แรงงานยันไทยยังปึ้ก!
ไม่วิกฤติเลิกจ้าง-ปิดรง.
นายกฯห่วงคนตกงาน แนะเลือกเรียนสาขาที่ตลาดต้องการ ต้องปรับการเรียนการสอนให้เข้ายุค ด้านเลขาฯรมว.แรงงาน แจงข่าวปิดกิจการเลิกจ้าง เป็นเรื่องเก่า ย้ำสถานการณ์จ้างงานในไทยยังไม่รุนแรง ส่วนใหญ่ที่ถูกเลิกจ้าง เป็นคนงานต่างชาติ ด้าน อุตฯเบรกอย่าตื่นตระหนก ชี้ภาพรวม ยังไม่ถดถอย โรงงานปิดตัวหลักพัน แต่ยื่นเปิดกิจการใหม่ทะลุ107%ตัวเลขจ้างงานเพิ่ม
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวระหว่างมอบโอวาทให้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่นำเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เป็นห่วงเรื่องคนตกงาน ดังนั้น ต้องดูตั้งแต่ต้นทาง เลือกเรียนสาขาให้ตรงความต้องการของตลาด วันนี้ศตวรรษที่ 20 การเรียนการสอนต้องปรับ ต้องสอนให้รู้จักคิด พูด ทำ และแสดงออก ไม่ใช่เป็นความขัดแย้ง แต่เพียงอย่างเดียว คิดด้วยหลักการและเหตุผล ซึ่งกฎหมายทุกประการมีหมด
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เลขานุการ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงานโพสเฟสบุ๊คส่วนตัวชี้แจงกระแสข่าวที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาขณะนี้ว่า คนไทยตกงานกันมากจริงหรือไม่ มีสาระสำคัญว่า ปัจจุบันมีคนเอาข่าวเก่าเรื่องปลดคนงาน ซึ่งส่วนใหญ่แก้ปัญหาไปแล้วมาเผยแพร่ เพราะสถานการณ์ตอนนี้น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ในประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นนั้น ส่วนใหญ่ที่ถูกเลิกจ้างคือ คนงานเป็นต่างชาติ ด้วยเหตุผลต่างกันแล้วแต่กรณี ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในรูปแบบต่างๆเข้ามามีบทบาทกระทบต่องานประจำของคนทั่วไปมากขึ้น โดยยกข้อมูลจาก “เวลส์ ฟาร์โก” ธนาคารหลักของสหรัฐฯระบุไว้ชัดเจนว่า จะมีพนักงานธนาคารในสหรัฐฯตกงานมากกว่า 200,000 คน จากการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพราะช่วยลดต้นทุนของธนาคารได้
พล.ท.นันทเดชยังชี้แจงต่อว่า นอกจากนี้ นายไมก์ คอร์แบต ผู้บริหารของซิตี้กรุ๊ประบุว่า ระหว่างปี 2558-2568 คนทำงานธนาคารทั้งในสหรัฐฯและยุโรป เสี่ยงตกงานสูงเกือบ 2 ล้านคน ส่วนอุตสาหกรรมอื่น จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น เช่น ร้านพิซซ่า “Picnic” ในซีแอตเทิลที่ใช้ “พิซซ่าโรบอต” ผลิตพิซซ่าขนาด 12 นิ้วได้ 300 ชิ้นต่อชั่วโมง ขณะที่คน 6 คน ผลิตพิซซ่าได้อย่างมาก เพียง 20 ชิ้นต่อชั่วโมง เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางธุรกิจ จึงเป็นเรื่องที่หนีไม่ได้อยู่แล้ว
“ดังนั้น เพื่อเลี่ยงถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี แรงงานต้องพัฒนาและเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญที่ต้องสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผ่านไปสู่งานอีกแบบหนึ่งให้ได้ คือ ต้องเริ่มต้นอย่างไม่เลือกงานก่อน ซึ่งกระทรวงแรงงาน วางแนวคิดแก้ปัญหาไว้แล้ว โดยทำให้คนเข้าใจความหมายของการทำงานแบบ 4.0
การสอนแนวทางการทำงานต่อไปนี้ ต้องสอนให้ผู้เรียนเข้าใจว่า ต้องได้ผลผลิตขึ้นมา และต้องพยายาม สร้างนวัตกรรมขึ้นมาจากผลผลิตนั้นด้วย” เลขาฯรมว.แรงงานกล่าว
ขณะที่นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา รองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจงกระแสข่าวที่โรงงานปิดกิจการและการเลิกจ้างงานในปัจจุบันว่า จากข้อมูลกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 12 พฤศจิกายน แม้มีการยื่นขอปิดกิจการโรงงาน 1,391 โรงงาน แต่เมื่อเทียบกับการขอยื่นประกอบกิจการโรงงานใหม่ ซึ่งมีถึง 2,889 โรงงาน พบว่าโรงงานเปิดใหม่ยังมากกว่าปิดกิจการสูงถึง 107% ในส่วนแรงงานแม้มีการเลิกจ้างจากการปิดกิจการ 35,533 คน แต่มีการจ้างงานจากการประกอบกิจการใหม่สูงถึง 84,033 คน และมีการจ้างงานเพิ่มจากการขยายโรงงานอีก 84,704 คน ซึ่งปัจจุบันพบว่ายังมีโรงงานหลายแห่งต้องการรับแรงงานเพิ่มอีกจำนวนมาก และในส่วนการลงทุนใหม่จากการประกอบกิจการใหม่และการขยายกิจการโรงงานเดิม พบว่าปี 2562 มีเงินลงทุนเพิ่มเติมในกิจการโรงงานถึง 431,216 ล้านบาท สูงกว่าปีแล้วถึง 36.6% ฉะนั้น ขอให้สังคมอย่าตื่นตระหนกกับข้อมูลด้านเดียว ภาพรวมการดำเนินกิจการโรงงานในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในสภาพถดถอยแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี