“กลุ่มครู”แต่งดำบุกสภา ยื่นพรรคร่วมฝ่ายค้านค้านร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พร้อมคงบางมาตรา กม.ปี 42 ให้มี“ผอ.-ภารโรง”เช่นเดิม ด้าน“มงคลกิตติ์”สบช่องหวด“รมว.ศธ.”3เดือนไร้ผลงาน เหน็บ ศธ.ไม่ใช่ที่ฝึกงาน ขู่ดันทุรังเข้าสภา เจอโหวตตกไปไม่รอดแน่
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 ตุลาคม 2562 ที่บริเวณหน้าอาคารัฐสภา ถนนเกียกกาย กลุ่มครูและบุคลากรการศึกษาในนามกลุ่มรวมพลคน38 ค.(2) ใส่ชุดดำกว่า 200 คนรวมตัวมาเพื่อยื่นเรื่องคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับ...พ.ศ... โดยส่งตัวแทนนำโดยนายธนชน มุทาพร ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) ชัยภูมิ เขต1 ในฐานะประธานชมรม ผอ.เขตการศึกษาแห่งประเทศไทย เข้ายื่นเรื่องกับ 6 พรรคฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ มีการเรียกร้อง 8 ข้อ อาทิ ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 42 และให้ปรับปรุงมาตราที่ไม่ทันเหตุการณ์ แทนการยกร่างทั้งฉบับ เนื่องจากร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวไม่มีครู และบุคคลกรทางการศึกษาเข้ามามีส่วนยกร่าง จึงอาจสร้างความขัดแย้งระหว่างบุคลากรทางการศึกษากับชุมชนต่างๆในพื้นที่ รวมถึงการยกเลิกใบประกอบวิชาชีพครูให้มาใช้ใบรับรองความเป็นครู ซึ่งเกิดความแคลงใจในศักดิ์และสิทธิ์ว่าเทียบเท่ากันหรือไม่
ขณะที่วิชาชีพอื่นใช้ใบประกอบวิชาชีพเช่นแพทย์ใช้ใบประกอบโรคศิลป์ วิศวกร4 ใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม(ก.ว.) รวมถึงการเปลี่ยนชื่อ ตำแหน่ง จากผอ.สถานศึกษาเป็นครูใหญ่ โดยเฉพาะมาตร4 ในร่าง กำหนดให้มีตำแหน่งแค่ครู และครูใหญ่เท่านั้น แต่ตำแหน่งอื่นถูกตัดทิ้งหมด. หรือมาตรา 38 ให้มีองค์กรครูเรียกว่า คุรุสภา ซึ่งต้องมีตัวแทนคณะกรรมการคุรุสภามาจากครูโดยตรง หรือมาตรา 79 ที่คณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติไม่ได้กำหนดให้มีกรรมการที่มาจากตัวแทนครู และบุคลากรทางการศึกษาอื่นเข้าร่วมเป็นกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ขาดการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบวิชาชีพ ทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงอย่างแท้จริง
กลุ่มดังกล่าวยังได้เรียกร้องให้ยุติการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่...พ.ศ... โดยให้คงข้อบัญญัติบางส่วนในกม.การศึกษาแห่งชาติปี 42 เช่น คำว่า ใบประกอบวิชาชีพ ตำแหน่งผอ. ให้ยกเลิกตำแหน่งผู้ช่วยครูใหญ่ โดยให้เป็นรองผอ.การโรงเรียนตามเดิม และต้องมาจากวิชาชีพครูเท่านั้น ให้มีกรรมการจากตัวแทนครูในคณะกรรมการนโยบายศึกษาแห่งชาติในสัดส่วนที่เหมาะสม
ด้านตัวแทน 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทิ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า การยุบ เลิกโรงเรียนประถม มัธยม เป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุดเพราะการศึกษาจะต้องมีการกระจายอำนาจ ไม่ใช่กระจุกอยู่ที่ส่วนกลาง รัฐบาลนี้เข้ามาแก้ปัญหา หรือเข้ามาสร้างปัญหา กระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่ที่ทดลองงาน เพราะผ่านมา3 เดือนแล้วรมว.ศึกษาธิการยังไม่ปรากฏผลงาน
“การแก้ไขร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่จะเสนอเข้ามาสภา แต่ถ้าไม่ได้เสียงจากฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคเล็กสนับสนุน รัฐบาลไม่มีทางผ่านไปได้ ฉะนั้นหาก รมว.ศึกษาธิการ จะคิดแก้กฎหมายเรื่องนี้โดยไม่คิดหน้าคิดหลังก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเราต้องการแก้เรื่องการศึกษา ไม่ใช่ต้องการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ทุกวันนี้รัฐบาลควรจะแก้ปัญหาบุคลากร เช่น ครู ภารโรง แต่กลับไปแก้ที่โครงสร้างแทน ผมขอท้าถ้าจะโหวตกันในสภารับรองไปไม่รอดแน่” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ด้านนายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมกรรมาธิการการศึกษา และจะทำให้เป็นวาระแห่งชาติให้ได้ โดยต้องให้นายกฯเป็นประธานการแก้ไข การเมืองวันนี้ไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล แต่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้สำเร็จให้ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี