กลุ่มครูยุติธรรมฯ ระดมความคิดเห็นแก้ไขปัญหาหนี้ครู

กลุ่มครูยุติธรรมฯ ระดมความคิดเห็นแก้ไขปัญหาหนี้ครู

วันอาทิตย์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 14.11 น.

3 พฤศจิกายน 62 ที่ห้องประชุมเบญจบงกช  โรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม  กลุ่มครูยุติธรรมภิวัฒน์  ได้จัดเสวนายุทธศาสตร์การแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา  โดยมีวิทยากรคือ  นายสมเกียรติ  พงษ์ไพบูลย์  อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา  นายไชยวัฒน์  สินธุ์สุวงค์  ที่ปรึกษากลุ่มครูยุติธรรมภิวัฒน์  และเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย  นายกิตติศักดิ์  อินทรกำแหง ณ นครราชสีมา   นายสมคิด  หอมเนตร  และนายสำคัญ  จงโกเย็น  ประธานกลุ่มครูยุติธรรมภิวัฒน์แห่งประเทศไทย  ร่วมเสวนา  โดยมีครู  อดีตข้าราชการครูเกษียณอายุราชการจากจังหวัดมหาสารคามและใกล้เคียงมาร่วมรับฟังกว่า 200 คน

โดยเนื้อหาการเสวนากล่าวถึงความเป็นมาของหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา  ซึ่งครูที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกู้เงิน  โครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา  (ช.พ.ค.)  มีความประสงค์ที่จะฟ้องศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบทั้ง 9 ภาค  อีกส่วนหนึ่งจะฟ้องศาลคุ้มครองผู้บริโภค  โดยประเด็นที่จะฟ้องคือ  สัญญาไม่เป็นธรรม  เงินกู้ ช.พ.ค. มีการเก็บเงินประกันล่วงหน้า 9 ปี  ซึ่งครูเข้าในว่าเป็นเงินประกันชีวิต  แต่มาปรากฎว่าเป็นเงินประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ  ซึ่งจะไม่ได้เงินคืนเมื่อครบกำหนดประกัน 


นายอวยชัย  วะทา  ประธานเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า  กลุ่มเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครู  และกลุ่มยุติธรรมภิวัฒน์ได้มาประชุมครูในภาคอีสานซึ่งเป็นผู้นำครูแต่ละจังหวัดที่จะรวบรวมรายละเอียดและประเด็นที่จะยื่นฟ้องธนาคารออมสิน  และบริษัททิพยประกันภัย  ในประเด็นของการฉ้อฉลการทุจริต  โดยจะได้ยื่นฟ้องศาลคดีอาญาทุจริตในแต่ละเขตที่ผู้นำครูตั้งอยู่  ซึ่งจากหลักฐานต่าง ๆ ที่รวบรวมกันมานี้มั่นใจว่าการฟ้องร้องครั้งนี้จะมีความคืบหน้าเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหา  อีกอย่างก็คือต้องการที่จะเจาะลึกถึงข้อมูลและประเด็นปัญหาให้ลึกที่สุดเพื่อที่นำไปสู่กระบวนการแก้ไข

ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยเรียกร้องให้พักหนี้  หมายถึง   ในระหว่างที่กำลังประชุมแก้ปัญหากันอยู่ในช่วงรัฐบาลที่แล้วให้พักนี้ไว้  แต่เมื่อรัฐบาลยุบสภา  มีการประกาศเลือกตั้งใหม่ก็เลยขาดช่วงไปช่วงหนึ่ง  แต่ว่าจากกระแสการเรียกร้องของครูตั้งแต่ปฏิญญาสารคาม  เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 61 ทำให้ทางธนาคารมีการปรับดอกเบี้ยลดลง  ในส่วนที่เคยเป็น 15% ลดลงมาเหลือ 7%-9% บางกลุ่มก็เหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีในการที่จะเป็นตัวเลขในการที่จะรัฐบาลเข้ามาช่วยสิ่งสำคัญก็คือการพักการชำระหนี้นั้นก็คือให้ดอกเบี้ยและเงินกู้หยุดไว้ก่อน  หลังจากนั้นเราได้ยื่นข้อเสนอก็คือให้ลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 3 แต่ถ้าครูวิกฤตที่เงินเหลือไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ควรที่จะปรับโครงสร้างหนี้ในระยะเวลา 3-4 ปีก็ให้เหลือ 0% ก่อน

ในส่วนของจังหวัดมหาสารคาม  มีครูที่เป็นหนี้ทั้งหมดประมาณ 14,000 คน   ส่วนใหญ่ครูที่มีหนี้วิกฤตคือครูบำนาญ  ประมาณ 5,000-6,000 คน  ซึ่งจากเดิมจากเคยได้รับเงินเดือน 40,000 บาท  เกษียณแล้วเงินเดือนจะลดลงกว่าครึ่งหนึ่งคือรับเงินเดือนเพียง  20,000 บาท  ทำให้มีปัญหาในการชำระหนี้  เงินไม่พอใช้  ซึ่งประสบภาวะเดียวทั้งประเทศ  ซึ่งทั้งประเทศมีครูกว่า 980,000 คน  เป็นครูประจำการกว่า 700,000 คน  มีครูที่ประสบปัญหาวิกฤตอยู่ไม่ต่ำกว่า 400,000 คน 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top