ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงโรคที่เกิดจากการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลางาน หรือ “ออฟฟิศซินโดรม” ว่า จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2556-2560 ประเทศไทยมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ประมาณ 30.8 ล้านคน เป็นกลุ่มวัยทำงาน (อายุ 15 ขึ้นไป) จำนวน 28.1 ล้านคน โดยผู้ที่ทำงานในสำนักงาน หรือทำงานในท่าเดิมซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีแนวโน้มที่จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อสูงขึ้น โดยตำแหน่งที่มักพบบ่อยคือ บริเวณศีรษะและคอ

นำไปสู่การคิดค้น “เก้าอี้ เอ.ไอ.เพื่อสุขภาพ (AI Ergonomic Chair)” โดยทีมงานนักศึกษาจากภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ซึ่ง เบญญาภา พฤกษานุศักดิ์ หนึ่งในทีมคิดค้นกล่าวว่า โลกยุคดิจิทัลทำให้การนั่งทำงานหน้าจอเป็นสิ่งจำเป็นดังนั้นโจทย์คือทำอย่างไรจะป้องกันปัญหาการนั่งผิดท่าที่ต้นทาง จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนาระบบแจ้งเตือน เพื่อช่วยให้นั่งอย่างถูกวิธี โดยส่วนประกอบหลักคือ “เซ็นเซอร์ตรวจวัดน้ำหนัก” ที่ออกแบบมาเป็นแผงวงจร นำมาประกบติดใต้เบาะเก้าอี้ ทำให้ผู้นั่งเก้าอี้ได้ตระหนักและปรับปรุงวิธีการนั่งของตนเองให้ถูกต้องยิ่งขึ้น

ขณะที่นักศึกษาในทีมอีกราย ปุณวัชร รุจิวิพัฒน์ เล่าว่า ใช้เวลาพัฒนา 1 ปี ใช้เงินลงทุนเพียง 4,000 บาท เพราะชิ้นส่วนหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด โดย “เก้าอี้ เอ.ไอ.เพื่อสุขภาพ” จะสามารถทราบว่าผู้นั่งกำลังนั่งผิดท่าหรือไม่ เมื่อมีคนนั่ง ระบบจะคำนวณน้ำหนักและทำการวิเคราะห์ท่าทางของคนนั่งว่านั่งอยู่ในท่าทางใด โดยแผงวงจรเซ็นเซอร์จะตรวจวัดค่าน้ำหนัก แล้วจะส่งข้อมูลไปบนคลาวด์ เพื่อทำการประมวลผลด้วย AI และทำการจัดเก็บประวัติการนั่งทำงานของผู้ใช้งานอีกด้วย หากมีการนั่งผิดท่า ระบบก็จะแจ้งเตือนไปยังแอพพลิเคชั่น ให้ผู้นั่งได้ทราบได้ทันที

ด้าน ดร.กลกรณ์ วงศ์ภาติกะเสรี ที่ปรึกษาทีมพัฒนา “เก้าอี้ เอ.ไอ.เพื่อสุขภาพ” กล่าวว่า การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง 1.ให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือทำมุมประมาณ 10 องศา โดยไม่รู้สึกว่าต้องเงยหน้าขึ้นหรือก้มหน้าลงในการมองหน้าจอ 2.นั่งหลังตรงให้แผ่นหลังแนบพอดีกับพนักพิง ลำตัวตั้งตรง ไม่โน้มตัวไปด้านหน้าด้านซ้าย ด้านขวาหรือด้านใดด้านหนึ่ง ปล่อยไหล่ตามสบายไม่เกร็ง ไม่ยกไหล่ขึ้น

3.เก็บศอกทั้งสองข้างให้ชิดกับลำตัว โดยให้ส่วนของข้อมือกับข้อศอกอยู่ในแนวเส้นตรง ทำมุม 90 องศา กับไหล่ 4.ข้อมือวางระนาบเดียวกับคีย์บอร์ดหรือแป้นกด ไม่บิดข้อมือขึ้น หรือกดข้อมือต่ำจนเกินไป และ 5. วางเท้าให้ราบกับพื้นทั้ง 2 ข้าง ช่วงขาตั้งฉากกับพื้น โดยทิ้งน้ำหนักลงบนฝ่าเท้าทั้งสองข้าง ไม่ควรทิ้งนำหนักไว้ที่ส้นเท้า เช่น ท่านั่งเหยียดขา หรือปลายเท้า เช่น ท่านั่งเขย่งเท้า