ชัยวัฒน์-พวกมอบตัวDSI
ปฏิเสธทุกข้อหา
อ้างถูกกลั่นแกล้งฆ่า‘บิลลี่’
ค้นบ้านไร่ชัยราชพฤกษ์
หาหลักฐานซากรถจยย.
ฝากขังศาล-ได้ประกัน
“ชัยวัฒน์” พา 4 ลูกน้อง มอบตัวสู้ 8 ข้อหาคดีฆาตกรรม“บิลลี่” ยันไม่หนี จวกสื่อสร้างกระแสทำให้เป็นผู้ร้ายในโลกโซเชียล“ดีเอสไอ”แยกสอบก่อนนำตัวฝากขังผัดแรก เมียโผล่ค้านประกัน ขณะเดียวกันชุดปฏิบัติการพิเศษนำหมายค้น พร้อมนักประดาน้ำ-โดรนตรวจยิบบ้านไร่ชัยราชพฤกษ์และอีก 4-5 จุด เก็บหลักฐานเพิ่มงานงอก! บ้านไร่อยู่ในเขตป่าสงวนฯ ทำโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ
ความคืบหน้าหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขออนุมัติหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี)พร้อมพวกรวม 4 คน จากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีอุ้มฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน ผู้ต้องหาที่ 1 นายบุญแทน บุษราคำ ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฏฐ์ หรือนายไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอตามหมายจับ โดยเจ้าหน้าที่นำหมายจับมาแจ้งกับผู้ต้องหาทั้ง 4 แล้วนำตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวนทันที
ชัยวัฒน์พบDSI-เล็งแฉเบื้องหลัง
นายชัยวัฒน์ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอว่า มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดูหลักฐาน ทำไมถึงเร่งรีบสอบสวนภายใน 6 เดือนก็ทราบสาเหตุเรื่องราวทั้งหมด พบหัวกะโหลก ดีเอ็นเอ จนถึงขนาดขอศาลอาญาคดีทุจริตฯออกหมายจับข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต ทั้งที่ศาลอาญาทุจริตฯชื่อก็บอกอยู่ว่ามีอำนาจสอบสวนคดีทุจริต ไม่ใช่คดีอาญา ทั้งนี้ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวน ได้เห็นหลักฐานดีเอ็นเอและหัวกะโหลก ตนจะเปิดเผยทุกเรื่องว่าเป็นอย่างไร
ยันไม่หนี-ซัดสื่อทำให้เป็นผู้ร้าย
นายชัยวัฒน์ยืนยันว่า ตนและลูกน้องพร้อมสู้ ไม่คิดหนีไปไหน เพราะครอบครัวทุกคนอยู่ที่นี่ ตนเป็นข้าราชการรักเกียรติ รักศักดิ์ศรี จะให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ ตนกับลูกน้องทุ่มเทรักษาป่ามาตลอดชีวิต รักสถาบัน แต่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้เพราะข่าวที่สื่อสร้างเรื่องราว ทำให้ตนเสียหาย ทุกคนยังไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ ข่าวที่นำเสนอออกไปทำให้ตน ครอบครัว และสถาบัน กลายเป็นผู้ร้ายในโลกโซเซียล ตนในฐานะผู้พิทักษ์ป่าไม้ ไม่ว่าจะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ใหญ่แค่ไหน ถ้าตนยังยืนอยู่ สอยร่วงทุกคนแน่นอน
DSIแจงจับตามหลักฐานที่ขัดแย้ง
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดเผยหลังนายชัยวัตน์กับพวกรวม 4 รายเข้ามอบตัวว่า คดีนี้ดีเอสไอสอบปากคำพยานบุคคลไปแล้วมากกว่า 100 ปาก ในสำนวนคดียังมีวัตถุพยานนิติวิทยาศาสตร์ ภาพจากกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานทางเทคนิค และบันทึกการใช้โทรศัพท์ รวมทั้งสำนวนคดีจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่พบว่า นายชัยวัฒน์จับตัวนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ไปแต่ไม่มีหลักฐานปล่อยตัว และนายบิลลี่ก็หายตัวไป นอกจากนี้ นายชัยวัตน์ยังมีข้อพิพาทกับกลุ่มกะเหรี่ยงในพื้นที่ และเป็นคู่กรณีขัดแย้งกันมาตลอด ทั้งปัญหาที่อยู่อาศัย ปัญหาผู้นำชุมชนที่ถูกยิง และยังมีข้อมูลจากศาลปกครองที่มีคำสั่งให้ชดใช้บ้านเสียหายกะเหรี่ยงที่ถูกเผา
นอกจากนี้ ประเด็นสอบสวนเน้นการเชื่อมโยงหลักฐานที่มีทั้งหมด แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนจะออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ต้องดูพยานหลักฐาน ยืนยันดีเอสไอไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอนและพยานหลักฐานที่มี
ค้นบ้านชัยราชพฤกษ์หาหลักฐานเพิ่ม
อธืบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า หลังนายชัยวัฒน์และพวกทั้ง 4 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ได้จัดทีมพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหา 4ชุด แยกการสอบปากคำเป็น 4 ชุด อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าวันเดียวกัน มอบหมายให้ชุดปฎิบัติการพิเศษนำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านชัยราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายชัยวัฒน์ ในอ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อหาหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนายพอละจีหรือบิลลี่ เพิ่มเติม ซึ่งเป็นซากรถจักรยานยนต์ที่อาจทิ้งไว้ในบ่อน้ำ
แยกสอบ4ชม.-ไม่ขอใช้สิทธิ์ปล่อยตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังดีเอสไอขอศาลอาญาคดีทุจริตฯออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายพอละจี หรือบิลลี่ เป็นคดีพิเศษที่ 13/2562 ซึ่งศาลอนุมัติให้ออกหมายจับนายชัยวัฒน์ กับพวกรวม 4 คน และนายชัยวัฒน์เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยพ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตฯในคดีพิเศษที่ 13/2562 จริง จึงรับตัวไว้และบันทึกการจับ พร้อมแจ้งข้อหา รวมทั้งพฤติการณ์แห่งการทำผิดให้ทราบตามกฎหมาย จากนั้นจึงสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 ไว้ประกอบการสอบสวน โดยมีทนายความร่วมฟังการสอบสวน หลังสอบปากคำเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้ใช้สิทธิขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสอบสวน ต่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนพิเศษเห็นว่า มีเหตุจำเป็นต้องควบคุมตัวไว้ระหว่างการสอบสวน จึงยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขอให้มีคำสั่งให้ควบคุมตัวระหว่างการสอบสวน
คุมตัวส่งศาลฝากขังพงส.ค้านประกัน
จากนั้น เวลา 14.25 น..พนักงานสอบสวน ดีเอสไอคุมนายชัยวัฒน์ นายบุญแทน บุษราคำ นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ 4 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าบิลลี่ มายื่นศาลคดีทุจริตฯฝากขังครั้งแรก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 พฤศจิกายน เพราะการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากมารอทำข่าว และพยายามสอบถามนายชัยวัฒน์ถึงคดีดังกล่าว นายชัยวัฒน์ตอบสั้นๆ โดยยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำ และไม่กังวลเรื่องของคดี เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และกำลังจะขอยื่นประกันตัว โดยเตรียมใช้เอกสารรับรองจากกรมอุทยานฯ ที่จะใช้ตำแหน่งตนเองมายื่นเป็นหลักทรัพย์ด้วย
ยื่น5แสนประกันตัว-เมียบิลลี่ค้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการฝากขังนี้ น.ส.พิณนภาหรือมึนอ พฤกษาพรรณ ภรรยาของนายบิลลี่ในฐานะผู้เสียหาย ได้ยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 500,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขัง
นายกฯย้ำให้ว่าตามพยานหลักฐาน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.สัญจร)ในคดีนี้ว่า เป็นเรื่องของดีเอสไอที่ไปออกหมายจับกับศาล ไม่ได้มาขอกับตน เป็นเรื่องของศาลพิจารณาสั่งการ ตนไปสั่งการเรื่องกฎหมายไม่ได้ ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน ทุกอย่างต้องไปตามวัตถุพยาน พยานหลักฐาน พยานบุคคล ก็ว่าไปตามขั้นตอน การไปตรวจบ้านพัก หากเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบได้ ถือเป็นเรื่องกระบวนการ ตนไม่มีส่วนไปเกี่ยวข้อง ถ้าผิดก็ว่ากันไปตามผิด ตนไม่ไปช่วยเหลือใครทั้งสิ้น
ดีเอสไอระดมประดาน้ำ- โดรนค้นไร่
อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการเข้าตรวจค้นบ้านพัก ที่ไร่ชัยราชพฤกษ์ ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษดีเอสไอ นำหมายค้นจากศาลอาญาทุจริตฯเข้าตรวจค้นในบริเวณบ้านไร่ชัยราชพฤกษ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายชัยวัฒน์ โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ซึ่งนายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร พี่ชาย นายชัยวัฒน์เป็นผู้นำตรวจค้น มีพ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผอ.กองปฏิบัติการพิเศษ ดีเอสไอนำกำลังตำรวจจาก สภ.แก่งกระจาน นับสิบนาย นักประดาน้ำ เรือ อากาศยานไร้คนขับเข้าร่วมตรวจค้นด้วย โดยเฉพาะซากรถจักรยานยนต์ของนายบิลลี่
งานงอก!บ้านตั้งในเขตป่าสงวนฯ
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากชุดปฏิบัติการพิเศษของดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนจากศูนย์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านไร่ชัยราชพฤกษ์ ของนายชัยวัฒน์ โดยตรวจค้นในอาคารที่พักแล้ว ดีเอสไอยังนำโดรนฟินิกส์บินสำรวจเก็บหลักฐานทางอากาศทั่วบริเวณเนื้อที่ 200 ไร่ ของบ้านไร่ชัยราชพฤกษ์อีกด้วย รวมถึงนำโดรนสำรวจใต้น้ำเข้าตรวจหลักฐานในบ่อน้ำขนาดใหญ่ภายในไร่ เบื้องต้นจากการนำพิกัดภาพถ่ายทางอากาศมาเปรียบเทียบกับ DSI MAP พบว่าที่ตั้งของไร่ชัยราชพฤกษ์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ายางน้ำกลัดเหนือและป่ายางน้ำกลัดใต้ ซึ่งกันเป็นพื้นที่ปลูกป่าในโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี