“เขมรปอยเปต”ผวาสงครามกลางเมือง แห่ตุนเสบียง ทหาร-ตำรวจเขมรขนอาวุธสงครามครบมือคุมเข้มด่านปอยเปตล่าสกัดกลุ่มกบฏใต้ดิน ประกาศล้ม “ฮุนเซน”
ความคืบหน้ากรณีรัฐบาลกัมพูชา เตรียมกวาดล้างกลุ่มกบฏ หลังรัฐบาลกัมพูชาสืบทราบว่ากลุ่มกบฏกัมพูชา ซึ่งมีอดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา คือ นายสม รังสี เป็นแกนนำ ประกาศว่าจะกลับมาล้มล้างรัฐบาลสมเด็จฮุน เซน ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘เขมร’ระอุ!ลือสนั่นปิดด่านอรัญ-ปอยเปต เปิดศึกกวาดล้างกบฏต้าน‘ฮุนเซน’)
ล่าสุดวันนี้(4 พฤศจิกายน 2562) ที่ด่านพรมแดนปอยเปต ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจกัมพูชา ยังคงสะพายอาวุธสงครามคุมเข้มการเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาของบุคคลทั่วไปอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปต ได้ทำการตรวจพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศกัมพูชาอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งนำภาพของ 8 แกนนำกบฏกัมพูชาและกลุ่มสนับสนุน ที่รัฐบาลกัมพูชาออกหมายจับและห้ามเข้าประเทศมาติดไว้บริเวณด่าน ตม.ปอยเปต เพื่อให้เจ้าหน้าที่เปรียบเทียบใบหน้าป้องกันการแปลงโฉม และตบแต่งใบหน้าลักลอบเข้าประเทศกัมพูชา
ส่วนบรรยากาศในตลาดปอยเปต ซึ่งอยู่ห่างด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประมาณ 1.5 กม.ยังคงมีทหาร และ ตชด.กัมพูชา สะพายอาวุธสงครามเดินลาดตระเวนตรวจตราตามท้องถนน และตามตรอกซอกซอยตลอดเวลา ทำให้ประชาชนชาวกัมพูชาในปอยเปตต่างอกสั่นขวัญแขวน มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา โดยเฉพาะการวิจารณ์ว่าอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองในกัมพูชากลับมาอีกครั้ง หากนายสม รังสี แกนนำกลุ่มกบฏกัมพูชาเดินทางเข้ามาในประเทศกัมพูชาอีกครั้งในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 ตามที่ได้ประกาศและปลุกระดมชาวกัมพูชาให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและโค่นล้มระบบฮุน เซน
ขณะที่จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวในกรุงปอยเปต พบว่า ทางรัฐบาลกัมพูชามอบหมายให้ พล.อ.เค็ง ซาเมด รอง ผบ.ตร.กัมพูชา ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนประเทศกัมพูชาทั่วประเทศ รับผิดชอบและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจกัมพูชาปฏิบัติการเข้มป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มกบฏกัมพูชาสามารถลักลอบเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาได้ โดยสั่งการให้ พล.ท.เป็ก วันนา ผู้บัญชาการสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย (ผบ.สน.ปกท.) ของกัมพูชา นำกำลังทหารประจำจังหวัดบันเตียเมียนเจย พร้อมอาวุธสงครามคุมเข้มพื้นที่ชายแดนด้าน จ.บันเตียเมียนเจย
นอกจากนี้ให้ พ.ต.อ.โซ จันนารี ผบ.กองพัน ตชด.ที่ 911 กัมพูชา นำกำลังพร้อมอาวุธสงครามดูแลรับผิดชอบพื้นที่ตะเข็บชายแดนด้านกรุงปอยเปต โดยมี พล.ต.บอน บิน หัวหน้าสารวัตรทหารกัมพูชา ประจำจังหวัดบันเตียเมียนเจย นำหน่วยสารวัตรทหารกัมพูชา ออกตรวจค้นตามแหล่งชุมชนทั่วกรุงปอยเปต
นายเจือน ซกฮือ ชาวกัมพูชาในตลาดปอยเปต เปิดเผยว่า ขณะนี้ในกรุงปอยเปตไม่ปรกติเพราะมีแต่ทหาร ตำรวจกัมพูชาถืออาวุธสงครามเดินตรวจตราทั่วเมือง โดยเฉพาะตอนกลางคืนชาวกัมพูชาในกรุงปอยเปตไม่มีใครกล้าออกจากบ้าน เพราะกลัวถูกจับหรือถูกยิงตาย เวลา 20.00 น.ต่างก็รีบเข้านอนกันหมด แม้แต่ห้างสรรพสินค้าในกรุงปอยเปต ช่วงกลางคืนเหมือนห้างร้างไม่มีชาวกัมพูชากล้าเข้าไปเดินในห้าง
“ตอนนี้ชาวกัมพูชาต่างกลัวสงครามกลางเมืองกันมาก ไม่อยากให้กัมพูชากลับไปอยู่ในสภาพสงครามอีกครั้ง มีการกักตุนอาหารและน้ำดื่มกันแล้ว ตอนนี้ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่จับตามองในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 ที่นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ที่รัฐบาลกัมพูชาตั้งข้อหากบฏ และได้หลบหนีไปอยู่ฝรั่งเศส ประกาศว่าจะกลับมาเรียกร้องประชาธิปไตยในกัมพูชา จึงเกรงว่าหากเป็นเรื่องจริงอาจมีการยิงปะทะกันระหว่างทหารกับกลุ่มใต้ดินที่สนับสนุนนายสม รังสี” นายเจือน กล่าว
ส่วนทางด้านด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำด่าน ตม.อรัญประเทศ ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนคนไทยที่ทำงานอยู่ในฝั่งปอยเปต ให้ระมัดระวัง พกหนังสือเดินทางตลอดเวลา และห้ามทำผิดกฎหมายในกัมพูชา โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนห้ามออกมาเดินเล่นในตลาดปอยเปต และอย่าพยายามปิดบังใบหน้า หรือใส่หมวกคลุมใบหน้าเพราะจะทำให้ถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ตรวจค้นหรือเกิดสงสัยได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี