ด.ญ.วัย15พ้นผิด
‘กระทงหน้าหมี’
ไม่เหมือนริลัคคุมะ
ผู้แทนลิขสิทธิ์ยัน
รมว.ยุติธรรมส่งทีมคุ้มครองพยาน ดูแลเด็กหญิงวัย 15 เหยื่อกระทงลิขสิทธิ์หลังถูกขู่ห้ามฟ้องกลับ ด้าน รองผบ.ตร.เผยคดีพลิกแล้ว เมื่อตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ที่รับมอบอำนาจตัวจริงเสียงจริงจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น เข้าพบยันกระทงหน้าหมีไม่เหมือนตัว “ริลัคคุมะ”ทำให้ดญ.วัย15พ้นผิด และตกเป็นผู้เสียหายสามารถฟ้องกลับเอาผิดได้ ขณะเหยื่อล่อจับลิขสิทธิ์การ์ตูนญี่ปุ่นกรรโชกค่าปรับโผล่บุกร้อง ก.ยุติธรรม 300 ราย เชื่อพฤติกรรมเป็นแก๊งเดียวกัน หอบหลักฐานฟ้องเอาผิด
ความคืบหน้าคดีนักเรียนหญิงวัย15ปีถูกผู้ที่อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง พาตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาวางแผนล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรมว.ยุติธรรมเปิดเผยว่า หลังครอบครัวเด็กหญิงวัย 15ปีที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ล่อซื้อและจับกุมกระทงรูปตัวการ์ตูนดังละเมิดลิขสิทธิ์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมและขอคุ้มครองพยานเนื่องจากถูกข่มขู่ ไม่ให้ดำเนินคดีกับตัวแทนลิขสิทธิ์ โดยระบุว่าหากแจ้งความกลับจะถูกฟ้องข้อหาแจ้งความเท็จและความผิดอื่นนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม สั่งการให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครราชสีมา เข้าช่วยเหยื่อและแนะนำข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินคดี พร้อมส่งชุดคุ้มครองพยานจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าดูแลความปลอดภัยให้ครอบครัวเด็กหญิงวัย 15 ปีคนดังกล่าวแล้ว
ส่วนการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีดังกล่าวนั้น ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) นำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน กรณีคดีกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ หลังตัวแทนบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์จำหน่ายสินค้าของบริษัท ซาน-เอ็กซ์ จำกัด บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเข้าพบหารือ โดยยืนยันว่า กระทงของเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่ จ.นครราชสีมา ไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์
ทั้งนี้ เนื่องจากตรวจสอบหน้าตาของกระทงดังกล่าวแล้ว ไม่มีความเหมือนหรือคล้ายตัวการ์ตูน “รีลัคคุมะ” ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทซาน-เอ็กซ์ แต่อย่างใด ไม่เหมือนทั้งใบหน้า หู ตา และปาก เป็นแค่กระทงรูปหมีธรรมดา ทำให้เด็กหญิงอายุ 15 ปี กลับกลายเป็นผู้เสียหาย สามารถฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งและอาญา กับ นายประจักษ์ โพธิผล ได้ รวมถึง ได้รับเงินค่าชดเชยกับการถูกดำเนินคดี
“ นอกจากนี้ บริษัท เวอร์ริเซ็ค ไม่ใช่ตัวแทนของบริษัท ซาน-เอ็กซ์แล้ว ส่วนนายประจักษ์ จะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ตีกิน หรือแจ้งความเท็จหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน แต่ยืนยันได้ว่า จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เวอร์ริเซ็ค ไม่ใช่ตัวแทนลิขสิทธิ์ของบริษัท ซาน-เอ็กซ์ฯ อีกต่อไปแล้ว”พล.ต.อ.วิระชัย ย้ำ
และว่า ส่วนตำรวจที่ร่วมจับกุมเด็กหญิงอายุ15ปีที่ทำกระทงรูปการ์ตูนดังกล่าวนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามขั้นตอน หลังรับแจ้งจากผู้ร้อง จากนี้ต้องไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ในลักษณะนี้อีก โดยกำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่ ตรวจสอบเอกสารหลักฐานตัวแทนลิขสิทธิ์ให้ถี่ถ้วนมากกว่านี้
สำหรับขั้นตอนดำเนินการของบริษัท ที.เอ.ซี.ที่เป็นบริษัทเดียว ที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัท ซาน-เอ็กซ์ฯนั้น ถ้ารับแจ้งมีการละเมิดลิขสิทธิ์ จะออกจดหมายเตือนก่อนถึง 2 ครั้ง หากไม่แก้ไข ถึงจะส่งตัวแทนดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนจะมีการดำเนินคดีกับนายประจักษ์ หรือ บริษัท เวอร์ริเซ็ค หรือไม่ เป็นเรื่องของคู่กรณีต่อไป
วันเดียวกัน ที่กระทรวงยุติธรรมผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความสมาพันธ์ทนายความแห่งประเทศไทย นำผู้เสียหายที่เคยถูกจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ประมาณ 10 รายเข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม โดยมีนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องร้องเรียน
โดยนายวรกรกล่าวว่าได้รวบรวมผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มบุคคลแอบอ้างเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์จับกุมข่มขู่และกรรโชกทรัพย์ในกทม.และปริมณฑลได้ประมาณ 300 ราย แต่มีตัวแทนผู้เสียหายประมาณ 90 รายมายื่นเรื่องร้องเรียน ซึ่งหลายรายถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่คุกคาม โดยเฉพาะในขั้นตอนควบคุมตัวหลังถูกล่อซื้อ ส่วนใหญ่ต้องจ่ายเงินให้ขบวนการดังกล่าวตั้งแต่ 30,000-100,000 บาท แม้บางรายจะมีลิขสิทธิ์ถูกต้องเป็นของพรีออเดอร์ นำเข้าโมเดลการ์ตูนจากญี่ปุ่น ก็ถูกขบวนการดังกล่าวล่อซื้อให้นำของมาส่งโดยจะเลือกตัวที่ไม่มีกล่อง รวมถึงพ่อค้าที่ขายโมเดลการ์ตูนมือสอง ก็ถูกล่อซื้อเพื่อเรียกค่าปรับลิขสิทธิ์ลักษณะเดียวกัน ผู้เสียหายบางรายหวาดกลัว ยอมจ่ายเงินเพื่อยุติเรื่อง เมื่อทราบว่าเป็นขบวนการหากินอาศัยช่องว่างทางกฎหมายจึงรวมตัวเพื่อแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากพฤติการณ์เป็นเครือข่ายเดียวกันและมีภาพถ่ายแสดงความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มบุคคลดังกล่าว
นายวรกรกล่าวต่อว่าเบื้องต้นขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ ด้วยการประสานไปยังตำรวจเพื่อให้พนักงานสอบสวนใช้ดุลยพินิจประกันตัวผู้ต้องหาโดยไม่ต้องเรียกหลักทรัพย์ เพราะมั่นใจว่าหากคดีขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาล ศาลจะยกฟ้อง เพราะการล่อซื้อเป็นเจตนาให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐานที่ไม่สุจริต
ขณะที่นายสามารถกล่าวหลังรับเรื่องว่า จะนำเรื่องเสนอรมว.ยุติธรรม พิจารณาช่วยเหลือโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาใช้ช่องว่างทางกฎหมายมาหากินรีดทรัพย์จากประชาชน ซึ่งเกิดขึ้นมานานแล้ว จึงต้องเร่งแก้ไขเพื่อตัดวงจรขบวนการดังกล่าว ซึ่งกระทรวงยุติธรรมมีกองทุนยุติธรรมพร้อมช่วยเหลือทั้งค่าทนายความและหลักทรัพย์ประกันตัว
ผู้สื่อข่าวสอบถามผู้เสียหายรายหนึ่งที่ถูกกรรโชกทรัพย์ จากขบวนการที่อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ทราบว่า ตนมีอาชีพเสริมขายโมเดลการ์ตูนลิขสิทธิ์แท้ซึ่งเป็นของหิ้วนำเข้ามาครั้งละ 1-2ตัวโพสต์ขายออนไลน์ ต่อมามีผู้สั่งสินค้าติดต่อซื้อโดยให้นำของที่มีอยู่มาส่งที่ห้างแห่งหนึ่ง เมื่อส่งมอบสินค้าซึ่งมี 2 ตัว ก็มีกลุ่มที่อ้างว่าเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ไม่พอใจว่า ทำไมมีเพียง 2 ตัวและนำตนไปที่สน.ปากเกร็ด ข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ พร้อมใช้อุปกรณ์สำนักงานของโรงพักทุกอย่าง โดยอ้างว่าตำรวจติดภารกิจอื่นต้องสอบสวนแทนและยังแยกพ่อของตนไปสอบสวนอีกห้องหนึ่ง แต่โชคดีที่ร้อยเวรฯคนหนึ่งกลับมาเห็นเหตุการณ์จึงรับแจ้งความ ทำสำนวนและให้ไปสู้คดีชั้นศาล ซึ่งกรณีของตนบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นก็ยืนยันว่าเป็นโมเดลแท้ จึงอยากออกมาใช้สิทธิฟ้องกลับบุคคลที่แอบอ้าง เพื่อไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อกลุ่มคนดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี