จังหวัดเชียงราย เป็นอีกจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูงสุดในการผลิตข้าว ประชากรส่วนใหญ่จึงประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าวเป็นหลัก ทางจังหวัดจึงผลักดันเรื่องข้าวให้เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด
สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด เป็นสหกรณ์ที่สมาชิกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา และพื้นที่อำเภอเชียงแสน มีลักษณะภูมิอากาศคล้ายพื้นที่ภาคอีสานที่ปลูกข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพได้ดี ดังนั้น ธุรกิจแปรรูปและผลิตภัณฑ์สินค้าของสหกรณ์ จึงเป็นธุรกิจที่โดดเด่น ได้รับรางวัลข้าวตราคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทย ประเภทข้าวหอมมะลิ ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งข้าวเปลือกที่สหกรณ์นำมาผลิตเป็นข้าวสารจนได้รับรางวัลดังกล่าว เป็นข้าวเปลือกที่ผลิตโดยสมาชิกของสหกรณ์ฯ
นางแสงสุนีย์ นุชัย ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด เล่าให้ฟังว่า สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด ก่อตั้งเมื่อ 2515 มีพื้นที่ดำเนินงานครอบคลุม 6 ตำบล ใน อ.เชียงแสน ได้แก่ ตำบลป่าสัก ตำบลศรีดอนมูล ตำบลเวียง ตำบลโยนก ตำบลบ้านแซว และตำบลแม่เงิน ปัจจุบันมีสมาชิก 3,512 ราย มีทุนดำเนินงาน 680 ล้านบาท มีทุนเรือนหุ้น 110 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจ รับฝากเงิน สินเชื่อ รวบรวมผลผลิตจากสมาชิก จัดหาสินค้ามาจำหน่าย (ปัจจัยการผลิต, สินค้าอุปโภคบริโภค, น้ำมัน, สินค้าเกษตร) และแปรรูปผลผลิต (ข้าวเปลือก-ข้าวสาร, เมล็ดพันธุ์ข้าว, น้ำดื่ม)
ปัจจุบันธุรกิจที่โดดเด่นของสหกรณ์ฯคือ ผลิตข้าวครบวงจร โดยสหกรณ์ฯร่วมกับกรมการข้าว ส่งเสริมให้สมาชิกผลิตข้าวเปลือกที่มีคุณภาพมาตรฐาน GAP ภายใต้โครงการผลิตข้าวคุณภาพ ปัจจุบันมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการ 235 ราย พื้นที่ 3,600 ไร่ ซึ่งสมาชิกต้องใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่สหกรณ์ฯผลิตขึ้นเอง รวมถึงวัสดุทางการเกษตรต่างๆ นอกจากนี้ สหกรณ์ฯยังสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้สมาชิก พร้อมรับซื้อข้าวเปลือกที่ได้รับมาตรฐาน GAP คืนจากสมาชิก โดยจะรับซื้อข้าวเปลือกสดคืนในราคาเพิ่มขึ้นจากราคาตลาด ณ วันที่สมาชิกนำข้าวเปลือกมาจำหน่ายตันละ 500 บาท ส่วนข้าวเปลือกแห้งจะรับซื้อในราคาเพิ่มขึ้นตันละ 1,000 บาท หลังจากนั้นจะนำข้าวเปลือกที่ได้ไปแปรรูปในโรงสีของสหกรณ์ฯที่ได้รับมาตรฐานการผลิต GMP เพื่อผลิตเป็นข้าวสารขาย ส่งผลให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ซึ่งปีนี้คาดว่าจะรวบรวมผลผลิตข้าวคุณภาพจากสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการได้ประมาณ 4,000 ตัน
นอกเหนือจากนั้น สหกรณ์ฯยังดูแล ช่วยเหลือสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่เริ่มผลิต จนถึงการตลาด มีการส่ง
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรออกไปดูแลตรวจแปลงฤดูกาลละ 2 รอบ มีการให้ความรู้ทำการเกษตรที่มีคุณภาพ ซึ่งลดต้นทุนการผลิตได้ เนื่องจากสหกรณ์ฯจะให้ความรู้อย่างสม่ำเสมอในการผลิตว่าข้าวเปลือกที่ปลูกต้องการอาหารเวลาใดจึงเหมาะสม จากบันทึกของสมาชิกสามารถลดต้นทุนในการซื้อปัจจัยการผลิตได้ประมาณร้อยละ 10 เลยทีเดียว
ล่าสุดสหกรณ์ฯเปิดจุดรวบรวมผลผลิตข้าวของสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปขึ้น ที่สาขาเวียงโยนกอีกแห่งหนึ่ง ซึ่ง
ได้รับเงินอุดหนุนงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณปี 2561 (งบกลางปี) แผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตร (โครงการไทยนิยม ยั่งยืน) ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในการก่อสร้างฉางขนาด 2,000 ตัน และเครื่องชั่งขนาด 80 ตัน โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์สนับสนุน 6,750,000 บาท สหกรณ์ฯสมทบ 750,000 บาท รวมเป็นเงิน 7,500,000 บาท เพื่อรองรับผลผลิตข้าวคุณภาพและข้าวเปลือกทั่วไปจากสมาชิกและเกษตรกรที่อยู่ในแถบนั้น เป็นการช่วยลดต้นทุนขนส่งลงได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50 สตางค์ ส่งผลให้รวบรวมผลผลิตข้าวจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปได้ทั่วถึงมากขึ้น ธุรกิจของสหกรณ์ฯ เติบโตและเข้มแข็งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สาขาเวียงโยนกแห่งนี้จะเปิดรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
นับได้ว่า สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ที่ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม พัฒนากิจการเจริญก้าวหน้าเป็นองค์กรธุรกิจเข้มแข็ง นำพาคุณภาพชีวิตที่ดีมาสู่สมาชิกได้อย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี