รมว.เกษตรฯเซ็นตั้งคณะทำงานช่วยเหลือเกษตรกรได้รับผลกระทบยกเลิกใช้3สารพิษ กำชับคณะทำงานฯพร้อมรับฟังผู้แทนเกษตรกรพืชเศรษฐกิจที่ต้นทุนสูงขึ้นและกำหนดมาตรกรชดเชย ชี้ต้องเสร็จก่อนวันที่1ธันวาคมเพื่อให้เกษตรกรเดือดร้อนน้อยที่สุด
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ออกคำสั่งกระทรวงเกษตรฯ ที่ 2300/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติประกาศวัตถุอันตรายทางการเกษตรเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส โดยกระทรวงเกษตรฯ เร่งขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
โดยมีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานคณะทำงาน นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน ประกอบด้วย อธิบดีกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวม 17 คน มีอำนาจหน้าที่ศึกษา รวบรวมข้อมูล นวัตกรรม เครื่องจักรกล เทคโนโลยีทางการเกษตร และสารเคมีทดแทน และกำหนดแนวทางหรือมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบการยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด กำหนดแนวทาง วิธีการสื่อสารตามแนวทางและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรต่างๆ ที่กำหนดเพื่อสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป กำกับดูแล และติดตามผลการปฏิบัติงานตามแนวทางและมาตรการที่กำหนด รายงานผลการดำเนินการต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมเชิญหน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ความเห็น และข้อเสนอแนะ รวมทั้งจัดส่งเอกสาร และข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่คณะทำงานเห็นสมควร
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย เปิดเผยว่า จากการที่ออกคำสั่งกระทรวงเกษตรฯ เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ในวันนี้ได้กำชับ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นประธานคณะทำงาน ให้เร่งประชุมกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยอธิบดีกรมต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 17 คน เพื่อศึกษา รวบรวมข้อมูล นวัตกรรม เครื่องจักรกล เทคโนโลยีทางการเกษตร และสารเคมีทดแทน และกำหนดแนวทางหรือมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบการยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ตามที่คณะกรรมการวัตถอันตรายประกาศมติให้สารเคมีดังกล่าวเป็นวัตถุเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 มีผลให้ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่าย ห้ามครอบครอง
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อวิถีการทำเกษตรของเกษตรกรจำนวนมาก โดยเฉพาะในพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด คือ อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าวโพด และไม้ผล จึงสั่งการให้คณะทำงานเชิญผู้แทนเกษตรกรมาให้ความคิดเห็นถึงแนวทางในการปรับเปลี่ยนและสิ่งที่ต้องการให้รัฐช่วยสนับสนุน ทั้งด้านต้นทุนการผลิตที่อาจสูงขึ้น เครื่องจักรกล และเทคโนโลยีการเกษตรซึ่งจะนำมาทดแทน กำกับดูแลและติดตามผลการปฏิบัติงานตามแนวทางและมาตรการที่กำหนด โดยมอบหมาย นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ และนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วย รมว.เกษตรฯ เป็นที่ปรึกษา โดยให้รายงานผลการดำเนินการต่อ รมว.เกษตรฯ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ คณะทำงานยังต้องกำหนดวิธีการสื่อสารแนวทางและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่จัดทำ เพื่อสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
"ได้แต่งตั้งผู้บริหารทุกกรมที่เกี่ยวข้องมาเป็นกรรมการเพื่อจะได้แนวทางและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างรอบด้าน ต้องได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด จะมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ ยังคงมอบหมาย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ซึ่งกำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร ในการเตรียมสารชีวภัณฑ์ สารเคมีอื่น และวิธีการต่างๆ รองรับไว้ด้วย เพื่อให้เกษตรกรได้รับผลกระทบน้อยที่สุด" นายเฉลิมชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี