ์ 5 โครงการ คือ 1. เกษตรกรที่ประสบภัยเสียหายสิ้นเชิงตามประกาศเขตภัยพิบัติ 2. ช่วยเหลือไม่เกิน 10- 20 ไร่ของแต่ละพืชและพื้นที่เสียหายและเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ 3.อัตราช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 245 บาท/ไร่ และถั่วเขียว 200 บาท/ไร่ โดยเกษตรกรต้องมีคุณสมบัติร่วมโครงการตามความสมัครใจ 1. เกษตรกรต้องมีสัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะ 2. เป็นหัวหน้าครัวเรือนหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย (1 ครัวเรือน ต่อ 1 สิทธิ์ ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร) 3. เป็นเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงฝนแล้ง หรืออุทกภัย ปี 2562 เปิดบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส.โดยกระทรวงเกษตรฯ มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรเปิดรับสมัครเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 วันที่ 25 ตุลาคม - 10 พฤศจิกายน 2562 ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทั่วประเทศ” นายเข้มแข็ง กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี