29 ตุลาคม 2562 พ.ต.อ.ธงชนะ หาญกิตติกาญนา ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ศูนย์วิทยุสื่อสารของสภ.บ่อผุด ได้รับแจ้งจากโรงแรม แซนดัลวู้ด ลักชัวรี่ วิลล่า ตั้งอยู่บนยอดเขาหมาแหงน ม.4 ต.มะเร็ต ว่ามีคนร้ายเป็นชายไทย 2 คนเข้ามาก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวภายในห้องพัก และคนร้ายยังได้ใช้อาวุธทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะหลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินเป็นเงินสด หลังรับแจ้งจึงได้สั่งการให้ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ
ขณะที่นายไมเคิล อาโนวด์ ฮาน (MR.MICHAEL ARNOLD HAHN) อายุ 47 ปี นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน พร้อมกับภรรยา ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน และให้การว่าได้เดินทางมาประเทศไทยพร้อมกับครอบครัวเมื่อวันที่ 26ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย โดยมีกำหนดจะเดินทางกลับในวันที่2 พฤศจิกายน2562ในขณะที่พักในโรงแรมช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 06.50น. ของวันนี้ ตนเองและครอบครัวกำลังนอนหลับอยู่นั้น ได้ยินเสียงกระจกแตกจึงตกใจตื่นขึ้นมา ก่อนจะเดินมาสำรวจว่าเป็นเสียงจากไหน ต่อมาได้เห็นชายไทยวัยกลางคน สูงประมาณ 158 เซนติเมตร ใส่ผ้าปิดปาก นุ่งกางเกงขาสั้น ถือขวานเป็นอาวุธเข้ามาทางหน้าต่างห้องน้ำ แล้วพูดภาษาอังกฤษแปลงเป็นไทยว่า "ให้เอาเงินมา" ก่อนจะเข้าไปคว้าเอากระเป๋าเงินไปพร้อมกับทรัพย์สินภายในเป็นสร้อยคอเครื่องประดับที่ไม่ได้มีมูลค่าอะไร
นายไมเคิล ยังเล่าอีกว่า เมื่อตนเองเห็นว่าคนร้ายหยิบเอากระเป๋าไป จึงได้เข้าไปแย่งและมีการต่อสู้กัน คนร้ายได้ใช้ขวานฟันเข้าที่บริเวณหลังหู แขนข้างซ้าย และนิ้วก้อยเท้าข้างขวา จนตนเองได้ร้บบาดเจ็บ ก่อนจะมีคนร้ายอีกคนเป็นชายไทย สูงประมาณ 180 เซนติเมตร เข้ามาช่วยเหลือ และพากันวิ่งหลบหนีไป หลังเกิดเหตุได้แจ้งให้ทางโรงแรมทราบและไปทำแผลที่โรงพยาบาล
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพใบหน้าและลักษณะของคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุไว้ได้ เป็นชายไทย 2 คน ชี่รถจักรยานยนต์ สีแดงดำ คนขี่สวมหมวกกันน็อค ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินและสวมเสื้อยีนส์ทับ และคนซ้อนท้าย ใส่หมกแก๊ป สวมเสื้อยืดสีน้ำตาล นุ่งกางเกงยีนส์ เดินเข้ามาตามถนนของโรงแรมเข้ามาก่อเหตุ และหลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด ร่วมกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจ.สุราษฎร์ธานี และตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย สามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย ทราบชื่อคือนายพรศิลป์ หรือปิ หรือยาว อาจสุรินทร์ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี อาชีพขายของหาบเร่ริมชายหาดเฉวง ถูกจับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยป่าจาก ม.6 ต.บ่อผุด ได้พร้อมของกลาง 7 รายการประกอบด้วย รองเท้าแตะยี่ห้อ GAMBOL จำนวน 1 คู่ หมวกแคปสีแดงยี่ห้อ ADDIDAS จำนวน 1 ใบ กระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ เสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล จำนวน 1 ตัว และกางเกงยีนส์ขายาว จำนวน 1 ตัว เป็นชุดของนายพรศิลป์ สวมใส่ในวันก่อเหตุก่อนถูกจับ และรองเท้าผ้าใบยี่ห้อ WILSON จำนวน 1 คู่ ขวานจำนวน 1 เล่ม และกางเกงขาสั้นลายทหาร จำนวน 1 ตัว ของนายสมชาย ผู้ต้องหาอีกคนที่กำลังหลบหนีอยู่
จากการสอบสวน นายพรศิลป์ ผู้ต้องหาให้การว่า ตนเองกับนายสมชาย(นามสมมุติ)ที่หลบหนีอยู่ชักชวนกันมาก่อเหตุ ก่อนจะพากันขี่รถจักรยายนต์ขึ้นมาบนเขาหมาแหงนและนำไปจอดแอบไว้ริมทางหลังวิลล่า พอเห็นว่าปลอดคนจึงได้เดินเข้ามาตามถนนของโรงแรมเพื่อดูลาดเลาจนพบห้องพักของผู้เสียหาย จากนั้นนายสมชาย (ผู้ร่วมก่อเหตุที่หลบหนี) ใช้ขวานทุบกระจกห้องน้ำเพื่อมุดตัวเข้าไปเปิดประตูห้องให้ตนเองเข้าไปข้างใน แต่ระหว่างนั้นเจ้าของห้องตื่นขึ้นมาก็เลยมีการต่อสู้กันและพากันหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ ก่อนจะแยกย้ายกัน เหตุที่เกิดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเก็บพยานหลักฐาน ทั้งลายนิ้วมือแฝง และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับคนร้ายที่ก่อเหตุประกอบสำนวนคดี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นาย พรศิลป์ อาจสุรินทร์ อายุ 36 ปี ในความผิดฐาน ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นในเคหะสถานโดยใช้อาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนนายสมชาย ผู้ต้องหาอีกรายที่กำลังหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างขออำนาจศาลจังหวัดเกาะสมุยออกหมายจับและติดตามตัวเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี